‘อิ๊งค์’ลงสุรินทร์ให้กำลังใจประชาชนศูนย์อพยพฯ ชาวบ้านตัดพ้อ ‘พวกเราเจ็บปวด’
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 ก.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงพื้นที่เพื่อประสานงานจากสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
โดยเวลา 12.00 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ เดินทางถึงศูนย์อพยพชั่วคราว จ.สุรินทร์ เพื่อให้กำลังใจและมอบสิ่งของแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึงศูนย์พักพิง มีชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอพยพมาจากอำเภอกาบเชิง ตั้งใจมาสื่อสารความเจ็บปวดกับนายกฯ และได้พยายามแนะนำตัวกับนายกฯ ว่า เป็นคนพื้นที่ชายแดน มีอะไรอยากจะสื่อสารกับท่านนายกฯ แต่เนื่องจากนายกฯ ได้เดินลงมา และเดินเข้าไปยังศูนย์อพยพไม่ทันได้สังเกตเห็นชาวบ้านคนดังกล่าว ซึ่งในจังหวะนี้ทีมงานได้หันมาบอกว่าเดี๋ยวออกมา ก่อนบอกว่า“ใจร้ายแท้”
โดยชาวบ้านคนดังกล่าวชื่อ น.ส.ชญาณุช โชคสุขอุดม ซึ่งอพยพมาจากอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกตื้นตันใจที่มา ตนเป็นคนชายแดนแท้ๆ รู้สึกเจ็บมากกับคำพูดของนายกฯ การกระทำล่าช้ามาก คนไทยต้องไม่ตายฟรี ตอนนี้ประเทศไทยเจ็บปวดทั้งหมด ขอให้นายกฯ คิดให้ดี ชาวบ้านทุกคนฝากบอกนายกฯ ว่าพวกเราเจ็บปวด แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะพวกเราเป็นชาวบ้านตาสีตาสา แต่เขาเป็นผู้นำ อยากบอกท่านว่าอย่าทำแบบนี้เลย เรื่องผลประโยชน์เราเข้าใจ แต่ให้หันมาดูประชาชนหน่อย เปิดใจและเข้าใจประชาชน ว่าพวกเราเจ็บปวดจริงๆ ส่วนเรื่องผลประโยชน์ เรื่องความสัมพันธ์เขาปฏิเสธได้ อยากบอกว่าให้คิดใหม่ทำใหม่เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนของตนเอง
ก่อนทิ้งท้ายด้วยว่า “ผลประโยชน์เราไม่รู้อะไรหรอก แต่ประชาชนอยากอยู่อย่างสงบจริงๆ” พร้อมพูดทิ้งท้ายด้วยภาษาถิ่น (เขมร) มีความหมายว่า “น้องอย่าทำแบบนี้นะ” จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวน.ส.ชญาณุชออกจากพื้นที่
ต่อมา น.ส.แพทองธาร เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่พักรักษาอยู่ที่หน่วยปฐมพยาบาล ราว 40 คน และได้มอบสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ จากนั้นต่อไปที่จุดอาคารอาทิตยา ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้อพยพอยู่ราว 1,400 คน ได้พบพูดคุยเพื่อให้กำลังใจ เยี่ยมเยียน และสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยน.ส.แพทองธาร ได้ถ่ายภาพร่วมกับประชาชนด้วย
ต่อมาเวลา 13.10 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ เดินทางต่อไปเยี่ยมนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้พูดคุยเพื่อให้กำลังใจทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว โดยระหว่างการเยี่ยมได้พูดคุยให้กำลังใจ รวมทั้งได้กล่าวแสดงความนับถือหัวใจของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และพี่น้องทุกคนที่ยังยืนหยัดทำงานอยู่หน้างาน ด้วยความทุ่มเทและเสียสละอย่างสูงสุด
จากนั้นเวลา 14.18 น. น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า วันนี้ดิฉันเดินทางมายังจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน และพบกับประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราวพี่น้องประชาชนหลายคนต้องออกจากบ้านโดยไม่ทันตั้งตัว ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ทั้งที่ไม่ควรต้องเจอกับความยากลำบากเช่นนี้ ดิฉันขอส่งกำลังใจถึงทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ดิฉันเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเร่งคลี่คลายสถานการณ์นี้โดยเร็ว เพื่อทำให้ทุกชีวิตได้กลับคืนสู่ความปลอดภัยและมั่นคงโดยเร็ว
“ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน กำลังใจที่มอบให้กันในวันนี้คือพลังสำคัญที่สุด ดิฉันขอเป็นหนึ่งกำลังใจพร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ ที่จะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้” น.ส.แพทองธาร กล่าว.