โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เห็น เจาะลึกการแสดง ‘แจน-อ้าย-จิงจิง-พิพลอย’ ใน ‘น้องสาวหายนะ (HIDE & SIS)’

TODAY

อัพเดต 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 4.08 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • workpointTODAY

หากถามถึงซีรีส์สุดเข้มข้นในช่วงนี้ คงยกให้เรื่อง ‘น้องสาวหายนะ (HIDE & SIS)’ ซีรีส์ที่ดำดิ่งสู่เรื่องราวของ 4 พี่น้องหญิงที่ต้องเผชิญทั้งปมส่วนตัว ความสัมพันธ์อันซับซ้อน และความลับที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกอย่าง

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าแค่ความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ยังสะท้อนความเปราะบางของใจคน และความหมายของคำว่า ‘พี่น้อง’ ไว้อย่างลึกซึ้ง

งานนี้ ‘แจน, อ้าย, จิงจิง และ พิพลอย’ 4 นักแสดงหลักของซีรีส์ จะมาพูดคุยเจาะลึกตัวละครทั้ง 4 พี่น้อง ที่ต่างมีปม มีเส้นทางชีวิต และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน พร้อมแบ่งปันมุมมองต่อคำว่า ‘ครอบครัว’ และ ‘พี่น้อง’ ไปพร้อมกัน

Q : อยากให้แต่ละคนเลือก 3 คีย์เวิร์ดที่สื่อถึงนิสัยของตัวละครตัวเอง

อ้าย สรัลชนา : สำหรับตัวละคร ชมพู คีย์เวิร์ดแรกเลยคือ ‘independent’ ชมพูค่อนข้างเป็นคนที่ อยู่ได้ด้วยตัวเอง ดูแลตัวเองได้

อีกคียเวิร์ดนึงก็น่าจะเป็น ‘aggressive’ ค่ะ ชมพูเป็นคนที่ภายนอก หรือ คนอื่นเวลามองเข้ามาอาจจะรู้สึกว่าเขาค่อนข้างดูรุนแรง ขี้เหวี่ยง ขี้วีน แต่จริงแล้ว ความขี้หงุดหงิดนั้น อ้ายคิดว่ามาจากความที่เขาเป็นคนคิดอะไรก็พูดออกมาเลย โดยบางทีอาจจะไม่ได้ผ่านกระบวนการคิดที่ซับซ้อนหรือว่าคิดอะไรลึกๆ ข้างในค่ะ

พิพลอย กัญญรัตน์ : ถ้าเป็น ฉัตรฟ้า คีย์เวิร์ดแรกก็คงจะเป็น ‘ครอบครัว’ ค่ะ ลึกๆ แล้ว ฉัตรฟ้า เป็นคนที่รักครอบครัวมาก มีอะไรก็จะคิดถึงครอบครัว แต่บางทีนิสัยของเขามันอาจจะแสดงออกมาโดยผิดวิธี

อีกหนึ่งคีย์เวิร์ดคือ ‘เรียกร้องความสนใจ’ ฉัตรฟ้าเป็นคนที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่สำคัญในครอบครัวของ 4 พี่น้อง ก็เลยพยายามเรียกร้องความสนใจตลอดเวลากับพี่ๆ อีก 3 คน

คีย์เวิร์ดสุดท้ายก็คือ ‘เอาแต่ใจ’ ค่ะ ฉัตรฟ้าเป็นคนที่อยากได้อะไรต้องได้ค่ะ แล้วก็ไม่ได้สนว่าวิธีที่จะได้สิ่งนั้นมาถูกหรือผิด หรือว่าจะทำร้ายใครหรือเปล่าค่ะ

จิงจิง ปริยพิชญ์ : สำหรับ พิชา นะคะ คีย์เวิร์ดแรกเลยคือ ‘อ่อนแอ’ ค่ะ เพราะว่าพิชาเป็นโรคลมชักตั้งแต่เด็ก แล้วก็อ่อนแอทั้งร่างกายแล้วก็จิตใจ จริงๆ ก็คืออ่อนแอทุกอย่างเลยค่ะ

คีย์เวิร์ดที่ 2 ก็คือ ‘ครอบครัว’ เหมือนกันค่ะ เพราะว่าสิ่งที่พิชาต้องการมากที่สุดอย่างแรกในชีวิตเลยคือครอบครัวค่ะ

อีกคีย์เวิร์ดก็คือ ‘ความไม่มั่นใจ’ ค่ะ พิชาเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ไม่ว่าตัวเองจะอยากได้อะไร อยากทำอะไร และพิชาเป็นคนที่ไม่กล้าพูดมากที่สุดค่ะ

