อัปเดตล่าสุด 2025 "แอปยอดฮิต" ตัวการทำมือถือเต็ม สอนวิธีลบข้อมูล คืนที่ว่างให้มือถือ
เช็กด่วน! 5 "แอปยอดฮิต" ตัวการทำมือถือเต็ม พร้อมวิธีจัดการง่ายๆ (อัปเดต 2025)
เคยสงสัยไหม? ทั้งที่ไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ ไม่ได้ลงเกมหนักๆ แต่ทำไมหน่วยความจำมือถือถึงแจ้งเตือนว่า "ใกล้เต็ม" อยู่ตลอดเวลา ปัญหาอาจไม่ได้มาจากไหนไกล แต่อยู่ที่ "แอปยอดฮิต" ที่เราใช้กันทุกวันนี่เอง
วันนี้เราจะพามาสแกนหาตัวการกินพื้นที่ พร้อมวิธีจัดการแบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้ รับรองว่ามือถือของคุณจะกลับมามีพื้นที่เหลือเฟือ โดยไม่ต้องลบแอปโปรดทิ้ง!
1. LINE: แอปแชตประจำชาติ ตัวเก็บไฟล์ชั้นยอด
ไม่ใช่แค่ข้อความ แต่ทุกรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เสียง และเอกสารที่เคยส่งหากันในแชตเดี่ยวและแชตกลุ่ม จะถูกเก็บสะสมไว้ในเครื่อง ทำให้ LINE กลายเป็นแอปที่กินพื้นที่อันดับต้นๆ โดยไม่รู้ตัว
วิธีจัดการ:
- ล้างไฟล์ขยะ (Cache) ทันที:
ไปที่ หน้าหลัก > การตั้งค่า (รูปฟันเฟือง) > แชท > ลบข้อมูล จากนั้นกด "ลบข้อมูลแคช" ซึ่งเป็นไฟล์ชั่วคราวได้อย่างปลอดภัย หรือจะเลือกลบไฟล์ประเภทอื่นที่ไม่ได้ใช้แล้วก็ได้ - จัดการไฟล์ในแต่ละห้องแชต:
เข้าไปในห้องแชต (โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่ๆ) > แตะ เมนู (ขีดสามขีดมุมบนขวา) > ตั้งค่าอื่นๆ > ลบข้อมูล เพื่อเลือกลบไฟล์เฉพาะในแชตนั้นๆ - ปิดดาวน์โหลดรูปและวิดีโออัตโนมัติ:
ไปที่ การตั้งค่า > รูป & วิดีโอ > ปิด "ดาวน์โหลดรูปอัตโนมัติ"
2. Facebook & Messenger: นักสะสมไฟล์เงียบ
ทุกครั้งที่เลื่อนฟีดดูรูปหรือวิดีโอ แอป Facebook จะเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในรูปแบบ "แคช" (Cache) เพื่อให้ครั้งต่อไปเปิดดูได้เร็วขึ้น ซึ่งไฟล์เหล่านี้จะค่อยๆ สะสมจนมีขนาดใหญ่มหาศาล
วิธีจัดการ:
- Android: ไปที่ การตั้งค่าของมือถือ > แอป > เลือกแอป Facebook > ที่เก็บข้อมูลและแคช > กด "ล้างแคช" (ข้อมูลล็อกอินไม่หาย)
- iOS (iPhone/iPad): ระบบ iOS ไม่สามารถเลือกล้างแคชเป็นรายแอปได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ลบแอปแล้วติดตั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้แคชทั้งหมดหายไป
- ทางเลือก: ลองใช้ Facebook Lite และ Messenger Lite ซึ่งเป็นเวอร์ชันประหยัดพื้นที่และข้อมูลอินเทอร์เน็ต
3. TikTok, Instagram, YouTube: แอปสายวิดีโอ ตัวกินพื้นที่แห่งยุค
แอปเหล่านี้จะดาวน์โหลดวิดีโอมาพักเก็บไว้ในเครื่องล่วงหน้าเพื่อให้คุณดูได้อย่างไหลลื่น การดูคลิปเพลินๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจสร้างไฟล์แคชได้หลาย GB
วิธีจัดการ:
- TikTok: มีเครื่องมือจัดการในตัว! ไปที่ โปรไฟล์ > เมนู (ขีดสามขีดมุมบนขวา) > การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > เพิ่มพื้นที่ว่าง > กด "ล้าง" ที่หัวข้อแคช
