‘ทักษิณ’ ไหว้หลวงพ่อคูณเอไอ ก่อนถูกอวยพรให้ทำเพื่อในหลวง-ชาติบ้านเมือง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงลานพิธีเททองหล่อขึ้นส่วนฐานทองเหลืองรับองค์รูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยนายทักษิณได้เข้าไปกราบหลวงพ่อคูณในรูปแบบของเอไอ โดยหลวงพ่อคูณเอไอได้ให้พรนายทักษิณ ว่า
"มึงฟังให้ดี กูจะพูดแทนชาวบ้านเขา พวกคนจนคนยากเขารอมึงมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว รอด้วยความหวังว่ามึงจะกลับมาช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้น มาช่วยให้เศรษฐกิจปากท้องมันฟื้นตัวให้เขาได้ลืมตาอ้าปาก มีอยู่มีกิน ไม่ต้องอดๆ อยากๆ เขาฝากผีฝากไข้ ฝากชีวิตไว้กับมึง มึงอย่าทำให้เขาผิดหวัง มึงต้องทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินไทย ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือทำเพื่อในหลวง ทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาแข็งแกร่ง กูจะบอกมึงอย่าง มึงมันรวยแล้ว รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ไหน ของนอกกายพวกนี้ตายไปมึงก็เอาไปไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว ดังนั้น มึงต้องเสียสละเอาเงินทอง เอาความรู้ความสามารถของมึงมาเทให้บ้านเมือง มาเทให้คนจนให้หมดตัว นี่คือหน้าที่ของมึง เข้าใจไหม"
ก่อนที่เวลา 14.29 น. นายทักษิณ จะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ก่อนจะเป็นผู้นำกล่าวคำถวายผ้าป่า และเข้าสู่พิธีเททอง ต่อมานายทักษิณกล่าวทักทายประชาชน ว่า วันนี้ตนดีใจได้มาวัดบ้านไร่ หลังไม่ได้มา 20 ปีพอดี วันนั้นตนมานอนที่กุฏิหลวงพ่อคูณ ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่าน มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง ว่า หลวงพ่อคูณท่านเป็นคนที่มีธรรมะอยู่ในใจ เวลาท่านพูดอะไรออกมาก็เป็นธรรมะทั้งนั้น ถ้าคนเข้าใจธรรมะก็จะเข้าใจถึงแก่นแท้ว่าท่านมีความห่วงใยประชาชนและบ้านเมือง ให้ธรรมะตลอดเวลา ซึ่งตนได้ฟังหลายอย่าง และนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในหลายเรื่อง
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมาทำบุญ แต่มาในช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนมีความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับศาสนาของเรา อยากเรียนพี่น้องชาวพุทธทั้งหลายว่า ธรรมะไม่เคยเสื่อมคลาย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา พระภิกษุสงฆ์เป็นเพียงสาวกของพระพุทธเจ้าที่จะนำธรรมะเหล่านั้นมาเผยแพร่สู่ประชาชน เพื่อให้เข้าใจโลกและธรรมะเพื่อให้หลุดพ้นจากสิ่งที่ยึดติด แต่แน่นอนว่าทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี พระ 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าที่มุ่งมั่นจะเผยแพร่ธรรมะ มีเพียง 1-2 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัว ตนไม่อยากให้คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธมีความรู้สึกเศร้า เสียใจ เพราะเป็นเรื่องของบุคคล แต่ธรรมะยังอยู่ สาวกของพระพุทธเจ้าบางคนอาจไม่มีธรรมะติดตัวอยู่ แต่ส่วนใหญ่เขาเรียนธรรมะถึงแก่น และพร้อมเผยแพร่ธรรมะสู่ประชาชน เช่น หลวงพ่อคูณ เป็นต้น
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนมีความรักและเลื่อมใสหลวงพ่อคูณตลอดเวลาที่ได้รู้จักท่าน ไม่ว่าจะได้มากราบท่านหรือไม่ ยิ่งได้มานอนและสนทนาธรรมกับท่าน ก็มีความรู้สึกว่าตนเลื่อมใสท่านมาก และท่านเป็นคนที่ไม่เน้นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ แต่เน้นเรื่องของธรรมะ ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ธรรมะในใจของแต่ละคน ถ้าคนใดที่สามารถนำธรรมะไปอยู่ในใจใครได้ นั่นคือความศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลุดพ้นจากทุกอย่างได้ ฉะนั้น หลวงพ่อคูณเป็นตัวอย่างของพระ ซึ่งอาจจะไม่มีความศึกษามากมาย แต่มีความซาบซึ้งในรสพระธรรม ฉะนั้น จึงไม่อยากให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายถอดใจ เพราะพระบางวัดเล่าให้ฟังว่าออกไปบิณฑบาตคนเริ่มไม่ใส่บาตรกันแล้ว มันเป็นความตกใจชั่วคราว
“อยากให้คนไทยทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าพระส่วนใหญ่เป็นพระที่ดีมุ่งที่จะเผยแพร่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราในฐานะศาสนิกชนเป็นพุทธมามกะ ที่จะต้องจรรโลงพระพุทธศาสนาของเราให้เข้มแข็งต่อไป โดยเฉพาะการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลพระภิกษุสงฆ์ก็ได้ช่วย เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีพระภิกษุสงฆ์รูปไหนทำให้ศาสนาเสื่อมถอยอีกได้” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาทำบุญด้วยความที่อยากจะบอกกับทุกคนว่า อย่าเสื่อมศรัทธา และตนจะเป็นพุทธมามกะที่ส่งเสริมศาสนาพุทธ ตนตั้งใจตั้งแต่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็ตั้งใจว่าจะขอเป็นคนที่จรรโลงพระพุทธศาสนา สนับสนุนพระพุทธศาสนาของเราให้รุ่งเรือง เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับหัวใจคนไทยเพื่อให้คนไทย ได้ยึดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ทุกท่านครองชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากนั้น นายทักษิณได้พบปะประชาชนที่มาร่วมงาน รวมถึงถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก และมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน