‘สุดารัตน์’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เผยร้องเรียน กทม. มานานแต่ไร้ความคืบหน้า
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่ตลาดนัดจตุจักร กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนจากผู้ค้าในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ว่า ตนลงพื้นที่ติดตามเรื่องความเดือดร้อนของผู้ค้าในบริเวณตลาดจตุจักร ซึ่งเราได้ร้องไปที่ กทม. เพราะเรื่องนี้ค้างคาเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า และเราตรวจพบการทุจริต ที่ปัจจุบันปัญหาไม่ได้ถูกการแก้ไขและหนักขึ้น ปัญหาแรกเรื่องของตลาดเอกชน ที่ กทม. ไปเซ็นสัญญากับเอกชน เพื่อให้เอกชนเข้ามาทำตลาดกลางคืน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งตลาดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก) การขายเกินเวลาหรือนอกเวลา หรือตลาดกลางคืน จะต้องเป็นผู้ค้าในโครงการ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า กลายเป็นว่าเป็นธุรกิจในเอกชน มาเช่าเหมาพื้นที่ที่ควรจะเป็นของผู้ค้าในตลาดและดำเนินการหาผู้ค้ารายใหม่เข้ามา ทำให้มีปัญหากับอัตราค่าเช่า โดยบริษัทเอกชนเซ็นสัญญากับ กทม. 700 แผง ในราคา 3.5 ล้านบาท เก็บจากผู้ค้าเพิ่มอีก และผู้ขายใหม่เก็บวันละ 400 ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีการรุกที่ค้าของลูกค้าในเวลากลางคืน และยังรุกเข้ามาในเวลากลางวันด้วย คือมีการพยายามที่จะไล่ผู้ค้าเดิมในเวลากลางวัน และเงื่อนไขไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของงาน (ทีโออาร์) ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการยื่นไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ กทม. เข้ามาบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร โดยในมติกำหนดไว้ว่า เก็บค่าเช่าแพงไม่เกิน 1,800 บาทต่อเดือน ซึ่งรวมทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ามาทำงาน เพิ่มราคาแพงจาก 1,800 บาท เพิ่มเป็น 2,800 บาท ก่อนจะลดลงมาเหลือ 2,300 บาท เพราะผู้ค้าไม่ยอม นอกจากนี้ยังเก็บค่าอื่น ๆ อีก รวมแล้วต่อเดือนจ่ายเกือบ 4,000บาท ส่วนศูนย์อาหารจากที่เคยเก็บ 1,500 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 4,500 บาท ซึ่งเราได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และจะนำผู้ค้าไปพบผู้ว่าฯ อีกครั้ง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า นอกจากนี้ มีการต่อสัญญามีความลับลมคมใน มีการปรับหากจ่ายล่าช้า และยังมีห้องน้ำที่ปิดปรับปรุง ไม่เปิดให้ใช้งาน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ 1, 3, 5 ซึ่งทำให้ผู้ค้าและนักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน ซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลาในการปรับปรุง ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ค้าถูกข่มขู่ หลังจากมีการร้องเรียน บอกว่าเป็นปรปักษ์ต่อ กทม. ตนขอเตือนว่าหากมีผู้ค้าเข้ามาร้องเรียนกับตนเองอีก จนจะเอาเรื่องทางกฎหมายจนถึงที่สุด และจะไปหาผู้ว่าฯ เพื่อเอาข้อมูลให้ดู และปัดกวาดสิ่งไม่ดีออกจากตลาดนัด เพื่อให้ตลาดปลอดจากคอร์รัปชั่น และมีสภาพที่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวมากขึ้น ผู้ค้าได้รับความเป็นธรรมขายดีขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น