1ก.ค. ศาลหยุด “อิ๊งค์” – ม็อบรัฐประหารบานส้ม

อีกไม่กี่ชั่วโมง ที่ทุกฝ่ายการเมือง รวมถึงประชาชน ต่างรอดูผลว่า “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” นายกคนที่ 31 ที่เพิ่งจะทำการทูลเกล้ารายชื่อ ปรับ ครม. “อิ๊งค์2” ขึ้นไป จะได้ไปต่อหรือจะถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งพักงาน หากพรุ่งนี้ (1ก.ค.) ศาลมีคำสั่ง“รับคำร้อง” ในคดีที่ 36สว.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาถอดถอนนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” และสั่งให้ “นายกอิ๊งค์”หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำตัดสิน

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่กดดันรอบด้าน ไม่แต่ม็อบคณะรวมพลังแผ่นดิน หรือม็อบ28มิถุนาที่จุดติด มวลชนมาร่วมหลายหมื่น ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (28มิ.ย.) แม้จะมี “สนธิ ลิ้มทองกุล” หนึ่งในผู้ขึ้นปราศรัย เผลอเฉียดไปที่เนื้อหา“การรัฐประหาร” ของกองทัพนิดเดียว ไม่ถึงนาที ทำนองว่าถ้าจะรัฐประหาร ก็อย่าได้เอาพวกนายพลแก่ๆมาเป็นรัฐมนตรี อย่างที่ “ตู่ จตุพร” ยืนยันแกนนำม็อบทุกคนตกลงไม่ฝักใฝ่รัฐประหาร อยู่แล้วชี้แจง แต่ก็ยังถูกทั้งคนในรัฐบาล และผู้คนพรรคเพื่อไทยและพรรคเด็ก-ประชาชน ออกมาไม่เห็นด้วย ที่ม็อบจะทำให้สถานการณ์ไหลไปสู่การออกมาทำ “รัฐประหาร”

ที่น่าสนใจคือผลวันพรุ่งนี้ นอกจากจะ ส่งผลกระทบ ต่อประเทศไทยที่อาจไร้ผู้นำไปชั่วขณะ ในภาวะวิกฤติรายล้อมทั้งศึกใกล้ศึกไกลและวิกฤติเศรษฐกิจอย่างที่คนในรัฐบาลพยายามอ้างแล้ว ยังส่งผลกระทบทาง ภาพ การเมือง ที่ด้านหนึ่งมีความพยายามกดดันจากทั้งฝ่ายค้าน ม็อบ และกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม ที่สะท้อนผ่านการ จุดติดของ ม็อบ28มิถุนา ให้ “นายกรัฐมนตรี” ลาออก หรือ ยุบสภา เพื่อรับผิดชอบ ในกรณีเดียวกัน แม้ “นายกอิ๊งค์” และรัฐบาลรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือหลัง พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล จะปฏิเสธ ผ่านภาพการปรับครม.”อิ๊งค์2” จนศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ อย่างปปช.ถูกมองว่าจะเป็นตัวแปร การรับจบให้ไม่เกิด ทางตันทางการเมือง จากคดีนี้ ไม่นับรวมคดีต่าง ๆของ “ทักษิณ” เช่น “คดีคนชั้น14” และ “คดี ม.112” ที่จะเริ่มสืบพยานตั้งแต่พรุ่งนี้(1ก.ค.)เช่นกัน

กระนั้นนอกจาก วันที่ 1ก.ค.ก็ถือเป็นจุดตัดสินใจ วางสถานการณ์ต่อ ของทั้ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ม็อบรวมถึงฝ่ายต่างๆทางการเมือง อย่างที่ “ตู่ จตุพร” ยอมรับว่าแกนนำม็อบ ได้นัดประชุม
วันอังคาร2ก.ค.เพื่อรอความชัดเจนจากคำสั่งศาล แล้ว ยังอาจเป็นจุดพลิกผันของ รัฐบาลเพื่อไทย แม้จะมีภาพการบิ๊วประเด็น “ม็อบชงรัฐประหาร” และมีแกนนำออกมาฟอร์โลว่ต่ออย่างที่ “ภูมิธรรม” ออกมา เช่นกันกับ “พรรค ปชน.”ที่ท่าทีของ 2 พรรค เพื่อไทย ประชาชน ถูก “ตู่ จตุพร” โต้

โดยตั้งคำถามทำนองมีการเกี๊ยะเซี๊ยะกัน เช่นเดียวกับวงนอกอย่าง “อ.สมชัย” ก็ตั้งคำถามผ่านFB ว่า นอกจากปากที่กล่าวว่าต่อต้านรัฐประหาร นักการเมืองต้องช่วยกันใช้กลไกในระบอบประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วย ม็อบจุดติด กลายเป็นม็อบติดไฟที่โดนฝ่ายการเมืองทั้งพรรคเพื่อไทย

และพรรคประชาชน รุมประนามว่ากวักมือเรียกรัฐประหารจากคำอภิปรายบนเวทีของสนธิ ลิ้มทองกุล การยืนหยัดในหลักการไม่เอารัฐประหารเป็นสิ่งที่ต้องชื่นชม เพราะ 9 ปีหลังรัฐประหาร ฝ่ายทหารที่ยึดอำนาจไม่ได้พิสูจน์ว่าเข้ามาแก้ไขปัญหา หนำซ้ำยังร่วมมือกับนักการเมืองที่ส่วนหนึ่ง เป็นรัฐบาลในปัจจุบันทำให้ประเทศหยุดนิ่งและถอยหลัง แต่นักการเมืองที่ปากประนามรัฐประหาร ต้องเชื่อมั่น ศรัทธา และทุ่มเทใช้กลไกทุกอย่างในระบอบประชาธิปไตยเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

โดย อ.สมชัย ยังยกเคส ตอนมีการซักฟอก “นายกอิ๊งค์” มีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ปมใช้ตั๋วสัญญา PN แม้ลงมติแพ้ในสภา ก็สมควรใช้กลไก ยื่น ปปช. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ
ให้วินิจฉัยต่อว่า นายกขาดคุณสมบัติเรื่องความซื่อสัตย์หรือไม่ แต่พรรคปชน. ไม่ทำ เมื่อมีการเผยแพร่ คลิปเสียงที่ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก แต่ แพทองธาร ไม่ทำ เมื่อจะจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ หลังจากพรรคภูมิใจไทย ถอนตัว

โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งนายกฯ พรรคร่วมรัฐบาลมีโอกาสถอนตัว แต่ ไม่ทำ เมื่อพรรค ภท. พยายามใช้ช่องทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา แต่เสียงไม่พอเพราะต้องมีเสียง สส. ลงชื่อ 99 เสียง แต่พรรค ปชน. ไม่ทำ และว่า ไม่อยากให้ประชาชนเขาลงถนน เกรงว่าจะเป็นการกวักมือ เรียกทหารมายึดอำนาจ ฝ่ายการเมืองต้องแสดงให้เห็นว่า ท่านใช้กลไกทางการเมืองอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ซูเอี๋ย หรือแผ่นเสียงตกร่องว่าให้ยุบสภาอย่างเดียว หรือ จะให้เชื่อว่าปฏิญญาฮ่องกงมีจริง

เช่นเดียวกับ “ไพศาล พืชมงคล”อดีตกุนซือ “ลุงป้อม”ที่โพสFB ว่า มวลชนรวมพลังแผ่นดิน จัดชุมนุมไล่แดง แต่สีส้มออกหน้า คัดค้านการชุมนุมนี้หาว่าเรียกหาทหารให้ยึดอำนาจ ซึ่งเป็นการใส่ความมวลชน เพราะเขาเพียงแค่ บอกจุดยืนว่าถ้าทหารยึดอำนาจเขาไม่ขัดข้อง แต่เขาไม่ได้เรียกหาให้ทหารปฏิวัติ จึงรุมกันแฉ สีส้มกัน เป็นการใหญ่ ทำให้คะแนนนิยมซึ่งพุ่งพรวด เป็นลำดับ 1 หลังจากเกิดกรณีคลิปลับ หล่นวูบวาบครั้งนี้จึงเป็นการแฉโพยสายส้มที่เข้ม และล่อนจ้อนมากที่สุดนี่แหละที่เขาว่าอยู่ดีไม่ว่าดีแกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยน.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews