ยกย่องผู้เสียสละปกป้องทรัพยากรไทย “กรมทะเล” ร่วมรำลึกวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก 2568
วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้กล่าวว่า สมาพันธ์ผู้พิทักษ์ป่าระหว่างประเทศ หรือ IRF มีการก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2535 เพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ต่อมาในปี 2549 ได้มีมติ ในคราวประชุมพิทักษ์ป่าโลก กำหนดให้วันที่ 31 กรกฎาคม ของทุกปีให้เป็น "วันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก" หรือ "World Ranger Day" เพื่อรำลึกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแล ปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงยกย่องเชิดชูเกียรติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่มุ่งมั่นเสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน ด้วยพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่มีอยู่ไม่มาก พร้อมทั้งมอบหมายและกำชับให้ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) และกรมป่าไม้ (ปม.) หาแนวทางในการดูแลและจัดหาสวัสดิการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและมั่นคงในการทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และรักษาทะเลทุกท่าน ที่เสียสละทั้งร่างกาย ชีวิตและจิตวิญญาณเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยไว้ให้คนรุ่นหลัง" โดยปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า รวมทั้งสิ้น จำนวน 19,511 ราย ประกอบด้วย กรม ทช. จำนวน 538 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ จำนวน 292 คน และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพยากรทะเล จำนวน 246 คน กรม อส. จำนวน 16,701 ราย และ กรม ปม. จำนวน 2,272 ราย
ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการบริหารจัดการดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จากความร่วมมือในทุกภาคส่วนที่ช่วยกันปกป้อง ดูแล พิทักษ์ รักษา และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่งผลให้ประเทศไทยมีผืนป่าชายเลนที่สมบูรณ์กว่า 1.74 ล้านไร่ ครอบคลุม 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล และท้องทะเลไทยได้รับการดูแลรักษาให้คงความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทรัพยากรที่สำคัญเหล่านี้เป็นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ภายใต้การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) จำนวน 31,026 คน เป็นภาคประชาชนที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพิทักษ์รักษาทะเล ให้คงความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน ในวันนี้ กรม ทช. ได้นำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านทะเล และป่าชายเลน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 100 นาย เป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1-10 ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานภาคสนามครอบคลุมพื้นที่ 24 จังหวัดในความรับผิดชอบของ ทช. รวมทั้งกรมฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและพร้อมสนับสนุนในการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล ที่เปรียบเสมือนแนวหน้าในการปกป้องดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติอันล้ำค่าของชาติ ปฏิบัติงานลาดตระเวน เฝ้าระวังติดตามป้องกันการบุกรุกทำลายพื้นที่ทรัพยากรป่าชายเลนและการลักลอบตัดไม้ ควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย และการล่า ค้า ครอบครอง นำเข้าส่งออกสัตว์ทะเล และการปกป้องท้องทะเลไทย ที่ทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และเสียสละ เพื่อรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันทรงคุณค่านี้ อีกทั้งการให้บริการแก่ประชาชน การให้ข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ จิตสำนึก ปลูกฝังให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่อีกด้วย ทั้งนี้ กรม ทช. ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการปฏิบัติงานให้เป็นระบบ มีมาตรฐาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของน้ำมันเรือ และลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในการเข้าปะทะกับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติเนื่องจากความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นอกจากนี้ กรม ทช. มีแนวทางการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือที่เรียกว่า "SMART Patrol" ทั้งในทางทะเล ป่าชายเลนและชายฝั่ง ที่ทางกรมฯ ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย นำระบบดังกล่าวฯ มาใช้ในรูปแบบการดำเนินงานโดยใช้ระบบ SMART ในการลาดตระเวน ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างแผนการลาดตระเวนผ่าน web Application การลาดตระเวนตามแผนผ่าน Mobile Application และผ่านอากาศยานไร้คนขับแบบอัตโนมัติ การตรวจสอบ ติดตามการปฏิบัติงานตามแผน และการออกรายงานผลการลาดตระเวน ผ่านระบบบริหารจัดการลาดตระเวนป่าชายเลนเชิงคุณภาพ ปัจจุบันในปี 2568 มีการลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามทางป่าชายเลนและชายฝั่ง จำนวน 1,500 ครั้ง ดำเนินคดีไปแล้ว 28 คดี ยึดพื้นที่ไปแล้ว 175 ไร่ รวมถึงการลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเล จำนวน 126 ครั้ง ดำเนินคดีแล้ว จำนวน 37 คดี นอกจากนี้ ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า มีการนำรถปฏิบัติการอากาศยานไร้คนขับ UAV Mobile operation พร้อมทั้งอุปกรณ์ภาคสนาม รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อช่วยในด้านการสำรวจสัตว์ทะเลหายาก ศึกษา วิจัย ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย สำหรับพื้นที่คุ้มครองทางทะเลมีเป้าหมายการใช้ปฏิบัติงานใน 10 พื้นที่ ได้แก่ หมู่เกาะมัน จังหวัดระยอง เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี หมู่เกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช หมู่เกาะไข่ จังหวัดพังงา ชายฝั่งจังหวัดตรัง พื้นที่คุ้มครองสัตว์ทะเลหายาก อ่าวไทยตอนบนจังหวัดสมุทรสาคร เกาะโลซิน จังหวัดปัตตานี และหมู่เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต
อธิบดีกรมทะเล กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ทช. มีสวัสดิการในการช่วยเหลือ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล ซึ่งเป็นทั้งผู้ที่เสียสละ ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ กรมฯ ได้จัดตั้ง "กองทุนสวัสดิการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" และได้รับการสนับสนุนจาก "มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล" เพื่อดูแลและเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ฯ และครอบครัว โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน ทางกรม ทช. ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและทะเล 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทะเล 2 ราย และบุคคลภายนอกที่ช่วยเหลือภารกิจกรมฯ จำนวน 1 ราย รวมวงเงิน 150,000 บาท สุดท้ายนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอเชิญชวนประชาชน ชุมชนชายฝั่ง และหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมกันปกป้อง คุ้มครอง ดูแล พิทักษ์ รักษา ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านทะเลชายฝั่ง ป่าชายเลน รวมถึงสัตว์ทะเลหายากได้ตลอดที่ สายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362