รัฐบาลส่งรัฐมนตรีร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารและพลเรือนผู้เสียชีวิต มอบรายละ 1 ล้านบาท พร้อมดูแลครอบครัวเต็มที่
วันนี้ (4 สิงหาคม) จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ แก่ทหารและพลเรือนประชาชนที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยรัฐบาลได้มอบหมายรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหาร-พลเรือน ดังนี้
- สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดขอนแก่น
- จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดเลย
- สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดยโสธร
- นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี
- สุดาวรรณ ศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดนครราชสีมา
- ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดหนองคาย
- ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000,000 บาทต่อราย จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้แก่ครอบครัวทหารและประชาชนที่เสียชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและสร้างหลักประกันให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลัก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ และประชาชนผู้อพยพ รวมถึงเพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และส่วนกลางอีกด้วย
รัฐบาลขอสดุดีทหารกล้าทุกนายที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศและคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัย ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และความเป็นอยู่ของครอบครัวทหารและพลเรือนที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้ครอบครัวมีความมั่นคงและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป