โกลด์แมน แซคส์ เพิ่มคาดการณ์ เฟด ลดดอกเบี้ย 0.75% ในปี 68 เหตุภาษี-เงินเฟ้อเบากว่าคาด
โกลด์แมน แซคส์ เพิ่มคาดการณ์ เฟด ลดดอกเบี้ย 0.75% ในปี 68 หลังผลกระทบภาษีสหรัฐฯ อ่อนกว่าคาดและเงินเฟ้อชะลอตัว ขณะตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.52 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ ปรับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ปี 2568 เพิ่มเป็นการลดดอกเบี้ยรวม 0.75% หลังจากผลกระทบของมาตรการขึ้นภาษีดูจะเบาบางกว่าที่คาด และตลาดแรงงานเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแอ
โกลด์แมน แซคส์ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในเดือนกันยายน ตุลาคม และธันวาคม โดยก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์ เคยคาดว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวที่ 0.25% ภายในปีนี้
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า “ก่อนหน้านี้ เราคิดว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรในช่วงฤดูร้อนและการเพิ่มขึ้นอย่างมากของมาตรวัดเงินเฟ้อในครัวเรือนบางตัว จะทำให้การลดดอกเบี้ยในระยะสั้นดูไม่เหมาะสมและเป็นที่ถกเถียง”
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่าข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากภาษีดูจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงมากกว่าที่คาด
ด้านซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ก็มีมุมมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยรวม 0.75% ในปี 2568 ขณะที่ UBS Global Research คาดว่าการลดดอกเบี้ยจะมากถึง 1.00% โดยโบรกเกอร์ทั้งสี่แห่งเห็นตรงกันว่าการลดดอกเบี้ยจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้
เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) ต่อประเทศคู่ค้าหลักหลายราย แต่หลังจากนั้นได้ชะลอมาตรการขึ้นภาษีที่รุนแรงออกไป
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมลดลงอย่างไม่คาดคิด หลังจากแรงซื้อเร่งล่วงหน้าสินค้าบางประเภท เช่น รถยนต์ ก่อนที่ภาษีจะมีผล ได้จางหายไป ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อรายเดือนก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 0.50% ในปี 2569 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปลายทาง (terminal rate) อยู่ที่ 3.00% ถึง 3.25% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 3.50% ถึง 3.75% โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดอยู่ที่ระดับ 4.25% ถึง 4.50%
รายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ อาจเผยให้เห็นสัญญาณการอ่อนแอของตลาดแรงงาน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกรณีการลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
อ้างอิง : reuters.com