โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ใคร”อยู่เบื้องหลัง แปะป้ายม็อบ“รวมพลังแผ่นดิน” เปิดทางรัฐประหาร!?!

สยามรัฐ

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ม็อบรวมพลังแผ่นดิน” เปิดทางรัฐประหารจริงหรือ? เมื่อเจตนารมณ์ประชาชนถูกแปรความเพื่อทำลายความชอบธรรม

ปลายเดือนมิถุนายน 2568 การชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองไทย การรวมตัวของประชาชนจากหลายภาคส่วนเพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกหรือยุบสภา ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมไทย

แต่ขณะเดียวกัน มีความพยายามจากบางฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลในการแปรเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุม ให้กลายเป็น “การเคลื่อนไหวเพื่อเปิดทางให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซง” โดยเฉพาะคำว่า “รัฐประหาร” ที่ถูกโยงเข้าอย่างจงใจ

คำถามคือ ม็อบนี้เปิดทางรัฐประหารจริงหรือ? หรือเป็นเพียงความพยายามทำลายความชอบธรรมของมวลชน?

เสียงประชาชนหรือเงาของอำนาจนอกระบบ?

จากการสังเกตการณ์ของนักวิเคราะห์การเมืองอิสระ มีการระบุว่าเจตนารมณ์ของประชาชนในม็อบรวมพลังแผ่นดินหลากหลาย ไม่ใช่แค่เรื่องตัวบุคคล แต่รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของชาติ และปฏิเสธอิทธิพลต่างชาติ โดยเฉพาะหลังกรณี “คลิปเสียงฮุน เซน” ที่สร้างแรงกระเพื่อมในหมู่ประชาชนอย่างหนัก

เจตนารมณ์เด่นจากมวลชน ได้แก่

-เรียกร้องให้น.ส.แพทองธารลาออก หรือยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน

-ไม่ยอมรับการแทรกแซงจากผู้นำกัมพูชาในกิจการภายในของไทย

-ต้องการแสดงพลังว่า ประชาชนคือเจ้าของประเทศ ไม่ใช่เครือข่ายตระกูลใด

-ปฏิเสธการใช้อำนาจส่วนตัวเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำจากผู้ชุมนุมบางส่วน ที่กล่าวในลักษณะว่า “หากแพทองธารไม่ลาออก ก็ไม่ขัดขวางอำนาจนอกระบบ” ได้ถูกนำไปใช้เป็น เครื่องมือทางการเมือง โดยฝ่ายรัฐบาลและเครือข่ายเพื่อไทย เพื่อกล่าวหาว่าม็อบนี้ “ไม่บริสุทธิ์” และอาจเป็นฉากหน้าให้กลุ่มอำนาจพิเศษ

ความจำเป็นที่ต้องแยก “ข้อเท็จจริง” กับ “การตีความ”

1. การตีความว่าม็อบเปิดทางรัฐประหาร คือการลดทอนความชอบธรรมของประชาชน ฝ่ายที่ต้องการปกป้องรัฐบาลมักใช้วาทกรรมว่า “ประชาธิปไตยต้องอยู่ในระบบ” แต่ลืมไปว่าประชาชนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่จะชุมนุมโดยสงบเรียบร้อย และการเรียกร้องให้ผู้นำลาออกไม่ใช่การยั่วยุรัฐประหาร

2. ม็อบครั้งนี้ไม่มีพรรคหนุน ไม่มีแกนนำพิเศษ ไม่มีสีเสื้อ การรวมตัวที่หลากหลาย และไร้โครงสร้างพรรคการเมือง แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติของมวลชน ซึ่งแตกต่างจากม็อบทางการเมืองในอดีตที่มีผู้อยู่เบื้องหลังชัดเจน

3. ถ้อยคำบางคนไม่ใช่ข้อเรียกร้องร่วม การนำคำพูดของแกนนำบางคน หรือคนกลุ่มเล็กๆ ไปตีความว่าทั้งม็อบสนับสนุนรัฐประหาร คือการใส่ร้ายเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่ต้องการความเปลี่ยนแปลงโดยสันติวิธี

ความเสี่ยงของการแปะป้าย “ม็อบเปิดทางรัฐประหาร”

หากกระแสที่กล่าวหาว่าม็อบนี้เป็น “ฉากหน้าของอำนาจนอกระบบ” ขยายวงกว้าง จะก่อให้เกิดผลลบในหลายระดับไล่ตั้งแต่

-ลดความชอบธรรมของมวลชน ทำให้ประชาชนลังเลที่จะเข้าร่วม

-สร้างความแตกแยกในสังคม เพราะฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลจะมองผู้ชุมนุมเป็นศัตรูประชาธิปไตย

-เปิดช่องให้รัฐใช้มาตรการรุนแรง เช่น การจับกุม ปิดกั้นสื่อ หรือสลายการชุมนุมโดยอ้างความมั่นคง

-เบี่ยงเบนประเด็นหลักจากการตรวจสอบรัฐบาล ไปสู่เกมความมั่นคง

ความชอบธรรมอยู่ที่ “เป้าหมายและวิธีการ”

หากม็อบรวมพลังแผ่นดินยืนหยัดในหลักสันติวิธี และแสดงจุดยืนชัดว่า “ไม่ต้องการอำนาจพิเศษ ไม่ต้องการรัฐประหาร” พร้อมยืนยันว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นความไว้วางใจต่อการเมืองโดยประชาชน นี่คือพลังที่แท้จริงของประชาธิปไตย

ในทางกลับกัน หากรัฐบาลยังคงเพิกเฉยต่อเสียงเหล่านี้ แล้วเลือกจะ “แปะป้าย” ประชาชนให้กลายเป็นภัย ยิ่งจะตอกย้ำว่ารัฐบาลนี้กำลังเดินผิดทาง และไม่เหลือความชอบธรรมแม้แต่น้อย

ม็อบนี้จะเป็นพลังประชาชน หรือถูกกลืนเป็นข้ออ้างรัฐ?

การชุมนุมของ “รวมพลังแผ่นดิน” เป็นการเคลื่อนไหวตามสิทธิ์ที่รัฐธรรมนูญไทยรับรอง และสะท้อนความไม่พอใจต่อผู้นำประเทศที่ถูกมองว่าไร้ความชอบธรรม ไม่ใช่ม็อบเพื่อยึดอำนาจ หรือเปิดทางให้ใครขึ้นมาแทนด้วยวิธีพิเศษ

หากต้องการหลีกเลี่ยงรัฐประหาร สิ่งที่ดีที่สุดคือผู้นำต้องรู้จัก “ถอย” ก่อนที่ความไม่พอใจจะลุกลามไปถึงจุดที่ไม่มีใครควบคุมได้

#ม็อบรวมพลังแผ่นดิน #ปกป้องอธิปไตย #อย่าแปะป้ายประชาชน #รัฐประหารไม่ใช่คำตอบ #แพทองธารต้องฟังเสียงประชาชน #เพื่อไทยเสื่อมศรัทธา #ประชาชนคือเจ้าของประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center แห่งอนาคต ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ความยั่งยืน

27 นาทีที่แล้ว

โปรดทราบ! ห้ามพกพาวเวอร์แบงก์ไม่มีสัญลักษณ์ CCC เข้า “จีน” เริ่มมีผล 28 มิ.ย.68

27 นาทีที่แล้ว

SA เปิดโครงการใหม่ “Silver Age Residence” มูลค่า 2,300 ล้าน รุกธุรกิจ Health & Wellness จับเทรนด์ Silver Economy

30 นาทีที่แล้ว

OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัล Asia Responsible Enterprise Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมระดับเอเชีย

38 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม