24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2568
>> ช้างป่าบุกทำลายยุ้งฉางของเกษตรกร ในพื้นที่อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
09.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เพชรบูร์ ภายใต้การอำนวยการของ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์
ได้รับรายงานจาก อำเภอหล่มเก่า ว่าช่วงคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจังหวัดเลย จำนวน 4 ตัว ได้เข้ามาบุกรุกทำลายยุ้งฉางทางการเกษตรของประชาชนที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ซึ่งมี นายดวงใจ คำรุ่น บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 6 ต.ตาดกลอย (เป็นเจ้าของ) ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 หลัง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว - ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อย่างใด ในการนี้ อำเภอหล่มเก่า จะได้ประสาน อบต.ตาดกลอย เข้าสำรวจความเสียหายและพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
>> ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชน
09.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดน เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยและพระราชทานความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ผบ.ตร.ได้เยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพ วัดพยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีจำนวนผู้อพยพประมาณ 400 คน และศูนย์อพยพจุดวัดสำโรง อ.พยุห์ ผู้อพยพประมาณ 430 คน
ในการนี้ ผบ.ตร.ได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาล พร้อมกล่าวยกย่องความเสียสละของเจ้าหน้าที่ทหารในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และขอส่งกำลังใจให้หายเป็นปกติโดยเร็ววัน เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติเพื่อประเทศชาติอีกครั้ง
>> รถไถการเกษตรตกคูน้ำ แล้วทับร่างคนขับเสียชีวิต จ.กาญจนบุรี
10.00 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ) จ.กาญจนบุรี มีเหตุรถไถการเกษตร ทับร่างคนและมีผู้บาดเจ็บ บริเวณบ้านเขานางพิมพ์ ม.14 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถไถการเกษตร สีแดง ลักษณะตกอยู่ในคูน้ำ ตรวจสอบพบว่าผุ้ประสบเหตุ จมอยู่ในน้ำ อาสาสมัครดำเนินการนำร่างขึ้นมา พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายยอด อายุ 55 ปี เบื้องต้นคาดว่ารถไถเสียหลักตกคูน้ำแล้วทับร่างคนขับ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง
>> "นายภูมิธรรม" ลั่นไทยพร้อมหยุดยิง แต่กัมพูชาต้องจริงใจ
11.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเสนอให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงโดยทันที
นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง และขอให้สหรัฐฯ ถ่ายทอดไปยังกัมพูชาว่า ไทยประสงค์การหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด โดยกัมพูชาต้องแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อร่วมกำหนดมาตรการและกระบวนการในการหยุดยิง และนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืน
>> ”นายภูมิธรรม“ ลงเยี่ยมให้กำลังใจ“ศูนย์พักพิงผู้อพยพ จ.ตราด“
12.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนผู้อพยพในศูนย์พักพิงพื้นที่จังหวัดตราด
นายภูมิธรรม และคณะ ได้มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในศูนย์พักพิง และนั่งพื้นกินข้าวพูดคุยกับประชาชนในศูนย์พักพิง อย่างเป็นกันเอง เพื่อสร้างความอุ่นใจ คลายความกังวลให้กับประชาชน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมเยียนในครั้งนี้ เพราะอยากเห็นด้วยตาตนเองว่า พี่น้องประชาชนมีความพร้อมเรื่องอาหารการกิน และของใช้ต่าง ๆ อีกทั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ยังได้ฝากความห่วงใยและฝากกำลังใจมาด้วย และท่านอยากให้พี่น้องทุกคนเข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะเข้ามาดูแลให้ทุก ๆ คนมีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด
ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม ยังให้กำลังใจกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาที่มาพักพิงอยู่ในศูนย์อพยพ ว่าไม่ต้องมีความกังวลใด ๆ เพราะคนไทยมีน้ำใจ และรัฐบาลก็พร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม หากสถานการณ์สิ้นสุดลง ค่อยพิจารณากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการกันอย่างไร
>> รองผู้ว่าฯ สุโขทัย ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและป้องกันจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ตำบลคลองมะพลับ อำเภอศรีนคร
13.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้ นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและป้องกันจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ตำบลคลองมะพลับ อำเภอศรีนคร โดยสถานการณ์ในพื้นที่ มีปริมาณน้ำในแม่น้ำมากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน จำนวน 4 หมู่บ้าน 295 หลังคาเรือน
จากนั้นได้ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเสี่ยงภัยบริเวณริมคลองน้ำไหล ม.6 ต.คลองมะพลับ และปตร.คลองน้ำไหล
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองมะพลับ ได้จัดตั้งศูนย์อพยพ ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลคลองมะพลับ มีผู้อพยพ จำนวน 16 คน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่ประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายอำเภอศรีนคร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองมะพลับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ร่วมกันลงพื้นที่และให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
>> คุณตาวัย 70 ขับเรือชนตอม่อสะพานจมน้ำเสียชีวิต
14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีเรือสองตอนพุ่งชนตอม่อสะพาน ผู้ขับเรือลำดังกล่าวจมน้ำสูญหาย เหตุเกิดในคลองบางม่วงใกล้วัดสังวรพิมลไพบูลย์ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามคลองภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง พบเรือสองตอนสภาพแตกหักไม่มีเครื่องลอยอยู่ ทราบว่าเรือลำดังกล่าว มีนายสอ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี เป็นคนขับ เกิดขับพุ่งชนต่อม่อสะพานทำให้จมน้ำสูญหาย ทางชุดประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลงค้นหา ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงพบร่างจมอยู่ก้นคลองห่างจากจุดที่เรือชนประมาณ 5 เมตร
จากการสอบถาม เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า นายสอ เคยเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่โรงพยาบาลศรีธัญญาด้วยกันแ ต่ปัจจุบันนายสอ เกษียณไปแล้ว โดยปกติตนเองและนายสอ จะออกมาขับเรือเล่น เป็นประจำ ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก่อนเกิดเหตุนายสอ ขับเรือนำมาก่อนโดยไม่ได้ใช้ความเร็ว ส่วนตนเองตามมาห่างๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงโค้งใต้สะพานข้ามคลองของหมู่บ้าน พบเห็นเรือของนายสอ คว่ำลอยอยู่กลางน้ำ ไม่มีเครื่องยนต์และไม่พบตัวนายสอ จนกระทั่งคนที่นั่งตกปลาอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุบอกว่า ได้ยินเสียงคล้ายเรือชนใต้สะพาน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำเพื่อนที่ขับเรือมาด้วยกัน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เห็นเหตุการณ์ เป็นการขับตามระยะห่าง โดยสันนิษฐานว่าเรือน่าจะหลุดโค้ง ทำให้ชนต่อม่อสะพาน ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงทางโค้งพอดี แต่ยังไงก็ตามจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
>> ไฟไหม้บ้านเรือน เสียหายวอดทั้งหลัง ที่บ้านเกษตรพัฒนา จ.พะเยา
14.15 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุเทศบาลตำบลบ้านต๋อม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ หมู่ 16 บ้านเกษตรพัฒนา ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลบ้านต๋อม ได้นำรถดับเพลิง 2 คันเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว โหมลุกลามทั่วตัวบ้าน ใช้เวลากว่า 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรืออยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุ
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มามุงดูคือ ภาพพระเจ้าตนหลวง ซึ่งแขวนอยู่ภายในบ้าน กลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่บริเวณโดยรอบถูกเพลิงเผาวอดหมด ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา และเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาล เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งคาดว่าอาจไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทส่วนเจ้าของบ้านอยู่ระหว่างติดต่อญาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้น
>> ไทยส่งมอบศพทหารกัมพูชาจำนวน 12 นาย กลับแผ่นดินเกิดตามหลักมนุษยธรรม
16.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งมอบศพทหารกัมพูชาจำนวน 12 นาย ซึ่งเสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่ภูมะเขือ ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในภูมิลำเนาต่อไป
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากล และถือเป็นการให้เกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิ ไม่ว่าจะสังกัดฝ่ายใด สะท้อนถึงจิตวิญญาณของความเป็นทหารที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งเข้าใจถึงหัวอกของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งล้วนปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทเพื่อประเทศของตน
