AI ของ iPhone ยังไม่เริ่ด ไม่เป็นไร ขายดีแล้วกัน แม้ต้องแลกกับความเสี่ยง
การเปิดตัว iPhone แต่ละปี คือช่วงเวลาที่คอเทคโนโลยีทั่วโลกรอคอย ลุ้นนวัตกรรมใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ การต่อแถวรับ iPhone ตั้งแต่เปิดขายวันแรก และการได้แกะกล่อง iPhone ใหม่เอี่ยมก่อนใครคือประสบกาณ์ที่แฟนๆ Apple เฝ้ารอ
Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2025 สร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตสองหลักจากการขาย iPhone, Mac และบริการ (Services) เติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลก รายได้รวม 94,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% เทียบปีต่อปี กำไรต่อหุ้นเติบโตขึ้น 12%
รายได้จาก iPhone อยู่ที่ 44.6 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 2% จากการเปิดตัว iPhone 16e ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นของ iPhone 16 ขณะที่รายได้จาก Mac อยู่ที่ 8,046 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% หลังจากการเปิดตัว MacBook Air ชิป M4 ส่วนรายได้จาก iPad อยู่ที่ 6,581 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 15% และรายได้จากบริการก็ยังคงแข็งแกร่งถึง 27,423 ล้านดอลลาร์
Apple ยังเดินทางมาถึงหมุดหมายสำคัญคือสามารถขาย iPhone ไปแล้ว 3,000 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 พิสูจน์แล้วว่า iPhone ยังเป็นมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดแบรนด์หนึ่งของโลก
ความท้าทายของ Apple ในตอนนี้คือ จะยังครองบัลลังก์มือถือขายดีไปอีก 5-10 ปีข้างหน้าได้หรือไม่ เพราะอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนได้ก้าวสู่ยุค AI Phone เต็มตัวแล้ว ไม่ใช่แค่กล้องดี วัสดุดี แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน แต่ต้องรองรับการใช้งาน AI หรือมีฟีเจอร์ฉลาดๆ มาเป็นจุดขาย
นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ครั้งแรกในปี 2022 และการเปิดตัว Samsung Galaxy S24 ซีรีส์ในปี 2024 การเชื่อมต่อระหว่างคนกับดีไวซ์ ได้เปลี่ยนไป คน interact กับ AI บนดีไวซ์มากขึ้น แล็ปท็อปและมือถือต้องปรับตัวมาใช้ชิปที่ทรงพลังเพื่อรองรับการประมวลผลจากการใช้งาน AI ซึ่งกินพลังประมวลมากกว่า ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า
ช่วงหนึ่งเราเลยได้ยินบรรดาค่ายมือถือต่างงัดฟีเจอร์ AI มาเป็นจุดขาย จากสมาร์ทโฟนธรรมดา จึงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า AI Phone
Apple เองก็ขยับด้วยการเปิดตัว Apple Intelligence ใช้ AI ช่วยเขียน สร้างรูปภาพ ลบวัตถุในภาพ แปลภาษาเรียลไทม์ระหว่างโทรคุย แต่หลายๆ ฟีเจอร์เปิดตัวตามหลังค่ายอื่นเป็นปี อย่างฟีเจอร์แปลภาษาก็ยังไม่รองรับภาษาไทยเสียที
Apple ยังมีประเด็นเรื่องโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับความสามารถของ Siri ที่อ้างว่าเก่งเหมือนเป็นเลขาส่วนตัว โดยในวิดีโอโฆษณาที่ได้นักแสดง Bella Ramsey มาร่วมแสดงนั้นมีเนื้อหาว่า Bella จำชื่อคนคนหนึ่งไม่ได้ จึงถาม Siri ว่าจำคนที่เคยเจอที่คาเฟ่แห่งหนึ่งเมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้หรือไม่ และ Siri ก็สามารถตอบได้จากการค้นดูในปฏิทิน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว Siri เวอร์ชั่นที่พัฒนาแล้วยังมาไม่ถึง กรณีการโฆษณาเกินจริงนี้จึงยังคงเป็นคดีฟ้องร้องในกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพราะลูกค้าซื้อ iPhone ไปด้วยความหวังว่าจะสามารถใช้ฟีเจอร์ Siri เวอร์ชั่นอัปเกรดได้
ระหว่างนั้นก็มีข่าวลือซุบซิบ ผู้บริหาร Apple ไม่พอใจ ผิดหวังในความล่าช้าในการพัฒนา Apple Intelligence และการยกเครื่อง Siri ที่ยังไม่สามารถเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์ตามที่คาดหวังไว้
ล่าสุด Apple ให้สัญญา และย้ำในการประชุมผู้ถือหุ้นหลายครั้งว่าจะเปิดตัว Siri เวอร์ชั่นอัปเกรดในปี 2026
โดยสรุปแล้ว แม้ Apple จะยังคงทำผลงานด้านยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ความท้าทายในยุค AI Phone ที่กำลังร้อนแรงทำให้ Apple ต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองในการนำเสนอเทคโนโลยี AI ที่จับต้องได้และตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งปีหน้า ถ้า Siri ทำได้อย่างที่เคยโฆษณาไว้จริง แฟนๆ Apple ก็จะได้กลับมาภาคภูมิใจอีกครั้ง