แจน พลอยชมพู : คีย์เวิร์ดแรกสำหรับ ใบบัว คงเป็น ‘ดูแล’ ค่ะ เพราะว่าใบบัวเป็นพี่คนโต ที่ต้องคอยดูแลน้องๆ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ใบบัวต้องเป็นคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ต่างๆ สมมติมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับน้องๆ แม้ว่าตัวใบบัวจะไม่ได้ทำ แต่สุดท้ายใบบัวก็ต้องเป็นคนที่ดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อยที่สุดค่ะ

คีย์เวิร์ดที่ 2 ก็คือ ‘กดดัน’ เพราะด้วยความที่ใบบัวคือพี่คนโต เลยได้รับความกดดันมากๆ แล้วตัวเองก็เป็นคนที่กดทุกอย่างไว้ข้างใน ด้วยความเป็นพี่ก็ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด

สุดท้ายก็น่าจะเป็น ‘เก็บกด’ ค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า ใบบัว คือคนที่ต้องดูแลทุกอย่าง เลยไม่สามารถที่จะอ่อนแอให้คนอื่นเห็นได้ เพราะความเป็นพี่คนโต ประกอบกับแรงกดดันจากทางบ้าน จึงต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง

Q : ตอนที่อ่านบทซีรีส์เรื่องนี้ครั้งแรก รู้สึกยังไงบ้าง กับทั้งซีรีส์และตัวละครของตัวเอง

แจน พลอยชมพู : ความรู้สึกแรกเลยคือ เนื้อเรื่องเยอะมากค่ะ ด้วยตัวละคร 4 พี่น้อง ก็จะมีเรื่องราวของตัวเอง ตอนอ่านอีพี 1 คือสนุกมาก จนอยากรู้ต่อเป็นยังไง (ทำหน้าลุ้น)

แจนก็คาดเดาไว้ในอีพี 1 แต่พออีพี 2 สิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ถูก พอไปถึงอีพี 3 สิ่งที่คิดไว้ก็ยังไม่ถูกอีก ตอนที่ได้อ่านรู้สึกลุ้นไปกับตัวบท แล้วก็กับตัวเองด้วย พอเราอ่านก็จินตนาการว่าเราเป็น ตัวละครนั้นอยู่แล้วใช่ไหมคะ รู้สึกสนุกมาก ตัวละครดูเจออะไรเยอะมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)

จิงจิง ปริยพิชญ์ : พิชาถือเป็นตัวละครที่ไกลตัว จิงจิง มากที่สุด ตอนได้อ่านบทรู้สึกว่าจะทำได้เหรอ เพราะบทยากมากค่ะ

พิชาเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนแอ ไม่มีพลัง และไม่สู้คน แต่ความเป็นจริงพิชาเป็นคนที่รักความถูกต้องมากๆ ถ้ารู้สึกว่าอะไรผิดก็จะหาทางให้ถูกที่สุดเสมอ ด้วยความที่พิชาไม่สู้คน ทำให้จิงจิงอึดอัดมากค่ะ (หัวเราะ)

อีกอย่างพิชาเป็นตัวละครที่ดราม่าหนักมากๆ เลยรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ยากมากค่ะ

พิพลอย กัญญรัตน์ : ตอนที่พลอยได้อ่านบทรู้สึกว่า เรื่องนี้น่าสนใจมาก และตื่นเต้นมากค่ะ ถ้าเราจะได้ลงไปเล่นในบทที่เราอ่านจริงๆ

แต่ก็มีความคิดว่า “บทนี้ยากมากเลยนะ” ทุกตัวละครรวมถึงตัวเราด้วย จะทำได้ไหม เขาจะคาดหวังกันมากแค่ไหนที่จะได้ดูผลงาน มีความกดดันเยอะมากกับเรื่องนี้ ซึ่งต้องทำการบ้านหนักแน่ๆ ค่ะ

อ้าย สรัลชนา : โดยส่วนตัว อ้าย เป็นคนชอบแนวสืบสวนสอบสวน ดาร์กหน่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หนังต่างๆ ตอนที่ได้อ่านเรื่องนี้รู้สึกว่า สนุกมากค่ะ ดูเป็น taste เรามาก

แต่พอได้โฟกัสไปที่ตัวละคร ชมพู ที่อ้ายได้เล่น ก็แอบตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะไม่ใช่ตัวอ้ายเลยสักนิด บทแบบห่างไกลจากตัวเราเยอะมาก ต้องใช้พลังเยอะ ทั้งคำพูดและวิธีการแสดงออก พูดคำหยาบเยอะมาก วีนตลอด เหวี่ยงตลอด (หัวเราะ)

Q : ใน TikTok จะเห็น ‘อ้าย’ ตัวจริงลุคแกลม เป็นนางพญา แต่ในเรื่องปากแซ่บมาก ปะทะคารมกับ ฉัตรฟ้า ตลอด มีการปรับตัวหรือทำการบ้านยังไงบ้าง

อ้าย สรัลชนา : ปกติแล้ว อ้าย จะชอบหาก่อนว่าตัวละคร เขายึดถืออะไรเป็นสำคัญ มุมมองเวลาเขามองโลก หรือว่าค่านิยมส่วนตัวเขาในชีวิต เขาคิดประมาณไหน

เพราะว่าความคิดคนเราคิดคล้ายกันหรือมองคล้ายกันจะปรับจูนกันง่ายค่ะ เราเข้าใจ แล้วมองโลกในมุมเดียวกับเขา แต่ที่ยากกว่าคือ ‘วิธีการแสดงออก’ มามากกว่าปกติของชมพู

เช่น ถ้าเป็นตัวละคร ชมพู จะนั่งแบบไหน เวลาพูดจะใช้น้ำเสียงแบบไหน มองใครยังไง เวลาที่คนทัก เวลาคนด่า ถ้าเป็นชมพูเขาจะเลือกทำแบบไหน อันนั้นคือจุดที่ต้องทำการบ้านเยอะมากค่ะ

Q : ในเรื่อง ‘แจน’ ได้รับบทเป็นพี่คนโต เก็บอารมณ์ แต่ตัวจริง ‘แจน’ เป็นคนเฮฮามากๆ ปรับตัวยากไหม

แจน พลอยชมพู : แจนอาจจะคล้ายกับอ้ายค่ะ เพราะในชีวิตจริงแจนก็เป็นพี่คนโตและได้รับแรงกดดันจากครอบครัวอยู่แล้วค่ะ แค่ว่าในซีรีส์อาจจะมีเรื่องราวที่ใหญ่กว่า และกดดันยิ่งกว่า ด้วยตัวละครพ่อแม่ในซีรีส์ เขาจะกดดันใบบัวมากกว่า

แต่บุคลิกของแจนเอง คือเป็นคนร่าเริงมาก แต่ด้วยบทใบบัวเขาเป็นพี่ใหญ่ที่ต้องดูแลน้องๆ แล้วก็ต้องบริหารบริษัทไปด้วย เขาก็จะมีความโตมากๆ เราก็ต้องทำการบ้านกับสิ่งนั้นมากๆ

ซึ่งแจนเองก็ปรับเยอะเหมือนกันค่ะ ทั้งบุคลิก การพูด การเดิน หรือแม้กระทั่งการหันหน้า ต้องมีวิธีที่จะพรีเซนต์ตัวละครนี้ให้เป็นใบบัวในแบบที่เราอาจจะไม่เคยเป็น คือดูโตขึ้นมากกว่าตัวเรามากๆ ค่ะ

Q : บทฉัตรฟ้าเป็นน้องสาวตัวแรงด้วย สำหรับ ‘พิพลอย’ มีความยากและความท้าทายตรงไหนบ้าง เพราะเห็นเคมีทั้งรักทั้งร้ายกับพี่สาวทั้ง 3 คนขนาดนี้

พิพลอย กัญญรัตน์ : สำหรับตัวละคร ฉัตรฟ้า สิ่งที่เป็นอุปสรรคเลยคือการที่เราต้องรู้สึกว่า เราไม่ได้รับความรักจากครอบครัวนี้มากพอค่ะ เลยต้องทำการบ้านเยอะมากค่ะ

ซึ่งตอนเข้าบท ไม่เท่าไหร่ แต่ตอนออกจากบทถือว่ายากมากสำหรับพิพลอย เพราะหลายๆ อย่าง ด้วยตัวเราเป็นคนที่ชอบคิดลบกับตัวเองอยู่แล้วในระดับนึง

พอต้องออกจากตัวละคร เลยเป็นเรื่องที่ยากมากพอสมควรเลยค่ะ แต่ก็จะมีพี่ๆ ที่คอยช่วยกันตลอดเลย บวกกับบรรยากาศกองถ่าย ไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่ด้วยค่ะ เลยเอาตัวเองกลับมาได้ไวขึ้น

Q : เป็นลูกคนกลางเหมือนกับ พิชา ในซีรีส์เลย แต่ความสัมพันธ์ของพิชากับพี่-น้องสาว ในเรื่องค่อนข้างไปสุดมากๆ จิงจิงมีวิธีทำการบ้านหรือลงลึกกับอารมณ์ยังไงบ้าง

จิงจิง ปริยพิชญ์ : สิ่งหนึ่งที่ จิงจิง รู้สึกว่าตัวเองเป็นพิชาได้ระดับนึงเพราะว่า จิงจิง รู้สึกว่าเรามีอะไรที่เหมือนกันค่ะ เช่น จิงจิง เองก็เป็นลูกคนกลางเหมือนกับพิชาที่เป็นลูกคนกลางเหมือนกัน

ซึ่งบ้านจิงจิงมีพี่น้องสามคนเป็นผู้หญิงเหมือนกันหมดเลย ก็เลยเข้าใจว่าการที่ผู้หญิงมาอยู่ด้วยกัน ด้วยความที่ จิงจิง ก็เป็นคนที่ขี้ใจน้อย ก็ชอบแอบน้อยใจตลอดว่า “ป๊ารักพี่มากกว่า แม่รักน้องมากกว่า เขารักมากกว่าเราเหรอ”

บวกกับ จิงจิง ก็เป็นคนคิดมากมาตลอด ก็เลยใช้อันนี้เป็นทริคที่ใช้เล่นกับพิชาได้เยอะมากค่ะ เพราะพิชาเป็นตัวละครที่ รักครอบครัวมาก แต่แม่ไม่ได้รักพิชา

ส่วนพ่อก็เสียไปแล้ว แต่ไม่ทิ้งมรดกไว้ให้เลย ทำให้พิชาเหลือแค่พี่น้องสองคน เพราะน้องคนเล็กก็ดันมาหายไป แต่พิชาก็โดนตัวน้องคนเล็กทำร้ายไว้เยอะเช่นกัน ก็เลยจะเหลือแค่พี่น้องสองคนนี้ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของพิชาตอนนี้ค่ะ

Q : นอกจาก ‘การสืบสวน’ ที่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้แล้ว แต่ละคนคิดว่ามีอะไรอีกที่เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้ ที่รอให้คนดูได้ค้นพบอีกบ้าง

อ้าย สรัลชนา : สำหรับเรื่องนี้อ้ายคิดว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เอาคาแรคเตอร์ของผู้หญิงหลายประเภทหลายแบบ ที่แตกต่างกันมาก มาอยู่ในเรื่องที่เกิดสิ่งร้ายขึ้นมา เกิดเหตุการณ์ไม่ดี

เราต้องมาหากันว่าเป็นเพราะอะไร หรือเป็นเพราะใคร ใครเหลี่ยมกว่ากัน ผู้หญิงจะหลอกผู้ชาย หรือผู้ชายจะหลอกผู้หญิง หรือยังไง ใครหลอกใครกันแน่ (หัวเราะ)

แจน พลอยชมพู : แจนว่าสิ่งที่น่าติดตามคือ ได้เห็นความเป็นมนุษย์ของคนๆ นึงค่ะ คือเรื่องนี้มันไม่มีใครดี 100% หรือ พระเอกมาก นางเอกสุดๆ เพราะทุกคนมีวิธีการเอาตัวรอดในแบบของตัวเอง

เราก็จะได้เห็นว่าบางทีเราอาจจะรู้สึกว่าดูซีรีส์แล้วทำไมร้ายกันจัง แต่จริงๆ ถ้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น ทุกคนก็อาจจะตัดสินใจแบบนั้นก็ได้ค่ะ ซึ่งจะได้เห็นความเป็นมนุษย์ในแต่ละตัวละคร

จิงจิง ปริยพิชญ์ : คิดคล้ายพี่แจนเลยค่ะ รู้สึกว่าคือชีวิตที่เป็นชีวิตจริงๆ เลยค่ะ เพราะทุกคนคือสีเทา ไม่มีใครขาวหมด และก็ไม่มีใครดำหมด ทุกคนต้องมีด้านเทาเป็นของตัวเอง รู้สึกว่าไม่ได้เป็นแค่ ซีรีส์หรือละครเลย แต่คือชีวิตมนุษย์คนๆ นึงค่ะ

พิพลอย กัญญรัตน์ : คิดเหมือนกับทุกคนเลยค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และสะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง บางครอบครัวอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ หรือว่าบางครอบครัวอาจจะได้เรียนรู้แล้วเห็นมุมใหม่ของความสัมพันธ์ในครอบครัวตอนนี้ก็ได้ค่ะ

Q : การร่วมงานกับ ‘snap 25’ เป็นอย่างไรบ้าง และรอบนี้ได้พี่ ‘ตะวัน จารุจินดา’ มากำกับซีรีส์ด้วย ถือเป็นรุ่นพี่ในวงการการแสดงด้วย

แจน พลอยชมพู : ตลกค่ะ เป็นกองที่สนุกมากค่ะ (หัวเราะ)

แจนถ่ายซีรีส์มาเยอะมาก แต่กองนี้เป็นกองที่สนุกมากค่ะ ถ้าตอนนี้กองนี้คืออันดับหนึ่ง ถึงซีรีส์จะเครียดยังไง พอคัทปุ๊บก็ตลกได้เลย คือมีความยากตอนที่จะเซตอารมณ์ เเล้วเราต้องมีสมาธิ เราก็จะแบบว่า “พี่ขอนิดนึงอะไรแบบนี้ค่ะ” (หัวเราะ)

เพราะทุกคนตลกมาค่ะ เป็นกองที่สนุกและเป็นไวป์บวกมาก ทุกคนพร้อมที่จะซัพพอร์ตเรา ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง อาหารก็อร่อย พี่เติ้ลก็น่ารัก ด้วยความเป็นรุ่นพี่

เขาก็จะคอยสอนเราตลอด เหมือนพี่ชายคนหนึ่งเลยค่ะ

อ้าย สรัลชนา : พี่เติ้ลคือนอกเหนือจาก ความสนุก ความตลก ที่เราทุกคนจอยกันมากในทุกๆ วันอยู่แล้ว ในฐานะผู้กำกับ เขาก็จะมีภาพในหัวที่คิดไว้แล้วว่าซีนนี้ต้องการประมาณไหน

แต่พี่เติ้ลก็จะเปิดโอกาสให้เราสามารถพูดได้ หรือเสนอความเห็นได้เลย พี่เขายินดีที่จะคุยกับเรา ถ้าสิ่งที่เราพูดดูสมเหตุสมผล เขาก็ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนตามเรา หรือว่าถ้าสิ่งที่เราคิดมันอาจจะดูตื้นเกินไป พี่เติ้ลก็จะคอยซัพพอร์ต ว่าทำไมถึงควรจะเป็นอย่างอื่นมากกว่า

อีกอย่างพี่เติ้ลเขามีมุมใหม่ๆ แบบความครีเอทในเชิงภาพ ที่เขารู้สึกว่าซีนนี้ต้อง ภาพแบบนี้ จะทำให้รู้สึกแบบนี้ คือมีการครีเอทขึ้นมาแล้วถูกคิดขึ้นมาแบบดีมากๆ ทำให้ซีรีส์ดูเป็นอีกมุมนึงที่อาจจะหาดูไม่ได้ง่ายๆ

Q : จากเรื่องราวของทั้ง 4 พี่น้อง มีบทเรียนหรือข้อคิดอะไรที่เราได้เรียนรู้จากตัวละครบ้างไหม

จิงจิง ปริยพิชญ์ : จิงจิงคิดว่าได้เรียนรู้เรื่องครอบครัวค่ะ การสอน การเลี้ยงดู เขาเรียกว่าคนเราจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนรอบตัว รู้สึกว่าที่ทั้ง 4 คนเป็นแบบนี้ จากอยู่ดีๆ ที่เรารักกันมาก แล้วมีจุดเปลี่ยนจุดหนึ่งที่ทำให้เป็นแบบนี้ ก็เพราะคำสอนของคุณพ่อกับคุณแม่ในซีรีส์

ที่ทำให้คิดว่า ‘โลกนี้ใช้ชีวิตยาก’ ทำให้คนต้องเป็นแบบนี้ โดยที่เราไม่เคยรู้เลยว่า โลกข้างนอกคนอื่นเขาถูกสอนมายังไงบ้าง

แจน พลอยชมพู : แจนคงเป็นเรื่องการแสดงความรักค่ะ บางทีเราคิดว่า เราทำสิ่งนี้แปลว่าเรามอบความรักให้เขาแล้ว แต่ว่าคนเราต้องการความรักไม่เหมือนกัน

บางทีเราคิดว่าทำทุกอย่าง ปกป้องให้ทุกอย่างออกมาดี อันนี้คือเราแสดงความรักแล้ว แต่เขาอาจจะแค่ต้องการกอด ความไว้ใจ หรือคำบอกรัก เราต้องเข้าใจว่าคนนึงต้องการความรักในรูปแบบไหน และแบบไหนคือสิ่งที่จะรู้สึกว่าเรารักเขาจริงๆ

พิพลอย กัญญรัตน์ : คงเป็นเรื่องความไว้ใจคนในครอบครัวค่ะ เป็นการเรียนรู้ที่พิพลอยเองเอามาปรับใช้กับตัวเองด้วย

ถ้าแค่เราไว้ใจหรือเรากล้าพูดว่า “เราไม่โอเคตรงนี้ ช่วยประคับประคองเราหน่อยได้ไหม คุณช่วยเห็นใจเราหน่อยนะ แบบบอกรักเราหน่อยสิ” แค่นี้ปัญหาทุกอย่างมันก็จะไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการไว้ใจแล้วก็เชื่อใจคนในครอบครัวค่ะ

อ้าย สรัลชนา : สำหรับ อ้าย คือเรื่องวิธีการทำงานค่ะ อ้ายรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ้าย ออกจาก comfort zone ของตัวเองเยอะที่สุด แล้วก็ปกติอ้ายเป็นคนที่ไม่ชอบออกจาก comfort zone ตัวเอง เป็นคนที่ต้องมั่นใจในสิ่งที่จะทำ ต้องมั่นใจถึง 95% ถึงจะทำ ถ้าไม่มั่นใจก็จะไม่ทำเลย เพราะกลัวพลาดค่ะ

แต่เรื่องนี้ลองปล่อยตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ถนัดหรือไม่ชอบดูค่ะ แล้วก็คิดกับตัวเองว่า “ไม่เป็นไร ถ้ามันจะพลาด ถ้ามันจะผิด ก็ค่อยปรับ ค่อยแก้เอา” พอได้ทำจริงๆ ก็รู้สึกว่า “ก็ทำอย่างนั้นได้นี่นา” เราไม่เห็นต้องแบบ ระวังอะไรตลอดเวลาก็ได้ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของอ้ายไปเลย

Q : หลายคนมักพูดว่า ความสัมพันธ์พี่สาว-น้องสาวคือ love/hate relationship รักกันมากแต่ก็ทะเลาะกันบ่อย สำหรับทั้ง 4 คน มีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

จิงจิง ปริยพิชญ์ : สำหรับ จิงจิง เป็นค่ะ ด้วยความที่ จิงจิง กับพี่สาวคนโตช่วงอายุใกล้เคียงกันมากๆ และเป็นผู้หญิงที่ต้องอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก หยุมหัวกัน เล่นกัน ตีกัน สำหรับ จิงจิง เป็นเรื่องปกติในช่วงเด็กๆ ค่ะ

แต่พอเริ่มโตขึ้น ตอนนี้ก็ 28 ปีแล้ว จริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่เข้าเลข 2 กว่าๆ พอเราโตขึ้น ไม่มีเหตุการณ์การหยุมหัวกันแบบนั้นอีกแล้ว มีแต่การที่เราพูดดีๆ กันมากกว่าค่ะ

แจน พลอยชมพู : แจนว่าเป็นเรื่องปกติของพี่น้องค่ะ ไม่ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง จริงๆ แจนก็มีน้องชายค่ะ รู้สึกว่าความสัมพันธ์ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เวลาทะเลาะกันก็จิกหัวเหมือนกันค่ะ แต่น้องผมสั้นค่ะ จิกยากมาก น้องเลยได้เปรียบ (หัวเราะ)

จริงๆ ก็มีทะเลาะกันบ้าง ไม่พอใจกันบ้าง แบบเด็กๆ แต่เหมือนที่ จิงจิง บอกพอโตขึ้นก็จะมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผลอะไรกันมากขึ้น

พิพลอย กัญญรัตน์ : พิพลอย เป็นลูกคนเดียว เลยคิดไม่ค่อยออกค่ะ (หัวเราะ)

คือด้วยความเป็นลูกคนเดียว เลยไม่ได้เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ก็เลยไม่รู้ว่า ปกติไหมค่ะ แต่เท่าที่ได้ยินมาก็น่าจะเป็นเรื่องปกติค่ะ (ยิ้ม)

ด้วยความเป็นครอบครัวก็ต้องมีเดี๋ยวรัก เดี๋ยวไม่น่ารักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา

อ้าย สรัลชนา : จริงๆ อ้าย ก็คิดภาพตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์นั้นไม่ออกเหมือนกัน (หัวเราะ)

แต่อ้ายคิดว่า การกระทำบางอย่างของคนเราไม่สามารถถูกใจได้ 100% ยกตัวอย่างเช่น วิธีการที่เขาวางแก้วน้ำตรงนี้ เราอาจจะไม่ถูกใจ เพราะมันอยู่ในพื้นที่ที่เรากำลังจะนั่งกินข้าวหรืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน กับคนที่เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมงในบ้านหลังเดียวกันเป็นไปได้นะที่จะมีอะไรแบบนี้บ้าง ตราบใดที่ไม่ได้รุนแรงเกินไป ถ้ามันจะถึงขั้นซีเรียส อันนี้คือไม่ไหวค่ะ (หัวเราะ)