- Instagram / YouTube: ใช้วิธีเดียวกับ Facebook คือเข้าไปล้างแคชผ่านการตั้งค่าของมือถือ (สำหรับ Android) หรือลบแอปแล้วติดตั้งใหม่ (สำหรับ iOS)
4. Google Photos & iCloud Photos: ผู้ช่วยจัดการรูป (ที่อาจเข้าใจผิด)
หลายคนใช้แอปเหล่านี้เพื่อ "สำรองรูป" แต่หากตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจกลายเป็นการเก็บรูปไว้สองที่ คือทั้งบนคลาวด์และในเครื่อง ทำให้เปลืองพื้นที่โดยใช่เหตุ
วิธีจัดการ:
- Google Photos: หลังจากแอปสำรองรูปขึ้นคลาวด์เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ฟังก์ชัน "เพิ่มพื้นที่ว่าง" (Free up space) แอปจะลบรูปภาพและวิดีโอ เฉพาะที่อยู่บนอุปกรณ์ของคุณ แต่ยังคงเก็บต้นฉบับไว้บนคลาวด์อย่างปลอดภัย
- iCloud Photos (สำหรับผู้ใช้ Apple): ไปที่ การตั้งค่า > รูปภาพ > เลือก "ปรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ iPhone ให้เหมาะสม" (Optimize iPhone Storage) วิธีนี้จะเก็บรูปภาพเวอร์ชันความละเอียดต่ำไว้ในเครื่องเพื่อประหยัดพื้นที่ ส่วนไฟล์เต็มจะอยู่บน iCloud และจะโหลดมาเมื่อคุณต้องการเปิดดู
5. แอปที่หลายคนมองข้าม: เกม และ แอปสตรีมมิง
เกม: นอกจากขนาดของตัวเกมเองแล้ว ยังมีข้อมูลอัปเดต, ไฟล์กราฟิก, และเซฟเกมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Netflix, Spotify, YouTube Premium: คลังเพลงและภาพยนตร์ที่คุณกด "ดาวน์โหลด" ไว้ดู/ฟังออฟไลน์ คือตัวการชั้นดีที่กินพื้นที่ไปหลายสิบ GB
วิธีจัดการ:
- หมั่นเข้าไปสำรวจในเมนู "ดาวน์โหลด" (Downloads) ของแอปสตรีมมิงเหล่านี้ แล้วลบรายการที่ดูหรือฟังจบแล้ว
- สำหรับเกม ลองตรวจสอบว่าเกมไหนไม่ได้เล่นแล้ว ก็ควรลบทิ้งไป
เทคนิคเสริม: จัดการพื้นที่อย่างชาญฉลาด
- ใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะ: แอป "Files by Google" (ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS) สามารถช่วยสแกนหาไฟล์ซ้ำซ้อน, ไฟล์ขนาดใหญ่, และไฟล์ขยะอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ
- เช็กโฟลเดอร์ "ดาวน์โหลด": เรามักจะลืมไฟล์ PDF, ไฟล์ Zip, หรือรูปภาพที่เคยดาวน์โหลดเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้ ลองเข้าไปจัดการดู
- ตรวจสอบจาก Storage ของเครื่อง: เข้าไปที่ การตั้งค่า > ที่เก็บข้อมูล (Storage) เพื่อดูภาพรวมว่าแอปหมวดหมู่ไหนใช้พื้นที่มากที่สุด จะช่วยให้คุณจัดการได้ตรงจุด
สรุป
การดูแลรักษามือถือให้มีพื้นที่ว่างเพียงพอ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราต้องเข้าใจว่าแอปต่างๆ ทำงานอย่างไร และหมั่นตรวจสอบจัดการไฟล์ขยะและแคชเป็นประจำทุก 1-2 เดือน เพียงเท่านี้ มือถือของคุณก็จะทำงานได้รวดเร็วและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่ครับ