ชุมนุมจี้นายกฯ ลาออก ชี้คลิปเสียงทำให้เกิดสงคราม
วันที่ 2 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มวลชนได้ทยอยเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมอุปกรณ์การชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธงชาติไทย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
ทั้งนี้ กิจกรรมการชุมนุมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อเวลา 12.00 น. โดยมีแกนนำและตัวแทนสลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที ท่ามกลางแดดร้อนจัด
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บอกว่า การชุมนุมวันนี้ (2 ส.ค.) จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยยังคงยืนยันในข้อเรียกร้องเดิม ที่ต้องการให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งมีคำพูดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา จึงมองว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามความขัดแย้ง จนส่งผลให้พี่น้องประชาชนบริเวณชายแดนได้รับความเดือดร้อน และทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ดังนั้นนางสาวแพทองธาร จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาลด้วย
นายพิชิต ยังได้ประณามกัมพูชาที่ยิงปืนใหญ่ พุ่งเป้าหมายไปยังพลเรือน ซึ่งนับเป็นการทำร้ายประชาชนไทย และเป็นอาชญากรสงคราม อีกทั้งการไปเจรจาให้หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขนั้น มองว่าทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะยังมีทุ่นระเบิดอยู่ในพื้นที่และทำให้ทหารไทยรบได้ยากลำบาก
ส่วนกรณีที่รัฐบาล ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการชุมนุมว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโจมตีกันนั้น นายพิชิต บอกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพูดเรื่องนี้มาก่อนที่จะเกิดสงคราม ยืนยันไม่ได้ขัดขวางการสู้รบ เนื่องจากในการชุมนุมมีการเปิดรับบริจาคสิ่งของไปให้ทหารและชาวบ้านตามแนวชายแดน และคนไทยต้องจัดการไส้ศึก ซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรี ที่เป็นจุดอ่อนความมั่นคงของประเทศ ทำให้รัฐบาลกัมพูชาถือไพ่เหนือกว่า เพราะมีคลิปเสียงที่สามารถสู้รัฐบาลไทยได้
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี อ้างว่า สงครามเกิดจากการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรนั้น นายพิชิต มองว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นการทำงานที่เป็นรูปธรรมในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ของรัฐบาล ไม่ว่าจะตัดไฟ ตัดเน็ต พร้อมถามไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่า คุณภูมิใจขนาดไหน ที่ยืนอยู่บนเลือดของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิต คุณต้องออกมาขอโทษด้วยซ้ำ ไม่ใช่สู้รบกันและมาอ้างว่าเป็นผลงานเด่นของรัฐบาล นี่คือความอัปยศที่สุดที่คุณแพทองธารได้กระทำกับพี่น้องประชาชน
สำหรับการชุมนุมในครั้งนี้ คาดว่าจะมีมวลชนทั้งจากพื่นที่ กทม. และต่างจังหวัดเดินทางมาสมทบเรื่อย ๆ ซึ่งมวลชนจะปักหลักร่วมกิจกรรมการชุมนุมไปจนถึงเวลา 21.00 น. และอาจค้างคืนได้
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมกำลังรักษาความปลอดภัยไว้โดยรอบพื้นที่กว่า 2,000 นาย พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะแม้จะไม่ได้มีการปิดช่องจราจร แต่การจราจรเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้า.