ฝากขังเสือปุ่นและสมุน ร่วมกันปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท พร้อมคัดค้านการประกันตัว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ได้เบิกตัว เสือปุ่น อายุ 43 ปี 2.นายบี (นามสมมุตติ) อายุ 35 ปี ทั้งสองเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาที่ 3873-3871/2568 ลงวันที่ 1 ก.ค.2568 ตามลำดับ ในข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อใช้กระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง นำตัวออกจากห้องควบคุมมาขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญารัชดา พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกลัวว่าจะหลบหนี
เมื่อช่วงเช้าก่อนนำตัวไปฝากขังมารดาของเสือปุ่น ได้นำอาหารและขนมหวาน เข้ามาเยี่ยมและพูดคุยกัน ทั้งนี้ระหว่างการควบคุมตัวไปฝากขังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาถึงการก่อเหตุว่าทำไมถึงเลือกก่อเหตุในห้างสรรพสินค้า และเป็นหัวหน้าแก๊งจริงหรือไม่ แต่ทางเสือปุ่นไม่ได้ตอบคำถามใดใด เมื่อถามอีกว่าแม่รออยู่ข้างนอกอยากจะขอโทษแม่หรือไม่ เสือปุ่นบอกว่า ครับ โดยระหว่างอยู่ที่รถควบคุมผู้ต้องหาทางมารดาได้พยายามพูดคุยกับเสือปุ่นบอกว่าเดี๋ยวแม่จะไปหาที่ศาล โดยเสือปุ่นได้ตอบรับคำถามของมารดา บอกว่า ไม่ต้องครับแม่ กลับบ้านเลย กลับบ้านดีๆ
พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเสือปุ่น ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา ให้การอ้างว่า ช่วงที่หลบหนีพักอาศัยอยู่ในรถยนต์ตระเวนเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆ กระทั้งถูกจับกุม ส่วนนายบี (นามสมมุตติ) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา