จับกุมผู้ต้องหาสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอมและปลอมแปลงเอกสารราชการ พบรถยนต์ผิดกฎหมายถึง 2 คัน
จับกุมผู้ต้องหาสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอมและปลอมแปลงเอกสารราชการ พบรถยนต์ผิดกฎหมายถึง 2 คัน
กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุม นายตา (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร
2.ป้ายทะเบียน ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น
3.แผ่นป้ายชำระภาษีประจำปี ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น
4.สำเนาคู่มือรถ ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น
5.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร
6.ป้ายทะเบียน ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น
7.แผ่นป้ายชำระภาษีประจำปี ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น
8.สำเนาคู่มือรถ ระบุหมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากผู้เสียหายว่า ได้รับใบสั่งจราจรจาก ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. ซึ่งได้กระทำความผิดในข้อหาขับรถเร็วตาม พรบ.ทางหลวง เหตุเกิดที่ ทล.43 กิโลเมตร 87-88 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.56 น. โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ไม่เคยขับรถคันดังกล่าวมาในพื้นที่ที่เกิดเหตุ จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้หลักฐานไว้ที่ สน.บึงกุ่ม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามรถคันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรถที่ใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม
ต่อมาตามวันเวลาที่จับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กำลังออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และ พรบ.ที่มีโทษทางอาญาฯ อยู่นั้น เมื่อขับมาถึงบริเวณ ทล.42 กิโลเมตร 222-223 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้พบกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งตรงกับที่ได้รับแจ้ง จอดอยู่ริมถนน บริเวณเขตทางหลวง 42 กม.222-223 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบผู้ต้องหาคือ นายตา (นามสมมุติ) ได้แสดงตนเป็นผู้ครอบครองรถยนต์และเอกสารดังกล่าวที่ปรากฏตามรายการของกลางข้างต้น
ผลการตรวจสอบปรากฎว่า รถยนต์คันดังกล่าวติดแผ่นป้ายทะเบียนและเอกสารของกลางดังกล่าว ตามลำดับที่ 1-4 ซึ่งมีตำหนิไม่ตรงกับแผ่นป้ายและเอกสารที่ออกโดยทางราชการ, ไม่มีตำหนิสำคัญตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าข้อมูลรถของกลางไม่ตรงกับเลขป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับรถของกลาง จึงเชื่อได้ว่าเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งผู้ต้องหาก็ได้แสดงตนเป็นผู้ครอบครองรถยนต์และเอกสารดังกล่าวที่ปรากฏตามรายการของกลาง
ลำดับที่ 5-8 จึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมปรากฎว่า รถยนต์, ป้ายทะเบียนและเอกสารตามของกลางลำดับที่ 5-8 นั้นมีตำหนิไม่ตรงกับแผ่นป้ายและเอกสารที่ออกโดยทางราชการ, ไม่มีตำหนิสำคัญตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ก็พบว่าข้อมูลรถของกลางไม่ตรงกับเลขป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับรถของกลาง จึงเชื่อได้ว่าเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ และได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงนำตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกการจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา