โบรกคงน้ำหนัก Neutral กลุ่มค้าปลีก ฟันธงหุ้นปลอดภัยแนวโน้มกำไรชัดแม้ SSSG ใน Q2/68 ส่อติดลบ
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ไตรมาส 2/68 กลุ่มค้าปลีกของไทยกลับมาอยู่ภายใต้แรงกดดันอีกครั้ง เชื่อว่าบริษัทค้าปลีกที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯศึกษา เกือบทั้งหมด ประกอบด้วย BJC, CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME, GLOBAL, HMPRO และ MOSHI น่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ( SSSG) ติดลบ เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศอ่อนตัวลงชัดเจนตั้งแต่เดือนเม.ย.68 เป็นผลจากปัจจัยลบในระดับมหภาค ทั้งสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดลง, ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐและความไม่แน่นอนทางการเมือง อีกทั้งปีที่แล้วมีฐานสูงจากปรากฎการณ์เอลนีโญทำให้ยอดขายเครื่องดื่มและเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้น จึงยิ่งกดดันกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและ home improvement
แม้ปกติแล้วผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าผู้ค้าปลีกกลุ่มอื่น แต่ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ก็ไม่สามารถหลีกหนีผลกระทบในไตรมาส 2/68 ได้ โดยคาดว่า 7-Eleven, BigC และ Lotuss ประเทศไทยจะมี SSSG ติดลบเล็กน้อย เพราะยอดขายเครื่องดื่มและนักท่องเที่ยวลดลง ขณะที่ CPAXT น่าจะผู้ค้าปลีกรายเดียวที่ outperform เนื่องจาก Makro มียอดขายออนไลน์เติบโตและ Lotuss มาเลเซียมียอดขายแข็งแกร่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่วนผู้ค้าปลีกสินค้า home improvement น่าจะมีผลประกอบการอ่อนตัวลงมากที่สุด เนื่องจากคาดว่าผู้เล่นทุกรายจะมี SSSG ติดลบในไตรมาส 2/68 และกลุ่มนี้จะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันในครึ่งหลังปี 68 เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มชะลอตัวและเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเข้มงวดมากขึ้น
สำหรับยอดขายสินค้ากลุ่มแฟชั่นของ CRC มีแนวโน้มอ่อนตัวทั้งในไทยและอิตาลี ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยน้อยลง และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลงมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ตรงข้ามกับ MOSHI ที่มองว่าโดดเด่นด้วย SSSG ที่น่าจะเติบโตสูงถึง 15% ในไตรมาส 2/68 หรือ 5-6% หากตัดปัจจัยฐานต่ำออกไป ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การตั้งราคาให้เข้าถึงได้, การพัฒนาด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและการทำ Visual Merchandising ที่ได้ผลดี
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI แนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) กลุ่มค้าปลีก เพราะมองว่าตลาดรับรู้การบริโภคที่อ่อนตัวลงแล้ว เห็นได้จากการประเมินมูลค่าที่ P/E 14.6 เท่า ในปี 68 หรือ -1.7SD จากค่าเฉลี่ยสามปี และเมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มองว่าหุ้นปลอดภัยที่มีแนวโน้มทำกำไรชัดเจนอย่างเช่น BJC และ CPALL เป็นตัวเลือกที่ดี ขณะเดียวกัน แม้ว่า MOSHI จะไม่นับว่าเป็นหุ้นปลอดภัย แต่บริษัทมีศักยภาพเติบโตที่น่าสนใจ ด้วยแรงหนุนจาก SSSG ที่มีโมเมนตัมแข็งแกร่ง, margin ที่สูงขึ้นและการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มค้าปลีกจะมี upside risk หากการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาดและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วน downside risk จะมาจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวยืดเยื้อและค่าแรงที่สูงขึ้น
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO