คัด 5 ตัวท็อปหุ้น mai ฟอร์มดีต่อเนื่อง 3 ปีติด!

หุ้นวิชั่น – คัดเน้น ๆ! 5 หุ้น mai กำไรสุทธิ (Net Profit Margin) พุ่งทะลุ 30% 3 ปีติด นำโดย PSG ฟาด Net Profit Margin สูงสุดทะลุ 51.46% ในปี 65 ก่อนทยอยทรงตัวที่ 47.86% และ 40.46% ในปี 66–67 ขณะที่อีก 4 หุ้นคุณภาพ BOL, NETBAY, PTC และ TQR โชว์ฟอร์มเด่นไม่แพ้กัน ตอกย้ำจุดแข็งการบริหารต้นทุนและสร้างกำไรแบบยั่งยืน

ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ผู้สื่อข่าวตลาดหลักทรัพย์ พบ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มี Net Profit Margin (อัตรากำไรสุทธิ) สูงกว่า 30% ต่อเนื่อง 3 ปี (2565-2567) ประกอบไปด้วย บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ ปี 2565 ที่ 38.72% ปี 2566 ที่ 36.78% และปี 2567 ที่ 37.57%

บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY มีอัตรากำไรสุทธิ ปี 2565 ที่ 36.77% ปี 2566 ที่ 36.42% และปี 2567 ที่ 36.64%

บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG มีอัตรากำไรสุทธิ ปี 2565 ที่ 51.46% ปี 2566 ที่ 47.86% และปี 2567 ที่ 40.46%

บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC มีอัตรากำไรสุทธิ ปี 2565 ที่ 42.11% ปี 2566 ที่ 40.90% และปี 2567 ที่ 31.69%

และ บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR มีอัตรากำไรสุทธิ ปี 2565 ที่ 40.36% ปี 2566 ที่ 40.14% และปี 2567 ที่ 38.72%

โดยแสดงเป็นตารางได้ ดังนี้

ที่มา : SETSMART (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิ.ย.68)

**ทั้งนี้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) สะท้อนความสามารถในการทำกำไรสุทธิเทียบกับยอดขาย เทียบกับยอดขายเหมาะสมกับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับคุฯภาพของกำไร และต้องการหุ้นที่บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ**

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NETBAY ว่า NETBAY โชว์กลยุทธ์ Synergy ชัดเจน หนุนการเติบโตต่อเนื่อง โดยรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ที่ระดับ 71 ล้านบาท (+49% YoY, +12% QoQ) ทำนิวไฮใหม่ สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น

แรงหนุนหลักมาจาก 2 โครงการสำคัญ ได้แก่

• โครงการ Digital Smart Zoo – แพลตฟอร์ม IoT สำหรับบริหารจัดการสวนสัตว์อัจฉริยะ
• โครงการ GHG Data Platform – ระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่งมอบแล้วในเดือนมีนาคม

ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ยังคงแข็งแกร่งที่ 81% เทียบเท่ากับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A to revenue) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 33% จากระดับ 36% ใน 4Q24 และ 1Q24 หนุนภาพรวมกำไรสุทธิทำนิวไฮ

ความคืบหน้าคดี NSW:
คดีฟ้องร้องเกี่ยวกับค่าบริการระบบเชื่อมต่อข้อมูลแห่งชาติ (National Single Window: NSW) ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่องผ่านระบบของ บจก. ซิงกูลาริตี้ โซลูชั่น ตั้งแต่ 1 มี.ค. ส่งผลให้ต้นทุนการเชื่อมโยงข้อมูลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอาจกดดัน GPM ใน 2Q25 ประมาณไม่เกิน 5% ซึ่งบริษัทได้ทยอยปรับขึ้นค่าบริการเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว โดยคาดว่า GPM จะยังอยู่ในช่วง 75–80%

Fynnet Ventures ต่อยอดการเติบโตระยะยาว:
มองว่า Fynnet Ventures จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตระยะยาวให้ NETBAY ผ่านแพลตฟอร์ม Check+ ที่ให้บริการตรวจสอบธุรกรรมและส่งรายงานอิเล็กทรอนิกส์ไปยังสำนักงาน ปปง. โดยเฉพาะในกลุ่มร้านเพชร ทองคำ และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ที่อาจถูกตรวจสอบเข้มข้นขึ้นตามกฎหมาย

แนวโน้มการเติบโต:
แม้ยังมีความไม่แน่นอนเรื่อง Tariff ซึ่งหากยังไม่มีความคืบหน้าการเจรจา อาจเริ่มส่งผลลบในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 (2H25) โดยเฉพาะรายได้จากธุรกรรมนำเข้า–ส่งออก แต่รายได้จากโครงการ (Project-based) ที่เกิดจาก Synergy กับ DITTO จะเข้ามาชดเชยได้ โดยเฉพาะหาก DITTO ชนะงานประมูลภาครัฐ

สรุปคำแนะนำ:
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท สะท้อน PER ปี 2025 ที่ 18.0 เท่า จากฐานรายได้ Recurring ที่มั่นคง และแนวโน้มรายได้จากแพลตฟอร์มภาครัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลาย (Diversification) ให้กับพอร์ตของ NETBAY ในระยะยาว