ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ตำนานที่คู่ควร! 15 ปี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ไทยลีก
โทรฟี่ ไทยลีก 10 ใบ, เอฟเอ คัพ 7 ใบ, ลีก คัพ 8 ใบ, พระราชทาน ก. 4 ใบ, ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 1 ใบ, แม่โขง คัพ อีก 2 ใบ และ อาเซียน คลับ แชมเปี้ยนส์ คัพ อีกหนึ่งใบ
นี่คือลิสต์ถ้วยรางวัลที่โชว์สง่าอยู่ ณ ช้าง อารีน่า หนึ่งในฟุตบอลสเตเดี้ยมที่อลังการที่สุดของดินแดนขวานทอง
มันคือความสำเร็จของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2011 และก็ไล่เก็บเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าปราสาทสายฟ้าคือสโมสรอันดับหนึ่งของสยามประเทศ ณ เวลานี้
องค์ประกอบของความสำเร็จที่พวกเขาทำได้ มาจากการบริหารที่เอาจริงเอาจัง อีกทั้งยังกระหายต่อชัยชนะในทุกๆ ฤดูกาลแข่งขัน และที่สำคัญคือการมีผู้เล่นชั้นนำอยู่ในทีมตลอดเวลา
นักเตะไทย และนักเตะต่างชาติของ บุรีรัมย์ ต่างผ่านการพาสเจอไรซ์กันแบบดิบดี ผ่านขั้นตอนคัดกรองโดยละเอียดถี่ถ้วน กว่าจะได้สวมใส่อาภรณ์สีกรมท่าที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง
แน่นอนว่าอาจจะมีบ้างที่หน่วยแมวมองของปราสาทสายฟ้าทำงานผิดพลาด แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติบนโลกมนุษย์ที่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
กว่า 15 ปี ที่พวกเขาโลดแล่นในลีกสูงสุดของเมืองไทย มีผู้เล่นหลายร้อยรายที่ลงสนามรับใช้สโมสร ทว่ามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังยืนหยัดและเป็นขุนพลคนสำคัญของความสำเร็จทุกรายการที่ บุรีรัมย์ ได้รับ
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน คือคนๆ นั้น
เด็กหนุ่มชาวนครราชสีมา อยู่กับปราสาทสายฟ้ามาตั้งแต่ตอนที่ตนเองอายุ 26 กระทั่งประกาศอำลาฟลอร์หญิ้าสดๆ ร้อนๆ ในวัย 41
15 ปี ในรั้ว ช้าง อารีน่า นี่คือผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่เคยมีมา
แม้ว่าในฤดูกาล 2024-25 เขาจะมีส่วนร่วมไม่มากนัก เนื่องด้วยสภาพร่างกายและบวกกับการมาของ นีล เอเธอร์ริดจ์ นายทวารระดับ พรีเมียร์ลีก
แต่ชื่อของ ศิวรักษ์ ยังคงอยู่ในทีมชีตอย่างสม่ำเสมอ
ในห้วงเวลาที่เฝ้าเสาให้ปราสาทสายฟ้าพี่แกช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดในลีกไปมากถึง 8 ซีซั่น โดยเฉพาะฤดูกาล 2019 ที่ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ (28 ประตู) ทว่า บุรีรัมย์ ยังโดนเจาะตาข่ายไปน้อยกว่า (25 ประตู)
แม้เขาจะไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่มีจังหวะเซฟหวือหวาหรือช็อตป้องกันมหัศจรรย์ แต่สิ่งที่ ศิวรักษ์ มีให้เห็นเป็นประจำคือความแน่นอน ข้อผิดพลาดของมือกาวชาวโคราช แทบจะเป็นศูนย์ พ่วงด้วยการอ่านเกมที่เฉียบขาดและยืนตำแหน่งได้ดี มันจึงเป็นที่มาของการเก็บคลีนชีตได้บ่อยๆ
แผงหลังของ บุรีรัมย์ ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าแข็งแกร่ง ซึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้แนวรับเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว คือการที่พวกเขามีนายทวารคนนี้เป็นป้อมปราการด่านสุดท้าย นั่นหมายถึงความ 'อุ่นใจ'
นายทวารวัย 41 ปี เป็นคนพูดน้อย เขาใช้ผลงานในสนามบอกกล่าวแทนตนเอง อีกทั้งการรักษาร่างกายจนสามารถเล่นในระดับสูงได้ยาวนานเช่นนี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างสูง ซึ่งนั่นคือต้นแบบที่ผู้เล่นเยาวชนควรเจริญรอยตาม หากปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต
ทุกแชมป์ที่ บุรีรัมย์ เคยคว้ามา
เขาคือคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น…เสมอ
22 ปี บนเส้นทางลูกหนัง
คือการเดินทางที่มากกว่าความฝัน แต่มันคือความศรัทธา
17 ปี แห่งการรับใช้ทีมชาติอย่างภาคภูมิ
กับภาพจำของความเสียสละและหัวใจที่รักชาติ
15 ปี ภายใต้ชายคา ช้าง อารีน่า
เขาไม่ได้แค่ลงสนาม หากแต่หล่อหลอมจิตวิญญาณของสโมสร
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่ตำนานจะไม่มีวันจืดจางหายจากความทรงจำ
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน คุณค่าที่คู่ควรสำหรับคำว่า 'ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ไทยลีก' ตัวจริง