โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"สมาคมผู้ค้าปลีกไทย" ชง 2 แนวทางเร่งด่วน ฟื้นกำลังซื้อ-"ปลุกท่องเที่ยว"

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเสนอ 2 แนวทางเร่งด่วน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ให้สามารถเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาภาคค้าปลีกต้องเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง การบริโภคที่ชะลอตัว การลงทุนที่ลดลง และปัจจัยภายนอก อาทิจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยลดลงนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าไทยจะสามารถเจรจาให้ลดลงต่ำกว่า 36% หรือใกล้เคียงกับประเทศในแถบเอเชียอย่าง เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กในธุรกิจที่ต้องเปิดเสรีได้หรือไม่ซึ่งมีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและการจ้างงานในระบบรวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ล้วนส่งผลต่อบรรยากาศการจับจ่ายและความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจโดยรวม

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกในเดือนมิถุนายนยังคงปรับลดลงในทุกองค์ประกอบทุกภูมิภาคทั้งยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จความถี่ในการใช้จ่ายโดยคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 3 สะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวและระมัดระวังในการจับจ่ายถึงแม้จะมีสัญญานบวกจากการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่ยังขาดเสถียรภาพทางการเมืองที่ชัดเจนขณะที่ภาคเอกชนเฝ้ารอการเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ และต้องการเห็นมาตรการฟื้นฟูที่ลงมือปฏิบัติได้จริงในช่วงครึ่งปีหลัง

สมาคมฯ จึงขอเสนอแนวทาง 2 แกนหลัก เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาสำคัญ ได้แก่

1.อัดฉีดเม็ดเงินรัฐอย่างตรงจุด เพื่อฟื้นกำลังซื้อทั่วประเทศ

•เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบล็อตแรก1.15 แสนล้านจากกรอบงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน โดยควรกระจายการลงทุนครอบคลุมทั่วประเทศในด้านท่องเที่ยวควรเร่งมาตรการความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมกันนี้รัฐควรจัดสรรงบคงเหลืออีก 40,000–50,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งกระตุ้นกำลังซื้อฐานรากให้มากขึ้นกว่านี้ และช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งมีมากกว่า 90% ของภาคธุรกิจทั้งหมด ครอบคลุม 50-70% ของการจ้างงานโดยรวม ผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นต้น

•ผลักดันโครงการ “Easy e-Receipt เฟส 2”หรือช้อปดีมีคืนช่วงระหว่างกันยายน-ธันวาคมนี้เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในฤดูไฮซีซั่นและเทศกาลเฟสทีฟต่างๆ พร้อมดึงผู้ค้ารายย่อยเข้าสู่ระบบภาษีอย่างเป็นธรรมโดยเสนอให้มีการปรับเงื่อนไขให้เข้าร่วมได้สะดวกขึ้น ด้วยการรวมสินค้าทั่วไปและสินค้า OTOPรวมถึงเพิ่มเติมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในวงเงินรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ มากกว่า 100,000 ล้านบาท จากเดิมราว 70,000 ล้านบาท

•เร่งเบิกจ่ายงบปี 2568 ให้แล้วเสร็จก่อน 30 ก.ย. 68 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว พร้อมจัดทำร่างงบประมาณรายจ่าย ปี 2569 ให้เป็นไปตามกรอบเวลา เพื่อความต่อเนื่องของนโยบายและการดำเนินการอย่างราบรื่น

2. ดันแม่เหล็กท่องเที่ยวผ่าน Thailand Shopping Paradiseดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ

•ทดลองมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม7%ทันที ณ ร้านค้า(Instant Tax Refund)สำหรับนักท่องเที่ยวที่มียอดซื้อขั้นต่ำ 3,000 บาท โดยอาจเริ่มจากร้านค้าสมาชิกในย่านช้อปปิ้งหลักของกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

•ลดภาษีนำเข้า (Import Tax) สำหรับสินค้าในกลุ่ม แฟชั่น เสื้อผ้า น้ำหอม และเครื่องสำอาง ซึ่งปัจจุบันมีอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 20–30%เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และลดแรงจูงใจในการซื้อสินค้าจากตลาดสีเทา

•พิจารณาจัดตั้งเขตปลอดภาษี (Free Tax Zone) ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และส่งเสริมการกลับมาเที่ยวซ้ำในระยะยาว

•จัดมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศในรูปแบบเดียวกับ “Great Singapore Sale” (งานสิงคโปร์ลดทั้งเกาะ) โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างห้างค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม และผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อสร้างบรรยากาศจับจ่ายทั่วประเทศ เป็นต้น

•เสนอขยายระยะเวลาวีซ่าของนักท่องเที่ยวรัสเซียจาก 30 วัน เป็น 45 วัน หลังสิ้นสุดโครงการเดิม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและกระจายรายได้ในภาคการท่องเที่ยวโดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจากรัสเซียถือเป็นกลุ่มคุณภาพที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงและมักนิยมพำนักระยะยาวในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทางภาครัฐกำลังดำเนินการในด้าน การปราบปรามธุรกิจ “นอมินี” สวมสิทธิ์โดยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และซูเปอร์มาร์เก็ต และการคุมเข้ม “สินค้านำเข้าราคาถูกไม่ได้มาตรฐาน”ทางสมาคมฯ มองว่ารัฐมาถูกทางและเริ่มเห็นผลลัพธ์บ้างแล้ว แต่ขอเสนอให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง

ทั้งนี้นอกจากมาตรการฟื้นเศรษฐกิจที่ทางสมาคมฯ พร้อมที่จะร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมแล้ว ทางด้านบทบาทของสมาคมฯ ยังให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งเสริมค้าปลีกสีเขียว (Green Retail) โดยร่วมกับสมาชิกในเครือข่ายจัดโครงการ “Hug The Earth” (ฮักโลก)เพื่อรณรงค์การบริโภคอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจัดพื้นที่จำหน่าย “สินค้าฉลากรักษ์โลก” มากกว่า 20,000 รายการทั่วประเทศพร้อมกันนี้ สมาคมฯ ยังเดินหน้าเพิ่มโอกาส สร้างรายได้ ให้ผู้ประกอบการรายย่อยทั้งในกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีและเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับห้างร้านกลุ่มค้าปลีกชั้นนำ เช่น กลุ่มเซ็นทรัลจัดงานมหกรรมจำหน่ายสินค้าชุมชน, เดอะมอลล์จัดเทศกาลผลไม้และของกินจากร้านดังทั่วไทย, โก โฮลเซลล์เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้า OTOP จากทั่วประเทศ,ซีพี แอ็กซ์ตร้าจัดงานแม็คโคร โชห่วยออนทัวร์รวมมิตรเสริมศักยภาพร้านโชห่วยไทย, บิ๊กซี จัดเทศกาลผลไม้ไทย และท็อปส์ จัดโซนจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นต้น

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเชื่อว่าหากรัฐบาลผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีศักยภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศควบคู่กับความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและเติบโต อย่างยั่งยืน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

"บลจ.วรรณ" ชี้ช่องพักเงิน "ตลาดเงิน-ตราสารหนี้" หลบภัยตลาดผันผวนจาก "ภาษีสหรัฐฯ"

25 นาทีที่แล้ว

กลุ่มแฮกเกอร์ยูเครน อ้างเจาะระบบ ผู้ผลิตโดรนรัสเซียสำเร็จ

29 นาทีที่แล้ว

เกาหลีเหนือสร้างฐานทดสอบจรวดแห่งใหม่เสร็จแล้ว คาดสามารถใช้ขนส่งชิ้นส่วนจรวดขนาดใหญ่ได้ด้วย

29 นาทีที่แล้ว

"JITTA" มอง "หุ้นไทย" ผ่านจุดต่ำสุด แต่ยังผันผวน ไร้ปัจจัยบวก แนะลุยหุ้นจีน กระจายความเสี่ยง

40 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

บล.InnovestX ระบุว่า SET ขึ้นแรง-โวลุ่มสูง ใกล้ทดสอบ 1200 จุด

PPTV HD 36

GWM เดินหน้ากลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์” นั่งพรีเซ็นเตอร์คนไทย พร้อมเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL รถ PPV 7 ที่นั่ง สุดพรีเมียม

BTimes

"บลจ.วรรณ" ชี้ช่องพักเงิน "ตลาดเงิน-ตราสารหนี้" หลบภัยตลาดผันผวนจาก "ภาษีสหรัฐฯ"

TNN ช่อง16

เปิดเหตุผลเด็ด คนอเมริกันเมินทอง สวนลงทุนคนเอเชีย | คุยกับบัญชา | 30 มิ.ย. 68

BTimes

บขส. แจ้งยุติการเดินรถ เส้นทางกรุงเทพฯ – สระบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 68 เป็นต้นไป

Thaiger

เงินบาทปิดที่ 32.48 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้

สยามรัฐ

คุยกับ HOKA จากแบรนด์รองเท้าที่เคยโดนบูลลี่ สู่ Brand Loveของ Run Club

Amarin TV

ไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล คว้ารางวัลแบรนด์ร้านขายวัสดุก่อสร้างยอดนิยมอันดับหนึ่ง ครองใจผู้บริโภค เดินหน้าขยายสาขา-ยกระดับแบรนด์โตอย่างยั่งยืนทุกมิติ

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

เอกชนแนะออก"สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ" เข้าถึงได้จริง

TNN ช่อง16

"ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้ควรเร่งหาแผนรับมือ"ภาษีสหรัฐฯ "

TNN ช่อง16

"กอบศักดิ์"หวังไทยโดนภาษีแค่ร้อยละ25

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...