โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ธุรกิจโบรกเกอร์แย่กว่าปีก่อน บิ๊ก ‘เอเซียพลัส’ สะท้อน 3 ปมใหญ่ ฉุดกำไร

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
Smiling businessman showing dynamic stock market data on mobile phone to woman writing to memo for analyzing profit value currency rate online website program application at home office. Infobahn.

“ดร.ก้องเกียรติ บล.เอเซีย พลัส” ฟันธงธุรกิจโบรกเกอร์ปีนี้แย่หนักกว่าปีที่แล้ว จากสาเหตุหลัก 3 ประเด็น “หนี้เสียมาร์จิ้นโลนเพิ่ม-วอลุ่มเทรดน้อย-ค่าคอมมิชชั่นถดถอย” จี้หน่วยงานกำกับคุมค่าคอมมิชชั่น หวั่นเปิดเสรีเกินไปทำเซลส์มาร์เก็ตติ้งสูญพันธุ์หมด

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ ปีนี้ก็คงไม่ดี และน่าจะแย่กว่าปีที่แล้วด้วย คาดว่าเกินครึ่งหนึ่งของธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้น่าจะขาดทุน เนื่องจากเหตุผล คือ 1.มีหนี้เสียจากมาร์จิ้นโลนมากขึ้น 2.ปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 3.ค่าคอมมิชชั่นถดถอยไปอีก ขณะที่ต้นทุนไม่ได้ลดลง อย่างต้นทุนทางด้านแบ็กออฟฟิศ ที่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานก็เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งหากธุรกิจหลักทรัพย์จะไปได้ จะมีกำไร ก็ต้องมีธุรกิจอื่นมาเสริม

“ผมว่าไม่ดีอยู่แล้ว ผมว่าปีนี้แย่กว่าปีที่แล้ว เกินครึ่งน่าจะขาดทุน แต่ที่ดูแล้วตัวเลขยังมีกําไร ก็อาจจะเป็นธุรกิจอื่นมาเสริม ทําให้อาจจะมีกําไร หรืออาจจะขาดทุนน้อยลง”

ทั้งนี้ มองว่าหน่วยงานกำกับดูแล นอกจากจะคุมเรื่องระบบซื้อขายความถี่สูง หรือ High-Frequency Trading (HFT) แล้ว ควรจะพิจารณากำกับเรื่องค่าคอมมิชชั่น ไม่ควรปล่อยเสรีจนเกินไป จนมีการแข่งขันตัดราคากัน โดยทุกวันนี้ค่าคอมมิชชั่นตกลงมาก ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมลงมาอยู่ที่ 0.07% จากในอดีตที่เคยสูงถึง 0.50% แน่นอนว่าคนทำงานเป็น Sales Marketing ก็อยู่ยาก

“ผมเคยพูดหลายครั้ง กระทรวงพาณิชย์ก็มีกฎ ว่าเวลาขายของห้ามขายต่ำกว่าต้นทุน แต่ทําไมธุรกิจหลักทรัพย์ หลายบริษัทขายต่ำกว่าต้นทุนได้ อันนี้ผมไม่เข้าใจ มันทําให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ลูกค้าจะบอกว่าดี แต่ดีชั่วครั้งชั่วคราว บริษัทหลักทรัพย์ก็เกิดปัญหาแล้วก็ปิดตัวไป อย่างที่เห็น ผมก็งง ว่าทําไมถึงปล่อยให้มีการแข่งขันแบบเสรีมากขนาดนี้ เสรีถึงขนาดที่ว่าทําธุรกิจเพื่อขาดทุน ไม่ใช่เพื่อกําไร”

ดร.ก้องเกียรติกล่าวว่า เรื่องค่าคอมมิชชั่นคงไม่ถึงขั้นต้องกำหนดเกณฑ์เพดาน แต่ควรจะมีไกด์ไลน์ ขณะเดียวกันผู้ที่ทำธุรกิจก็ควรจะมีความเป็นสุภาพบุรุษ ที่จะทำธุรกิจอย่างเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องมาขีดเส้นว่า ไม่ควรคิดคอมมิชชั่นต่ำกว่าเท่าไหร่ ๆ แต่ควรคิดจากต้นทุนเป็นหลัก เพราะไม่เช่นนั้นต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คนที่เป็น Sales Marketing ก็อาจจะสูญพันธุ์ได้

“มันควรจะเป็นแบบต้นทุนคุณเท่าไหร่ ก็ควรจะแค่นั้น แล้วก็อย่าแย่งคนกัน จนไร้เหตุผล เพราะอย่าลืม ถ้ามองไป 3 ปีข้างหน้า ผมคิดว่าแทบจะสูญพันธุ์หมด ถ้าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.07% แล้วมองไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า อาจจะเหลือ 0.05% แบบนี้จะมีกี่คนที่จะอยู่ได้ ผมบอกได้เลยส่วนใหญ่สูญพันธุ์ เพราะเป็นอินเทอร์เน็ตเทรดกันหมด แล้วพวกมาร์เก็ตติ้งจะกินอะไร อันนี้ต่างหากที่ผมกังวล”

สำหรับ บล.เอเซีย พลัส ก็พยายาม Cross-Selling ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ เพื่อช่วยเสริมรายได้ให้กับพนักงานกลุ่ม Sales Marketing

ดร.ก้องเกียรติกล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่อง High-Frequency Trading (HFT) นั้น ตนมองว่าการมีนักลงทุนรายย่อยเป็นสีสัน เพราะต้องอย่าลืมว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้ใหญ่เหมือนตลาดหุ้นอเมริกา หรือฮ่องกง ที่ HFT อาจจะมีมากได้ ทำ HFT ก็ไม่ได้มีผลอะไรมาก แต่ตลาดหุ้นไทยจะฆ่ารายย่อยตายหมด ก็ต้องปรับ ซึ่งต้องเพิ่มค่าคอมมิชชั่นให้มีความเท่าเทียมกัน ไม่อย่างนั้นผู้ลงทุนรายย่อยหมดตลาด เพราะไม่มีใครอยากลงทุน

“ของเรา ตลาดบางนิดเดียว มูลค่าตลาดเราทั้งหมด 0.05% ของทั้งโลก หรือครึ่งเปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก เวลาฝรั่ง Cut Loss เขาก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เพราะเขายังมี 60% อยู่ในอเมริกาบ้าง 15% ในฮ่องกงบ้าง แต่ของเรา Cut Loss ทีก็บาดเจ็บ แล้วการที่มีรายย่อยเข้ามา มันก็โอเค ก็มีส่วนสร้างสีสัน ถามว่าเราอยากเห็นตลาดหุ้นเรา เหมือนตลาดสิงคโปร์หรือเปล่า ที่มีแต่สถาบันเทรดกัน แล้วก็รายย่อยนิดเดียว” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ กล่าว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธุรกิจโบรกเกอร์แย่กว่าปีก่อน บิ๊ก ‘เอเซียพลัส’ สะท้อน 3 ปมใหญ่ ฉุดกำไร

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เส้นทางแฟชั่นของ'แป้ง-อรประพันธ์'กับอัตลักษณ์แห่ง 'VICKTEERUT'

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน’ รู้ทันสัญญาณเตือน ป้องกันก่อนเกิดอัมพาต

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

เงินทะลักเข้า กองทุน Spot Bitcoin ETF ดัน AUM แตะ 152 พันล้านดอลลาร์

การเงินธนาคาร

ศาลสั่งคืนเงิน 4,500 ล้านบาท คดี MORE “ปล้น” ตลาดทุนพลิก โบรกฯ 11 ราย รับเงินชดเชย

การเงินธนาคาร

'ศาลแพ่ง'สั่งยึดเงิน MORE คืนโบรกฯ ‘ดีเอสไอ’เผยอัยการสูงสุดยังไม่สั่งฟ้องอาญา

กรุงเทพธุรกิจ

ศึกชิงเค้กสุกี้ 2 หมื่นล้านเดือด! MK ปะทะ JMART ส่ง "โบนัสสุกี้" บุกตลาดบุฟเฟต์ท้าชน "ตี๋น้อย" ใครได้เปรียบในเกมนี้?

Share2Trade

CoinDCX แพลตฟอร์มคริปโทฯของอินเดียถูกแฮ็ก สูญเงิน 44 ล้านดอลลาร์

การเงินธนาคาร

เปิด 3 ฉากทัศน์หุ้นไทยปี 2568 จับตา ‘ภาษีทรัมป์’ ชี้แย่สุดจ่อหลุด 1,000 จุด

The Bangkok Insight

‘ราคาทองคำ’ สัปดาห์หน้า แนวโน้มขาขึ้น ระวัง! ปรับลดระยะสั้น รักษาแนวรับ 3.2 พันดอลล์

The Bangkok Insight

ภาษีจากการขายที่ดินมรดก แตกต่างจากการขายที่ดินทั่วไปอย่างไร?

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ธุรกิจโบรกเกอร์แย่กว่าปีก่อน บิ๊ก ‘เอเซียพลัส’ สะท้อน 3 ปมใหญ่ ฉุดกำไร

ประชาชาติธุรกิจ

เส้นทางแฟชั่นของ'แป้ง-อรประพันธ์'กับอัตลักษณ์แห่ง 'VICKTEERUT'

ประชาชาติธุรกิจ

‘โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน’ รู้ทันสัญญาณเตือน ป้องกันก่อนเกิดอัมพาต

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...