เร่งเครื่องด่วน ! เช็คสถานการณ์ 7 ดีลน่าสนใจในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ปัจจุบันทุกทีมกำลังเข้าสู่ช่วงปรีซีซั่น ในการเรียกความฟิตและการซ้อมร่วมกับเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะดึงนักเตะใหม่ให้ทันก่อนออกทัวร์ เพราะจะได้นักแข้งเหล่านั้นมาผสมผสานให้เข้ากับขุมกำลังที่มีอยู่เดิม

ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีหลายดีลที่น่าสนใจมาก แต่ก็มีบางดีลที่ยังไม่สามารถหาบทสรุปได้ โดยนี่คือ 7 การเสริมทัพที่ได้รับการจับตามองว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ และจะทันช่วงปรีซีซั่นหรือก่อนเปิดฤดูกาลใหม่หรือไม่ ลองไปพิจารณากันได้เลย

1. วิคตอร์ โยเคเรส กับ อาร์เซน่อล

กองหน้าทีมชาติสวีเดน ใกล้จะได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังนักเตะมีข่าวกับ อาร์เซน่อล มาตลอดหลายสัปดาห์ และการเจรจายังไม่สามารถหาบทสรุปได้ในตอนนี้

โยเคเรส แสดงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะแยกทางกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอล โดยหวังจะย้ายไปเล่นในลีกที่ใหญ่กว่าเพื่อเป็นการพิสูจนต์ศักยภาพของตัวเองในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยดาวยิงวัย 27 ปี ต้องการก้าวสู่ความท้าทายใหม่ หลังจากย้ายจาก โคเวนทรี ซิตี้ มาเล่นในลีกโปรตุเกสเพียง 2 ปีเท่านั้น

แรกเริ่มเดิมทีม อาร์เซน่อล แสดงความสนใจอยากได้ตัว เบนจามิน เซสโก้ แต่เมื่อเป้าหมายหลักไม่สำเร็จ ก็ต้องเบนเข็มไปที่เป้าหมายรองนั่นก็คือ โยเคเรส โดย อันเดรีย แบร์ต้า ผู้อำนวยการกีฬา "ปืนใหญ่" พยายามเปิดการเจรจากับ สปอร์ติ้ง อย่างเต็มที่

หลังจากที่ โยเคเรส กับต้นสังกัดปัจจุบัน อยู่ในภาวะตึงเครียด แต่ตอนนี้ สปอร์ติ้ง กับ อาร์เซน่อล สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงการตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะก็ลุล่วงไปด้วยดี

ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายของดีลมูลค่า 63.6 ล้านปอนด์ (ราว 2,798.40 ล้านบาท) ก่อนที่ โยเคเรส จะกลายเป็นนักเตะใหม่ของ อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการ

2. อูโก้ เอกิติเก้ กับ ลิเวอร์พูล

นิวคาสเซิ่ล และ ลิเวอร์พูล มีเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการล่าตัว อูโก้ เอกิติเก้ ดาวยิงไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย "สาลิกาดง" ยื่นข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,080 ล้านบาท) แต่โดน "อินทรีแดงดำ" ปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับ ลิเวอร์พูล เดินเครื่องอยากได้ เอกิติเก้ เช่นกัน และดูเหมือนการเจรจาระหว่าง "หงส์แดง" กับ แฟร้งค์เฟิร์ต ค่อนข้างจะราบรื่น และมีความเป็นไปได้สูงที่ดีลนนี้อาจจะประสบความสำเร็จในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ "หงส์แดง" พยายามที่จะทุ่มเงินคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค แต่โดน นิวคาสเซิ่ล ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี นั่นทำให้พวกเขาตัดสินใจเบนเข็มไปที่ กองหน้าชาวฝรั่งเศส วัย 23 ปี

จากรายงานของสื่อหลายสำนัก ระบุว่า ลิเวอร์พูล ยื่นข้อเสนอซื้อ เอกิติเก้ หัวหอกแฟร้งค์เฟิร์ต อย่างเป็นทางการแล้ว หลังตกลงเงื่อนไขส่วนตัวเรียบร้อยโดยนักเตะเซ็นยาว 6 ปี ส่วนค่าตัวคาดว่าน่าจะเกือบ 77 ล้านปอนด์ (ราว 3,388 ล้านบาท)

3. ดาร์วิน นูนเญซ กับสโมสรในซาอุดีอาระเบีย

ลิเวอร์พูล ต้องการขาย ดาร์วิน นูนเญซ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยก่อนหน้านี้นักเตะมีลุ้นที่จะย้ายไปอยู่กับ นาโปลี แต่สุดท้ายการย้ายทีมไม่ประสบความสำเร็จเพราะติดเรื่องค่าตัวของ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย

จากรายงานระบุว่า "หงส์แดง" ต้องการค่าตัว นูนเญซ ประมาณ 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,080 ล้านบาท) แต่แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลล่าสุด พร้อมจ่ายแค่ 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,200 ล้านบาท) เท่านั้น นั่นทำให้ดีลนี้ต้องล่มอย่างไม่เป็นท่า

อย่างไรก็ตาม สโมสรในซาอุดี โปร ลีก ยังคงหมายตาอยากได้ นูนเญซ ไปเสริมแกร่ง เพราะมองว่านักเตะยังมีศักยภาพน่าสนใจ โดยพวกเขาพร้อมทุ่มเงินแบบไม่อั้นเพื่อโน้มน้าวใจ "น้องนูน" ให้ย้ายมาขุดทองในดินแดนเศรษฐีน้ำมัน

ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ซิโมเน่ อินซากี้ เฮดโค้ชอัล ฮิลาล แสดงความสนใจอยากได้ นูนเญซ มาร่วมทัพอย่างมาก หลังทีมพลาดเป้าหมายหลักอย่าง วิคเตอร์ โอซีเมนไปอย่างน่าเสียดาย

4. มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ บาร์เซโลน่า

แรงฟอร์ด ไม่เป็นที่ต้องการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกต่อไปแล้ว หลัง รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีส แสดงออกอย่างชัดเจนว่า "แรชชี่" ต้องหาสโมสรใหม่ เพราะเขาไม่มีชื่อนักเตะอยู่ในแผนการสร้างทีมอีกต่อไปแล้ว

กองหน้าชาวอังกฤษ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า เท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุให้การย้ายทีมของเขายังคงคาราคาซัง ทั้งๆ ที่มีหลายทีมในซาอุดีอาระเบียพร้อมทุ่มเงินดึงตัวไปร่วมทัพ

แรชฟอร์ด ยังคงรอคอยให้ บาร์ซ่า ส่งเทียบเชิญไปร่วมทัพ แต่ประเด็นสำคัญก็คือค่าเหนื่อยของนักเตะจำนวน 325,000 ปอนด์ (ราว 14.3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ที่ได้รับจากแมนยู จนถึงเดือนมิถุนายนปี 2028 มันสูงมากซึ่ง บาร์ซ่า ไม่สามารถจ่ายไหว

แม้ แรชฟอร์ด พร้อมที่จะลดค่าเหนื่อยของตัวเองเพื่อจะได้ย้ายไปเล่นในถิ่นคัมป์ นู แต่ แมนยูไนเต็ด ต้องการขายนักเตะแบบถาวรขณะที่ บาร์ซ่า ขอยืมตัวก่อน เนื่องจากปัญหาเรื่องสถานะการเงิน นั่นจึงเป็นเหตุให้ดีลนี้ยังไม่คืบหน้าไปไหน

แน่นอนว่าดีลนี้อาจจะยังไม่จบลงง่ายๆ และอาจต้องยืดเยื้อออกไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากทั้งสองสโมสรยังต้องหาทางประนีประนอมให้ได้ก่อนที่จะตกลงกันได้อย่างสมบูรณ์

5. อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะไปที่ไหน ?

สถานการณ์ของ การ์นาโช่ เหมือนกับ แรชฟอร์ด โดยโดนจับแยกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ขณะที่พวกเขากำลังรอคอยการย้ายทีม โดยนักเตะเคยได้รับความสนใจจาก นาโปลี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะย้ายไปอยู่กับคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก

แอสตัน วิลล่า, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จับตาสถานการณ์ของ การ์นาโช่ อย่างใกล้ชิด แต่ แมนยู ต้องการค่าตัวนักเตะสูงถึง 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,080 ล้านบาท) นั่นจึงทำให้การเจรจาไม่มีความคืบหน้า

สำหรับท่าทีของ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งมีสัญญาอยู่กับทีมจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2028 บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการอยู่กับ แมนยูไนเต็ด หลังไม่พอใจ อโมริม ที่ไม่ให้ลงตัวจริงเกมนัดชิง ยูโรปา ลีก ซึ่งเจ้าตัวมีการโพสต์ตัดพ้อหลังจบแมตช์ดังกล่าว

ตอนนี้ การ์นาโช่ อยู่ในข่ายเดียวกับ แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่, อันโตนี่ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ที่กำลังรอคอยการย้ายทีมจนถึงวันปิดตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ ในวันที่ 1 กันยายนนี้

6. ไบรอัน เอ็มเบอโม่ กับ แมนยูไนเต็ด

หนึ่งในเหตุผลที่ แมนยู ต้องการขาย แรชฟอร์ด, การ์นาโช่, ซานโช่ และอีกหลายๆ คนก็คือต้องการเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการคว้าตัว ไบรอัน เอ็มเบอโม่ กองหน้าฟอร์มแรงมาร่วมทีม

เบรนท์ฟอร์ด ยังคงยืนกรานในมูลค่าที่พวกเขาตั้งไว้สำหรับแนวรุกทีมชาติแคเมอรูนรายนี้ ซึ่งตะบันไป 20 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ข้อเสนอแรกของ แมนยู ที่ยื่นไปคือ 45 ล้านปอนด์ (ราว 1,980 ล้านบาท) บวกแอดออน 10 ล้านปอนด์ (ราว 440 ล้านบาท) แต่ก็ถูกปฏิเสธ

ขณะเดียวกัน แมนยูไนเต็ด มีการยื่นข้อเสนอรอบที่สองที่เพิ่มเป็น 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท) บวกแอดออน 7.5 ล้านปอนด์ (ราว 330 ล้านบาท) ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของ เบรนท์ฟอร์ด

สำหรับ เอ็มเบอโม่ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และมีความรู้สึกว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะ เบรนท์ฟอร์ด ไม่อยากรั้งนักเตะที่ไม่มีใจอยู่กับทีมต่อไป

ล่าสุด เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวคนดังของ ดิ แอธเลติก รายงานว่า แมนยูไนเต็ด เพิ่มข้อเสนอซื้อ เอ็มเบอโม่ ขึ้นไปเป็นมูลค่ารวม 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,080 ล้านบาท) และงานนี้น่าจะเป็นตัวเลขที่ "เดอะ บีส์" พึ่งพอใจ ซึ่งทำให้ดีลนี้อาจจะปิดลงก่อนทัวร์ปรีซีซั่น

7. มาร์ค เกฮี กับ ลิเวอร์พูล

เกฮี มีข่าวเรื่องการย้ายทีมมาตลอดในช่วงตลาดพ่อค้าแข้ง ก่อนหน้าที่ นิวคาสเซิ่ล แสดงความสนใจอยากได้ตัวนักเตะเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้าย คริสตัล พาเลซ ปฏิเสธเงินก้อนโตจำนวน 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,080 ล้านบาท) อย่างไม่ใยดี

สำหรับตลาดซัมเมอร์นี้ เกฮี ยังคงมีข่าวย้ายทีมอีกครั้ง โดย ลิเวอร์พูล ต้องการตัวนักเตะรายนี้มาเสริมแกร่งอย่างมาก หลังพวกเขาขาย จาเรลล์ ควอนซาห์ ไปให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แถมยังมีข่าวลือว่า อิบราฮิม่า โกนาเต้ อาจอำลาถิ่นแอนฟิลด์ไปเล่นกับ เรอัล มาดริด

ปราการหลังทีมชาติอังฤษ เหลือสัญญาปีสุดท้ายกับ "ดิ อีเกิ้ลส์" และมีรายงานว่านักเตะกำลังรอคอยที่จะอำลาสโมสร โดย พาเลซ ต้องการค่าตัวนักเตะเพียง 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,760 ล้านบาท)

ตอนนี้โอกาสอยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล แล้ว และเหลือแค่ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มตัวเพื่อจัดการปิดดีลนี้ก่อนออกทัวร์ปรีซีซั่นที่ทวีปเอเชีย หรือไม่

TOMMY TEE.