สำหรับทหารกล้าของกองทัพบกไทย ผู้ที่สละชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยจะไม่ถูกลืม ความเสียสละของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของประชาชนชาวไทย และจะมีผู้สานต่อภารกิจอันทรงเกียรตินี้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทยต่อไป
>> กัมพูชา ยิงจรวด ใส่พื้นที่ อ.กันทรลักษ์ ประชาชนดับ 1 เจ็บ 1
17.00 น. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก รายงานว่า ได้เกิดเหตุจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทยวัย 59 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันทีจากการถูกสะเก็ดระเบิด ขณะอีกหนึ่งรายเป็นชายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษเพื่อทำการรักษาต่อไป ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต่างเป็นประชาชนจิตอาสา ซึ่งได้อาสาเฝ้าระวังหมู่บ้านในช่วงสถานการณ์ไม่สงบตามแนวชายแดน
กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธสู้รบที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนพลเรือนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจนถึงขณะนี้ มีประชาชนเสียชีวิตจากกรณีการสู้รบรวมทั้งสิ้น 14 ราย
>> ปธ.อาเซียน เชิญผู้นำไทย ถกปัญหาไทย-กัมพูชา พรุ่งนี้ ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันไทยไม่ยอมเสียอธิปไตยแม้ตารางนิ้ว
18.44 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เข้าร่วมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ในวันที่ 28 ก.ค. 68 ณ ทำเนียบนายกฯ มาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์
โดยคณะทีมไทยแลนด์ นำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกฯ รมว.ต่างประเทศ รมช.กลาโหม เลขาธิการนายกฯ และโฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. จะออกเดินทางจากไทยเวลาประมาณ 10.30 น. และเข้าหารือ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า นายฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา จะเดินทางมาหารือด้วยตนเอง
รัฐบาลไทยยืนยันว่า การเจรจาครั้งนี้จะไม่ใช้แผนที่ 1:200,000 ตามกัมพูชา แต่ยึดแผนที่ 1:50,000 ที่ใช้มาตลอด พร้อมย้ำว่าไทยจะไม่ยอมเสียอธิปไตยแม้ตารางนิ้วเดียว การเจรจานี้จะรับฟังแนวทางเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ และการนำสันติภาพกลับคืนมา
>> รถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย จ.ลพบุรี
20.08 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 ลำนารายณ์ มีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักชนกับต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดค้างภายในยานพาหนะ ริมถนนสายสระบุรี - หล่มสัก ใกล้เคียงปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ม.4 ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ลักษณะชนกับต้นไม้ข้างทาง ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายติดอยู่ภายในตัวรถ อาสาสมัครร่วมกันใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำร่างออกมา โดยนำผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุ 29 ปี นำส่ง รพ.ชัยบาดาล ส่วนอีก 1 รายนั้นพบว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้ชาย อายุ 56 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล
>> เหตุแก๊สรถยนต์รั่วไหล ซอยสายไหม 23/1 เจ้าหน้าที่ได้ทำการระบายแก๊ส เป็นที่เรียบร้อย ไร้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
21.48 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุแก๊สรั่วไหล สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยสายไหม 23/1 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิง เจ้าหน้าที่ได้ทำการระบายแก๊สเป็นที่เรียบร้อย
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากวาล์วชำรุด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม
>> อาสาสมัครเร่งเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ทั้งผู้ใหญ่ เด็กเล็ก และเด็กอ่อน ออกจากบ้านพัก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
22.00 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน หลังพบว่าพนังกั้นน้ำแตก ในพื้นที่ ม.1 ตำบลคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบยกของขึ้นที่สูงและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ได้ช่วยเหลือเด็กอ่อนประมาณ 7 เดือน, เด็กโต 4 ขวบ, คนชรา และผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน อย่างปลอดภัย โดยการนำตัวออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างทันทีและปลอดภัย
ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องทุกคนในเวลานี้
>> แผ่นดินไหว ขนาด 4.7 ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา
00.31 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.7 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 347 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย