บทสรุปจากเกมลับแข้งนัดแรกของ “ผีแดง”
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงประเดิมเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นนัดแรกกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังจากสาวก "ผีแดง" ทั้งผองว่า น่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากมันสมอง และสองมือของ รูเบน อโมริม กุนซือหนุ่มชาวโปรตุกีส บ้าง
ทว่าพอเอาเข้าจริงสิ่งที่ปรากฏผ่านหน้าจอ ซึ่งถูกถ่ายทอดสดมาจากสังเวียน สตรอว์เบอร์รี อารีนา กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน กลับเป็นอะไรเดิมๆ ที่แฟนบอล เรด เดวิลส์ ได้เห็นกันจนชินตาจากฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกถูกก่อตั้งขึ้นมา
เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเชื่องช้า ขาดความดุดัน ไม่กล้าได้กล้าเสีย จ่ายบอลไม่ขาดก็เกิน แถมเกมรุกก็ยังทื่อเป็นไม้ตีพริกเหมือนในซีซั่นก่อนไม่มีผิด และต่อไปนี้คือสิ่งที่เราได้เห็นจากเกมเจ๊าคู่แค้นแสนรักอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด…
วิธีการเล่นที่ยังไม่เข้าตา
จนถึงวันนี้ รูเบน อโมริม เข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด 8 เดือนเข้าให้แล้ว แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า กุนซือชาวโปรตุกีส ยังหาวิธีการเล่นที่ลงตัวไม่ได้เลย
ในเกมกับ ลีดส์ ที่สต็อกโฮล์ม อโมริม ยังยึดติดกับระบบ 3-4-2-1 โดยแบ่งนักเตะออกเป็น 2 ชุดในครึ่งแรก และครึ่งหลัง
ครึ่งแรก เฮียริม ใช้ มาเตอุส กุนญา กับ โทบี คอลลีเยอร์ เล่นเป็นดับเบิล 10 และวาง ชิโด โอบี เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยถ่าง อาหมีด ดิยัลโล ไปเล่นเป็นวิงแบ๊กฝั่งขวา ขณะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ต้องถอยลงไปคุมแดนกลางคู่ กาเซมิโร
ผลปรากฏว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นเกมได้แค่ฝั่งซ้ายที่มี กุนญา ประสานงานกับแบ๊กซ้ายตัวใหม่อย่าง ดีเอโก เลออน ส่วน ฝั่งขวาดับสนิท อาหมัด แทบจะหายไปจากเกม
กระทั่ง อโมริม เห็นท่าไม่ดี และปรับหมากให้ บังหมัด หุบเข้ามาเล่นเป็นเบอร์ 10 และถ่าง คอลลีเยอร์ ออกไปเป็นวิงแบ๊กแทนในช่วงพักดื่มน้ำนั่นแหละเกมรุกทางฝั่งขวาของ อสูรแดง จึงเริ่มวูบวาบขึ้น
เรื่องระบบการเล่นไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือวิธีเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะแดนกลางที่ไม่สามารถลำเลียงบอลขึ้นมาได้เลยเพราะผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์น้อยกว่า ลีดส์ แม้จะพยายามขยับเซนเตอร์แบ๊กอย่าง มาตไตส์ เดอ ลิกต์ หรือ แฮร์รี แม็กไกวร์ ขึ้นมาช่วยเติมแล้วก็ตาม
ส่วนเกมรุกยิ่งแล้วใหญ่เพราะหากไม่นับ กุนญา ที่กล้าลากกล้าลุยแล้ว นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดหลายคนยังเล่นแบบเพลย์เซฟจังหวะไหนถ้าไม่ชัวร์จริงๆ ก็จะเคาะคืนหลังตลอด และถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปบอกได้คำเดียวว่า เกมประเดิมสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่กับ อาร์เซนอล น่าจะเหนื่อยแน่นอน
มาเตอุส กุนญา จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ อโมริม
แม้เราจะยังไม่ได้เห็นอะไรจาก มาเตอุส กุนญา มากนักในการประเดิมสนามนัดแรก แต่สิ่งที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นตลอดช่วงเวลา 45 นาทีที่ได้อยู่ในสนามคือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โหยหามาตลอดในยุคของ อโมริม
กุนญา คือหมายเลข 10 ที่มีสไตล์การเล่นที่เข้ากันได้ดีกับระบบ 3-4-2-1 ที่ อโมริม พยายามนำมาติดตั้งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะเก่งกาจในการเล่นระหว่างไลน์ สามารถพาบอลลากตะลุยไปเองได้ จ่ายให้เพื่อนทำประตูก็ได้ หรือ จบสกอร์เองก็ยังไหว
หลังจบเกม อโมริม เอ่ยปากเองว่า กองหน้าทีมชาติบราซิล แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการจากตัวเขาจนถึงขนาดยอมทุ่มเงิน 62.5 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากตัวมาร่วมทัพ
กระนั้น กุนญา ยังคงต้องใช้เวลาในการปรับจูน และทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อีกสักพักจึงจะสามารถสำแดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่
กองหน้าตัวเป้าต้องเข้าด่วน
แนวรุกชุดใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ หลังพวกเขาสามารถบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว ไบรอัน เบอโม กองหน้าตัวเก่งของ เบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทีมได้แล้ว
อย่างไรก็ตามแค่ เบอโม และ กุนญา ยังไม่เพียงพอเพราะทั้งคู่ถูกดึงเข้ามาแก้ปัญหาในตำแหน่งดับเบิล 10 ไม่ใช่ในตำแหน่งหมายเลข 9 ที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด
ยิ่งได้เห็นฟอร์มของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ในเกมกับ ลีดส์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องหาหมายเลข 9 คนใหม่เป็นการด่วน
แม้จะมีความขยันทุ่มเท แต่ในเกมกับ ลีดส์ นั้น ฮอยลุนด์ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ไม่สามารถจะฝากผีฝากไข้ได้เลย เพราะขาดทั้งความแข็งแกร่ง เก็บบอลไม่ได้ และไร้สัญชาติญานในการเป็นดาวยิงโดยสิ้นเชิง
ตามรายงานจากฝั่งยุโรป แมนฯ ยูไนเต็ด หวังจะปิดดีลคว้ากองหน้าคนใหม่เข้าเสริมคมให้ได้ก่อนเปิดซีซั่น โดย 2 คนที่กำลังมาแรงตอนนี้คือ เบนยามิน เชชโก หัวหอกดาวรุ่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก และ นิโกลัส แจ็คสัน กองหน้าจอมดีเดือดของ เชลซี ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะได้ใครมาก็ย่อมดีกว่าการทนใช้สากกะเบืออย่าง ฮอยลุนด์ ต่อไปแน่นอน.
ภาพ gettyimages