นักโภชนาการญี่ปุ่นเผยวิธีลดน้ำหนัก 10 กก 3 เดือน ด้วย “การกินชาบู”
“ชาบู” ไม่ได้แค่ช่วยให้อุ่นใจในวันฝนตก แต่อาจเป็นทางออกสำหรับคนอยากผอมแบบไม่ทรมาน!
“เรมิ อาโซ” (Reimi Aso) นักโภชนาการชาวญี่ปุ่น เปิดเผยเคล็ดลับการลดน้ำหนักแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ผ่านประสบการณ์ตรงของตัวเอง เธอสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัมในเวลาเพียง 3 เดือน ด้วยวิธีที่หลายคนคาดไม่ถึง — กิน “ชาบูชาบู” เป็นอาหารหลัก
เรมิเน้นว่าวิธีนี้ ไม่ใช่การอดอาหารหรืออดทนกับความหิว แต่คือการเลือกกินอย่างชาญฉลาด กินให้อิ่มแต่อยู่ในขอบเขตที่ร่างกายรับไหว พร้อมควบคุมคาร์โบไฮเดรต ลดน้ำตาล และเพิ่มผักโปรตีนแบบจัดเต็ม
5 ข้อดีของการทานชาบูเพื่อลดน้ำหนัก
1.กรองไขมันส่วนเกิน – เนื้อสัตว์ต้มในน้ำจะช่วยละลายไขมันส่วนเกินออกไป และหลีกเลี่ยงเนื้อส่วนที่มันสูงได้ง่าย
2.ทานผักได้มากขึ้น – เมื่อผ่านความร้อน ผักจะนิ่มลงและปริมาณลดลง ทำให้ทานได้มากขึ้น
3.ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด – หลีกเลี่ยงแป้งและอาหารแปรรูป ใช้เต้าหู้หรือบุกแทนแป้ง
4.บังคับให้ทานช้า ๆ – เพราะต้องคีบและต้มทีละชิ้น ทำให้ไม่เผลอกินเร็วและมากเกินไป
5.ไม่เบื่อง่าย – ด้วยน้ำซุป ซอส และวัตถุดิบที่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจ
วิธีทานแบบ “เรมิ อาโซ”
- เริ่มมื้อด้วย ผักและเห็ด → เต้าหู้ → เนื้อสัตว์ → คาร์โบไฮเดรต (เลือกข้ามได้)
- เวลาทานแนะนำระหว่าง 18.00 – 20.00 น.
- ปริมาณ: ผักเท่าสองมือเต็ม / เนื้อสัตว์เท่าฝ่ามือหนึ่งข้าง
- หลีกเลี่ยงซอสหวาน ซอสญี่ปุ่นหรือน้ำส้มสายชูรสส้มดีที่สุด
- ใช้เต้าหู้แทนข้าวหรืออุด้งในมื้อหลัก
คำพูดของเธอ
“ฉันผอมลงด้วยวิธีนี้! ชาบูคือทางเลือกที่ภาระน้อย อิ่มท้อง และดีต่อสุขภาพจริง ๆ”
ปัจจุบันวิธีนี้ได้กลายเป็น “เทรนด์ใหม่” ในหมู่คนญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนวัยทำงานและวัยกลางคนที่ต้องการหาวิธีลดน้ำหนักที่ไม่ทรมานและยังสามารถเข้าสังคมได้เวลาทานแนะนำระหว่าง 18.00 – 20.00 น.