รองเลขาฯ ศอ.บต. ร่วม 4 หน่วยงานเสวนามิติด้านการพัฒนาของการศึกษา จชต.

นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “การศึกษาเพื่อความมั่นคง : ทางรอด ทางเลือก และทางร่วม สร้างพื้นที่แห่งโอกาสและความเข้าใจ” โดยมีนายคเชนทร์ กรรณิกา รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พลตรี ชาติชาย เกื้อกิจ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนายุทธศาสตร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และนายนิกร เซ้งเถียร ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมเสวนา

นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงในมิติด้านการพัฒนาของการศึกษาว่า ปัจจุบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นเรื่องของวิถีชีวิต ซึ่งมีทั้งการศึกษาตามหลักศาสนา และการศึกษาตามระบบของรัฐ ที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ซึ่งเราจะต้องช่วยกันหาวิธีการที่จะทำให้การศึกษาทั้ง 2 แบบ สามารถเดินไปด้วยกันได้ ในด้านของสายศาสนาจะต้องมีความพร้อมความตั้งใจของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลไกของศาสนา สร้างการเรียนรู้เป็นลำดับไปจนถึงการศึกษาในระดับสูงของสายศาสนา ในส่วนของ การศึกษาตามระบบของรัฐ ที่มีการออกแบบการเรียนรู้เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก ไปจนถึงระดับปริญญา ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายและทิศทางของพื้นที่ โดยศอ.บต. ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกรอบแนวคิดในการพัฒนา 2 ระดับ คือ 1.ระดับเศรษฐกิจชุมชน หรือฐานราก ส่งผลโดยตรงต่อครอบครัวและชุมชน พิจารณาตามศักยภาพและความพร้อม ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนการพัฒนาประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ รวมถึงนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเชื่อมโยงกับทุกๆ ส่วน 2.ระดับอนุภูมิภาค เป็นการพัฒนาที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จากพื้นที่ทั้งทางบก ทะเล และพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะสำรวจจากฐานเศรษฐกิจชุมชน ที่มีความพร้อมในการผลิตอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยพื้นที่ของเราเป็นพื้นที่พิเศษที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้น จึงทำให้บางพื้นที่มีการผลิตแบบไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น เราต้องอาศัยกลุ่มบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ซึ่งเปรียบเสมือนโซ่ข้อกลางในการทำหน้าที่สร้างความเข้าใจข้อมูลข่าวสาร นโยบาย รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้รับทราบจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความยากจนทุกมิติที่ ศอ.บต. ได้จับมือกับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วน จนยกระดับสินค้าภายในชุมชนให้มีมูลค่า สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ กับประชาชนต่อไป

หากปัญหาที่เหล่านี้ได้รับการแก้ไข เชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จะลดระดับลง โอกาสในการพัฒนาจะเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้ระบบการศึกษามีความสำคัญมากขึ้น ทรัพยากรมนุษย์ของเราจะมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและนำไปสู่ การคิดและการสร้างอนาคตของตนเองได้มากยิ่งขึ้นด้วย