แม่ทัพภาคที่ 2 ซัดกลับเขมรเล่นสกปรก อ้างไทยเป็นฝ่ายวางกับระเบิด
19ก.ค.68 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ทหารไทยเหยียบขณะลาดตระเวนที่เนิน 481ฐานมรกต ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บว่า มีผลการตรวจสอบออกมาแล้ว พบว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ หลังจากนี้กองกำลังสุรนารีจะเข้าเก็บกู้ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่กัมพูชาอ้าง พื้นที่ที่พบทุ่นระเบิด อยู่ในประเทศไทยและเป็นฝั่งไทยเป็นผู้วางเอง เรื่องนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า หากมีการวางทุ่นระเบิดจากฝั่งไทย จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับหน่วยทหารของฝ่ายไทยเท่านั้น
ในความเป็นจริงโดยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเป็นไปไม่ได้ การวางกับระเบิดหน้าแนว ผู้ที่วาง จะต้องผ่านทหารฝ่ายเดียวกันก็คือทหารไทย และต้องได้รับการอนุมัติ ผู้บังคับหน่วยทหารของฝ่ายไทยเท่านั้นที่จะไปหน้าแนวได้ ดังนั้นต้องวางมาจากด้านฝั่งตรงข้าม
ส่วนที่กัมพูชาปฏิเสธ ถือเป็นคำพูดที่เขาสามารถชี้แจงได้ เขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว และการวางกับระเบิดเกิดในห้วงก่อนปรับกำลังช่องบก 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่ากับระเบิดที่พบไม่มีใช้ในกองทัพไทย
ส่วนที่กัมพูชาอ้างไทยเป็นฝ่ายวางกับระเบิดนั้น คงไม่มีหน่วยทหารผู้บังคับหน่วยไหน มาวางระเบิดใส่ลูกน้องตัวเอง คงไม่มี ถ้ามี คงจะเลวร้ายมาก และรับไม่ได้อยู่แล้ว เรามองว่าเป็นไปไม่ได้ เลวร้าย ชั่วร้ายมาก ซึ่งการฟ้องยูเอ็น เป็นการกดดันในเวทีโลก
ทั้งนี้ ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพประชาชน แต่จะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดตามแนวชายแดนให้หมด และทำถนนให้ครอบคลุม พร้อมกำชับให้ทหารช่างระมัดระวังมากขึ้นและไม่คาดคิดว่าเขาจะทำผิดอนุสัญญาออตตาวา ที่มีต่อกัน เดิมเราต้องระมัดระวังระเบิดเก่าอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่เสื่อมสภาพหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ฝ่ายตรงข้ามจะเล่นรุนแรงและสกปรก พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ไม่คาดคิด เพราะสองประเทศเป็นคู่ อนุสัญญาออตตาวา ไม่ให้ใช้ระเบิดสังหารบุคคลร่วมกัน ถือเป็นเรื่องใหม่ ที่เราต้องเฝ้าระวัง และต้องระวังลูกน้องเราด้วย