ทรัมป์เล็งเป้าขึ้นภาษีกับญี่ปุ่น ชี้สหรัฐเตรียมประกาศข้อตกลงการค้าหลังวันชาติ
โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษีชุดใหม่กับญี่ปุ่น ขณะที่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงระบุว่า ทำเนียบขาวมีเป้าหมายจะสรุปข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าหลังวันหยุด 4 กรกฎาคม
แรงกดดันล่าสุดของทรัมป์ที่มีต่อญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (30 มิถุนายน) เกิดขึ้นก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐฯ อาจกลับมาใช้ภาษีในอัตราที่สูงขึ้นกับประเทศคู่ค้าหลายสิบแห่ง รวมถึงญี่ปุ่น
โดยทรัมป์อ้างว่าญี่ปุ่น “ไม่ยอมรับข้าวจากสหรัฐฯ” แม้จะเผชิญปัญหาขาดแคลนข้าวภายในประเทศ
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์พยายามใช้แรงกดดันต่อประเทศคู่เจรจาการค้า ก่อนถึงเส้นตายที่กำลังจะมาถึง โดยขู่ว่าจะยุติการเจรจากับประเทศที่เขามองว่ายากต่อการตกลง และจะส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีแทน
ประธานาธิบดีได้ชะลอการเก็บภาษีแบบรายประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาต่อรอง แต่ตั้งแต่นั้นมา เขาและทีมงานก็ให้คำมั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าข้อตกลงต่าง ๆ จะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ทว่าจนถึงขณะนี้ มีเพียง 2 ข้อตกลงเท่านั้นที่ประกาศออกมา ซึ่งก็เป็นเพียงกรอบความร่วมมือเบื้องต้นกับจีนและสหราชอาณาจักรเท่านั้น
Kevin Hassett ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว เผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศข้อตกลงการค้ากับหลายประเทศหลังวันชาติ 4 กรกฎาคม
โดยที่ผ่านมาเน้นผลักดันร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณฉบับใหญ่ของทรัมป์ผ่านสภาคองเกรสให้ทันก่อนวันหยุด
ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายสำคัญของสหรัฐฯ ที่รัฐบาล ทรัมป์ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะได้ข้อตกลง แทนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีโดยตรง
อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นภาษีรถยนต์และกำแพงภาษีอื่น ๆ ที่เจรจากันมานาน โดยญี่ปุ่นต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีรถยนต์ 25% ซึ่งกระทบอุตสาหกรรมหลักของประเทศ แต่ทรัมป์ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าญี่ปุ่นนำเข้ารถจากสหรัฐฯ น้อยเกินไป
ขณะเดียวกัน โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสหรัฐฯ กำลังใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอินเดียและประเทศอื่น ๆ ก่อนเส้นตายเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงกลับมาอีกครั้ง หลังจากพักชั่วคราวไว้ 90 วันเพื่อเปิดทางให้เจรจา
ทางด้านสหภาพยุโรป (EU) แสดงความพร้อมที่จะยอมรับข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการเก็บภาษีในอัตราเดียวที่ 10% กับสินค้าส่งออกหลายรายการจากฝั่งยุโรป แต่ในขณะเดียวกัน EU ต้องการให้สหรัฐฯ ลดภาษีในกลุ่มสินค้าที่สำคัญ เช่น ยา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องบินพาณิชย์ นอกจากนี้ EU ยังพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ให้โควตาและข้อยกเว้นพิเศษ เพื่อลดภาระภาษี 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงภาษี 50% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม ตามรายงานจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้
คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นผู้ดูแลนโยบายการค้าของ EU มองว่าข้อตกลงนี้แม้จะเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และพร้อมที่จะตกลงหากสามารถบรรลุเงื่อนไขที่เสนอไว้
EU และสหรัฐฯ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวได้ก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้การเจรจายังคงดำเนินต่อไปหลังจากเส้นตายนั้น Bloomberg รายงานว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งอุปสรรคทางภาษีและนอกภาษี รวมถึงการซื้อสินค้าสำคัญของสหรัฐฯ และกำหนดขอบเขตความร่วมมือเพิ่มเติมตามที่แหล่งข่าวเปิดเผย
EU คาดว่าปัจจุบันภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ครอบคลุมมูลค่าการส่งออกของ EU ไปยังสหรัฐฯ ราว 380 พันล้านยูโร หรือประมาณ 70% ของการส่งออกทั้งหมด
ภาพ: Joe Raedle / Getty Images
อ้างอิง: