โปรลีกซาอุดิ ศูนย์รวมพ่อค้าแข้งค่าแรงมหาศาล! ท็อป 10 สตาร์กระเป๋าตุงที่สุดในโลก

ก่อนหน้านี้ สโมสรจาก พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา ครองความเป็นเจ้าของการจ่ายค่าแรงนักเตะ แต่ถึงวันนี้ทีมจาก ซาอุดิ อาระเบีย ผงาดขึ้นมาสวมบททีมสายเปย์แทนซะแล้วในช่องสองปีหลัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รั้งอันดับหนึ่งในหมู่นักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในโลกหลังต่อสัญญากับ อัล นาสเซอร์ ออกไปอีกสองปี

ส่วนอีกเก้ารายมีใครกันบ้าง เราจะไปส่องดูกันด้วยความอิจฉาตาร้อน

10. สี่นักเตะ (สัปดาห์ละ 405,729 ปอนด์ , ปีละ 21 ล้านปอนด์)

สำหรับอันดับนี้มีนักเตะสี่รายได้ค่าแรงในเรตที่เท่ากันทั้ง แฮร์รี่ เคน , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และ เซอร์เก มิลินโควิช ซาวิช

ในรายของ เคน กองหน้าทีม บาเยิร์น มิวนิค นอกจากจะได้ค่าแรงก้อนโตแล้ว เขายังสมหวังกับการคว้าแชมป์รายการแรกในอาชีพพ่อค้าแข้งด้วยกับการซิวแชมป์ บุนเดสลีกา ซีซั่นที่ผ่านมา

ส่วนอีกสามรายในโผนี้ล้วนหากินในลีก ซาอุดิ อาระเบีย ด้วยกันทั้งนั้นโดย มิโตรวิช กับ มิลินโควิช ซาวิช พาทีม อัล ฮิลลาล คว้าแชมป์ โปร ลีก ได้ รวมถึงแชมป์ คิง คัพ ซีซั่น 2023/24 ก่อนที่ ก็องเต้ จะได้แชมป์ทั้งสองรายการเช่นกันกับ อัล อิตติฮัด ในซีซั่นที่ผ่านมา

9. ไอแวน โทนีย์ (สัปดาห์ละ 414,006 ปอนด์ , ปีละ 21.5 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล อาห์ลี , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2028

แม้จะตกเป็นข่าวกับหลายทีมใน พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2024 แต่สุดท้าย โทนีย์ เลือกย้ายไปรวยเละกับ อัล อาห์ลี ภายใต้ค่าตัว 40 ล้านปอนด์

จากที่ได้ค่าแรงกับ เบรนท์ฟอร์ด สัปดาห์ละ 20,000 ปอนด์ หัวหอกวัย 29 ปีกระเป๋าตุงเพิ่มถึงสัปดาห์ละ 412,006 ปอนด์หลังเลือกย้ายไปหากินในลีก ซาอุดิ อาระเบีย

สำหรับสัญญาปัจจุบันของเขา มีการเผยว่า โทนีย์ จะได้รับโบนัสเพิ่มสัปดาห์ละ 102,731 ปอนด์ด้วยซึ่งทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นพ่อค้าแข้งอิงลิชที่ได้ค่าแรงมากที่สุด

จากการประเดิมสนามใน โปร ลีก ซีซั่นแรก โทนีย์ สอยตาข่ายได้ 30 เม็ดจากทุกรายการพาทีมซิวแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

8. คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (สัปดาห์ละ 507,161 ปอนด์ , ปีละ 26.3 ล้านปอนด์)

สโมสร: เรอัล มาดริด , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2029

ย้ายมาจาก เปแอสเช แบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญา และเป็นนักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดของถิ่น เบร์นาเบว ทันที

อย่างไรก็ดี กองหน้าทีมชาติ ฝรั่งเศส ยอมรับค่าแรงที่ลดลงจากสมัยเป็นขุนพลทีมเงินถังของ ลีก เอิง จากสัปดาห์ละ 1.16 ล้านปอนด์เหลือ 500,000 ปอนด์กับลีกกระทิงดุเพื่อเติมความฝันกับการได้สวมยูนิฟอร์มของ ราชันชุดขาว

ถึงกระนั้น เอ็มบัปเป้ มีเงื่อนไขได้รับโบนัสซึ่งสามารถทำให้เขารับเงินสัปดาห์ละ 655,982 ปอนด์ได้ซึ่งตกเป็นเงินปีละ 60.4 ล้านปอนด์

จบซีซั่นแรกในลีกสเปนแบบมือเปล่า แต่พังประตูในเกมลีกได้ 31 เม็ดพร้อมทั้งคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของลีกยุโรป

7. เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (สัปดาห์ละ 525,000 ปอนด์ , ปีละ 27.3 ล้านปอนด์)

สโมสร : แมนฯ ซิตี้ , สิ้นสุดสัญญา :30 มิ.ย.2034

เข่นได้ 90 ประตูในทุกรายการจากสองซีซั่นแรกกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งทำให้เขาได้สัญญาใหม่เมื่อเดือนม.ค.2025 ด้วยการรับค่าแรงเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 525,000 ปอนด์

จากตัวเลขดังกล่าวทำให้กองหน้าทีมชาติ นอรเวย์ รั้งตำแหน่งนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดเหนือกว่า โรนัลโด้ สมัยที่สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส อยู่ในสังกัดของ แมนฯ ยูไนเต็ด

มีสัญญากับ เรือใบสีฟ้า จนถึงซีซั่น 2033/34 ซึ่งหากเขารับใช้ถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม จนถึงวันนั้น กองหน้าร่างยักษ์จะโกยเงินเข้ากระเป๋าได้ไม่น้อยกว่า 259.3 ล้านปอนด์

นอกจากค่าแรงแล้ว ฮาลันด์ ยังมีสิทธิ์รับเงินเพิ่มอีกสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ด้วยภายใต้โบนัสฟอร์มการเล่น

6. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (สัปดาห์ละ 540,918 ปอนด์ , ปีละ 28.1 ล้านปอนด์)

สโมสร: บาร์เซโลน่า , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026

แรกเริ่มเดิมที เลวานดอฟสกี้ ตกลงรับค่าแรงลดลงเหลือสัปดาห์ละ 35,000 ปอนด์หลังย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2022 และรับเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 338,000 ปอนด์ในซีซั่นแรกของเขากับถิ่น คัมป์นู

อย่างไรก็ดี สัญญาของเขามีข้อกำหนดว่าจะได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดมันขยับขึ้นเป็นตัวเลข 540,918 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งทำให้เขารั้งตำแหน่งพ่อค้าแข้งที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในห้าลีกใหญ่ของยุโรป

ถึงตอนนี้ กองหน้าทีมชาติ โปแลนด์ ตะบันประตูให้ บาร์ซ่า ได้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว และได้แชมป์ ลา ลีกา สองหน แถมยินดีรับเงินน้อยลงด้วย

"เขาเป็นนักเตะที่ทุ่มเทให้กับสโมสร ตอนที่เขาได้ยินว่าเราต้องลดรายจ่ายเพื่อลงทะเบียนนักเตะ เขาบอกกับเราว่าเขาพร้อมลดค่าแรงเพื่อช่วยสโมสร ผมซาบซึ้งมาก แต่ผมบอกกับเขาว่าไม่จำเป็นเลย" โจน ลาปอร์ต้า ประธาน บาร์ซ่า เผย

5. คาลิดู คูลิบาลี่ (สัปดาห์ละ 563,152 ปอนด์, ปีละ 29.2 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล ฮิลาล , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026

หลังย้ายจาก นาโปลี มาล้มเหลวกับ เชลซี แค่ซีซั่นเดียว คูลิบาลี่ ก็โบกมือลาลอนดอนไปหากินกับ อัล ฮิลาล ด้วยการเซ็นสัญญาสามปี

สตาร์ทีมชาติ เซเนกัล ประสบความสำเร็จได้แชมป์ โปร ลีก ในซีซั่น 2023/24 และปัจจุบันเป็นกองหลังที่มีค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลก

"ผมไม่ขอปฏิเสธ ผมสามารถช่วยเหลือครอบครัวทั้งหมดของผมให้มีชีวิตที่ได้ดีตั้งแต่พ่อแม่ไปจนถึงญาติ" คูลิบาลี่ ยอมรับกับสื่อว่าย้ายมาเล่นใน ซาอุดิ อาระเบีย ก็เพราะเงิน

"ผมเริ่มสร้างคลินิคในหมู่บ้านของพ่อแม่ด้วย ผมมีโปรเจ็กต์อีกมากมายสำหรับการช่วยเหลือคนหนุ่มสาว ผมไม่ต้องการนั่งเฉยๆที่ข้างสนามโดยที่ไม่ได้ทำอะไร ผมอยากย้ายไปอยู่กับทีมที่ต้องการผมอย่างแท้จริง"

4. ซาดิโอ มาเน่ (สัปดาห์ละ 649,166 ปอนด์ , ปีละ 33.7 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล นาสเซอร์ , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026

มาเน่ เป็นเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง คูลิบาลี่ และ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่มุ่งหน้าไปโกยเงินในลีก ซาอุดิ อาระเบีย

กระนั้นก็ดี อดีตดาวเตะ ลิเวอร์พูล เลือกย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ไปค้าแข้งกับ อัล นาสเซอร์ และได้ค่าแรงมากกว่าสองเพื่อนร่วมชาติด้วย

ขณะเดียวกัน มาเน่ ใช้เงินก้อนโตที่ได้มาไปซื้อทีมระดับดิวิชั่นสี่ของ ฝรั่งเศส อีกทั้งยังทำงานด้านการกุศลในบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง

ถึงตอนนี้ มาเน่ ยิงประตูให้ อัล นาสเซอร์ ไปแล้ว 37 ลูก และ 25 แอสซิสต์จาก 93 นัด แต่ยังไม่อาจพาทีมซิวแชมป์ โปร ลีก ได้

3. คาริม เบนเซม่า (สัปดาห์ละ 811,458 ปอนด์ , ปีละ 42.1 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล อิตติฮัด , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026

เบนเซม่า ปิดฉากการค้าแข้งอย่างยาวนาน 14 ปีกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 โดยเขาย้ายมาค้าเกือกกับ อัล อิตติฮัด แบบไม่มีค่าตัว

หัวหอกเลือดน้ำหอมลงน้ำหมึกกับทีมในลีก ซาอุดิ อาระเบีย สามปี และได้ค่าแรงมากกว่าอดีตต้นสังกัดในลีกกระทิงดุสองเท่าจากสัปดาห์ละ 389,500 ปอนด์เป็น 811,548 ปอนด์

ประเดิมซีซั่นแรกกับ อัล อิตติฮัด ได้อย่างย่ำแย่ และมีปัญหากับสองกุนซือทั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ และ มาร์เซโล่ กายาร์โด้

อย่างไรก็ดี ซีซั่นที่ผ่านมาระเบิดฟอร์มกดได้ 25 ประตูในทุกรายการพาทีมของ โลร็องต์ บล็องก์ นายใหญ่ร่วมชาติคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของประเทศได้สำเร็จ อีกทั้งได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ โปร ลีก ด้วย

2. ริยาด มาห์เรซ (สัปดาห์ละ 847,162 ปอนด์ , ปีละ 44 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล อาห์ลี , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2027

หลังได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก , เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ แมนฯ ซิตี้ ในซีซั่น 2022/23 มาห์เรซ ก็อำลา เรือใบสีฟ้า ไปร่วมทีม อัล อาห์ลี ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์

"ผมได้รับข้อเสนอจาก ซาอุดิ อาระเบีย ชาติมุสลิมซึ่งแน่นอนว่าผมสามารถปกป้องครอบครัวของผมได้ มันเป็นความท้าทายครั้งใหม่เช่นกัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจย้าย มันไม่มีอะไรซับซ้อน" มาห์เรซ แจง

ถึงตอนนี้เขาได้ค่าแรงสัปดาห์ละ 847,162 ปอนด์ และจะรวมเป็นเงิน 176.2 ล้านปอนด์หากถึงเวลาที่เขาหมดสัญญาในซีซั่น 2026/27

สำหรับซีซั่นที่ผ่านมา สตาร์ทีมชาติ แอลจีเรีย ยิงได้ 9 ประตูและ 8 แอสซิสต์พาทีมซิวแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งทำให้เขาเป็นเพียงนักเตะไม่กี่รายที่ได้แชมป์รายการสูงสุดของสองทวีป

1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สัปดาห์ละ 3.4 ล้านปอนด์ , ปีละ 178 ล้านปอนด์)

สโมสร : อัล นาสเซอร์ , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2027

โรนัลโด้ ถือเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์รายแรกที่ย้ายมาเล่นในลีก ซาอุดิ อาระเบีย อย่างน่าช็อก แถมต่อสัญญาใหม่กับทีมอีกสองปีหมาดๆ

หลังย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไม่มีค่าตัวในเดือนม.ค.2023 ดาวยิงทีมชาติ โปรตุกีสขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในโลกทันทีแม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลทางด้านรายได้

"ผมมาที่นี่เพื่อพัฒนาลีก มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการ พวกเขาบอกว่าผมจบเห่แล้ว ผมมาที่นี่เพราะเงิน แต่ผมยังมีแพสชั่น พวกเขาไม่เชื่อ แต่ผมมาที่นี่เพื่อชนะ" โรนัลโด้ ยืนยัน

ในวัย 40 ปี "ซีอาร์เซเว่น" ได้รางวัลรองเท้าทองคำของ โปร ลีก สองปีซ้อน และตอนนี้เขามุ่งมั่นที่จะสอยตาข่ายทะลุหลัก 1,000 ประตู