Q : ถ้าสมมติทั้ง 4 คน ‘ใบบัว-ชมพู-พิชา-ฉัตรฟ้า’ ได้มีชีวิตขึ้นมาเจอทั้ง 4 คน ในฐานะ ‘พิพลอย-จิงจิง-อ้าย-แจน’ อยากบอกอะไรกับ 4 พี่น้อง

แจน พลอยชมพู : ก็คงบอกว่า ใจเย็นๆ (หัวเราะ)

คือตัวใบบัว เขามีความกดดันในความที่เป็นพี่ แล้วรู้สึกว่าต้องดูแลให้ได้ ทุกอย่างต้องเรียบร้อยด้วยตัวของเขาคนเดียว รู้สึกว่าจริงๆ เป็นพี่น้อง ก็สามารถแชร์กันได้นะ คุยกันได้

แม้กระทั่งแรงกดดันจากพ่อแม่ บางทีปล่อยวางได้ก็ปล่อย แต่ด้วยตัวละครต้องถือใหญ่กว่าเราเยอะมาก ไม่รู้ว่าจริงๆ เขาจะวางได้ไหม แต่รู้สึกว่า อยากให้เบาลงบ้าง ไม่ต้องคิดถึงแต่สิ่งที่ต้องดูแลให้ได้ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย ต้องโอเคเสมอ

จิงจิง ปริยพิชญ์ : พิชา เขาต้องการความรักมากที่สุดอย่างเดียวเลย จิงจิงอยากบอกกับพิชาว่าให้รักตัวเองบ้าง แล้วก็อยากให้พิชามีปากมีเสียง สู้อะไรไรเพื่อตัวเองบ้าง

อย่าคิดว่าเราคิดแบบนี้จะผิด เราทำอย่างนี้จะผิด อยากให้เขาสู้แล้วก็ปกป้องตัวเองบ้าง ถ้ารู้สึกว่าจุดตรงนี้ไม่ใช่เซฟโซนของพิชา อยากให้พิชาไปหาที่ที่เป็นเซฟโซนของพิชาเอง

พิพลอย กัญญรัตน์ : พิพลอย อยากบอกฉัตรฟ้าว่า ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้มา อยากให้คิดให้ดีว่านั่นใช่ของเราไหม ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ ไหม หรือว่าถ้าเราอยากได้จากคนๆ หนึ่ง วิธีที่คุณเลือกถูกแล้วใช่ไหม การตัดสินใจนี้มันถูกหรือผิดค่ะ

อ้าย สรัลชนา : เป็นสิ่งที่อ้ายจะชอบแนะนำกับคนรอบๆ ตัว แบบให้คิดซะว่าเราจะใช้ชีวิตทุกวันยังไงให้มีความสุขจริงๆ แล้วต้องถามตัวเองด้วยว่าตอนนี้เรามีความสุข แบบรู้สึกถึงมันจริงๆ หรือเปล่า

ถ้ามันยังไม่ใช่ เรายังไม่รู้สึกจริงๆ งั้นเราใช้ชีวิตทุกวันไปเพื่ออะไร เพราะว่า อ้าย รู้สึกว่าคนเราเกิดมาแป๊บนึง ต่อให้เราอายุ 100 ปี แต่มันสั้นมาก 100 ปีก็คือสั้นแล้ว

แล้วทำไมเราต้องใช้ชีวิตในแต่ละวัน เสียเวลาไปกับความรู้สึกแย่ๆ กับตัวเอง กับความคาดหวัง ความอยากได้ อยากมี อยากจะเป็น การเปรียบเทียบ หรืออะไรก็แล้วแต่ มันคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากข้างในตัวเราเองทั้งนั้นเลย

แล้วมันถึงส่งผลต่อสิ่งที่เราเลือกตัดสินใจทำ อ้ายเชื่อว่าทุกคน ก็เป็นหมด ตัวอ้ายก็เป็น แล้วก็มีเหมือนกัน แต่คือช่วงหลังๆ คิดได้ว่า จริงๆ แล้วเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้

สมมติว่าเราเดินออกไป รถเผลอชนเราโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราไปเลย เราไม่เสียดายเหรอ แทนที่เราจะใช้ชีวิตให้มันแฮปปี้กว่านี้ นี่ก็คือสิ่งที่อ้าย ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองคิดแบบนั้น ก็เลยพยายามจะบอกสิ่งนี้กับทุกคน เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียเวลากับสิ่งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้จำเป็นเลยค่ะ อันนี้คือสิ่งที่อยากจะบอกกับชมพูด้วย

Q : ก่อนจากกัน ชวนเหล่าพี่น้องฝากซีรีส์ ‘น้องสาวหายนะ’

แจน พลอยชมพู : อยากให้ดู (หัวเราะ)

อ้าย สรัลชนา : อยากบอกว่า หลังจากที่พวกเราพูดไปทั้งหมดนี้ ลึกซึ้งขนาดนี้

ดูเถอะค่ะ (ยิ้มหวานๆ)

แจน พลอยชมพู : จริงๆ ก็อย่างที่บอกตั้งแต่แรกเลยค่ะ ว่านอกจากจะมีปมให้เราสืบสวน หรือรู้สึกลุ้นไปกับซีรีส์อะไรแล้ว ก็จะได้แง่คิดของความเป็นมนุษย์ ความเป็นครอบครัวด้วยค่ะ

ซึ่งไม่ได้แค่ลุ้นๆ ไปเท่านั้น แต่ยังสะท้อนสังคม สะท้อนตัวเราเอง จิตใจเราเอง บางทีเราอาจจะมีนิสัยหรือว่าวิธีการตัดสินใจเหมือนตัวละครใดตัวละครหนึ่งก็ได้ จะได้สะท้อนดูว่า ถ้าเกิดเราตัดสินใจแบบนี้ อาจจะเจอกับเหตุการณ์นี้ก็ได้ ก็อยากให้ทุกคนลองไปดู แล้วก็ติดตามไปพร้อมๆ กันในทุก EP

อ้าย สรัลชนา : อ้ายเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถทำให้คุณดู แล้วอยากจะลุกมาสืบตามก็ได้ว่า “คนร้ายคือใครกันแน่” หรือถ้าจะดูแบบปล่อยจอย ก็ทำได้เหมือนกัน

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อ้ายคิดว่า เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่เราหาดูได้ยากจากวงการบันเทิงไทยค่ะ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ส่งแรงใจให้กับกองทัพไทยในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย และเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พื้นที่ชายแดน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปลุกพลังเสียงดนตรี สู่เส้นทางการเติบโตแบบไม่หยุดยั้ง ของ ‘RIIZE’ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ใส่สุดทุกความเฮฟวี สานต่อความ HEAVYWEIGHT! ‘MILLI’ ขึ้นบิลบอร์ดยักษ์ที่ไทม์สแควร์อีกครั้ง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

CEO แถวหน้า นักคิดรุ่นใหม่ และคนดัง เตรียมขึ้นเวที “GCNT EXPO 2025” รวมพลังเปลี่ยนอนาคตประเทศไทยสู่ความยั่งยืน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

เฮลั่นวงการ แมท ภีรนีย์ ควงสามี เฟม ภีมเดช เฉลยเพศลูกคนแรก

TeeNee.com

“คะน้า ริญญารัตน์” สกรีนหนักถึงขั้นสืบ รับเข็ดกับรักปลอม

daradaily

เต็มสิบไม่หัก! “พีพี กฤษฏ์” อวดความแซ่บ ทำลมทะเลร้อนพรึ่บ ใครไหวไปก่อนขอยาดมด่วน!

daradaily

นางเอกดัง งานละครรุม แม้หลายคนงานหดเป็นแถวๆ

TeeNee.com

แห่แซว “สเตฟาน” หลังเขมรแชร์ภาพขับเครื่องบิน บอกยังไงก็คงไม่เจอตัวจริง

Manager Online

กรี๊สลั่น! แมท ภีรนีย์ – เฟม ภีมเดช จัดปาร์ตี้เฉลยเพศลูกคนแรก บอกเลยไม่ผิดคาด

KaaZip บันเทิง

หนุ่มคนดัง เคลียร์สถานะ โฟร์ ศกลรัตน์ หลังโดนจับตาผีผลัก

TeeNee.com

แทค ภรัณยู ไม่ปล่อยผ่าน! หลังเจอชาวเน็ตแขวะ ที่ออกมาโพสต์ภาพทรงผมใหม่

KaaZip บันเทิง

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘จิมมี่-ซี’ จับมือเปิดสำรับไพ่ตอกย้ำชะตาคู่แท้ในซีรีส์ ‘ทำนายทายทัพ My Magic Prophecy’

TODAY

เปิดศึกสายเลือด ‘แจน-อ้าย-จิงจิง-พิพลอย’ ฟาดฟันสุดเข้มข้นในซีรีส์ ‘น้องสาวหายนะ HIDE & SIS’

TODAY

เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ GMMTV POCKY IDOL ลุยตลาดอุตสาหกรรมบันเทิงเต็มรูปแบบ

TODAY
ดูเพิ่ม
Loading...