24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2568
>> รถบรรทุกชนกับรถกระบะ แล้วเสียหลักเบียดรถเก๋งอัดเข้ากับกำแพงปูน หลานชายวัย 10 เดือนกับคุณย่า เสียชีวิตในซากรถ
08.20 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยฉะเชิงเทรา มีอุบัติเหตุรถบรรทุกเฉี่ยวชนกับรถกระบะ แล้วเสียหลักไปเบียดกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บหลายรายติดค้างในยานพาหนะ บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 ใกล้เคียงวัดเสม็ดเหนือ ในพื้นที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเบียดอยู่กับ รถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า สีแดง ป้ายทะเบียน กทม. สภาพถูกเบียดอัดเข้ากับขอบปูนแบริเออร์ และห่างออกไป พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่สภาพท้ายรถฝั่งขวามีร่องรอยการชนพังเสียหาย
ตรวจสอบบนรถบรรทุก คนขับบาดเจ็บ 1 รายทางอาสาสมัครช่วยเหลือนำตัวออกมา ส่วนในรถเก๋ง พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชายไทย คนขับ และผู้โดยสารผู้หญิง ก่อนจะเร่งดำเนินการนำทั้ง 3 รายส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และในที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นเด็กชายวัย 10 เดือน และหญิงไทย อายุ 80 ปีอยู่ภายในรถเก๋ง ส่วนรถกระบะไม่พบผู้บาดเจ็บ
เบื้องต้นทราบว่า รถบรรทุก ได้ชนกับรถกระบะ ก่อนจะเสียหลักไปเบียดรถเก๋งที่อยู่เลนด้านขวาทำให้รถเก๋งถูกเบียดอัดทั้งรถบรรทุกและแท่งปูนแบริเออร์กั้นทาง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า
>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 37 แล้วลุกลามหลังข้างเคียงเสียหายวอด
08.56 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ชุมชนปานทิพย์ 2 เลขที่ 110 ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 37 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลังคาเรือน ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณชั้นบน เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด จำนวน 2 หลังคาเรือน ลุกลามเสียหายบางส่วน จำนวน 3 หลังคาเรือน รวมทั้งหมด 5 หลังคาเรือน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 250 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้บ้านต้นเพลิงเสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางซ่อน
>> หญิงวัย 38 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนกับรถพ่วง เสียชีวิตริมถนนเชื่อมสัมพันธ์
09.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเชี่อมสัมพันธ์ มุ่งหน้าหนองจอก ใกล้เคียงสนามฟุตซอลบางกอกอารีน่า
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนท้ายท้าย รถพ่วง อีซูซุ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน นครปฐม ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิง อายุ ประมาณ 38 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี
>> DSI จับสาวไทย ภรรยาหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ใช้บัญชีม้า150 บัญชี เสียหาย 2 พันล้าน
10.30น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุม นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนสุริยเดชบำรุง ตำบลในเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและรวมทั้งแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหารับทราบแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> สกัดจับแรงงานเถื่อนเมียนมา พร้อมคนขับรับจ้างขนข้ามจังหวัด
11.35 น. ตำรวจทางหลวงอยุธยา ร่วมกับ ตม.3 สกัดจับรถต้องสงสัย บนเส้นทางถนนพหลโยธิน ขาเข้า พื้นที่ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 11 คน (ชาย 8 หญิง 3) ทั้งหมดไม่มีเอกสารเข้าเมือง
จากการสอบสวน ชาย อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นคนขับรถ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้ขนแรงงานจาก อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ไปส่งที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี โดยได้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท
ส่วนแรงงานต่างด้าว เผยผ่านล่ามว่า ลักลอบนั่งเรือจากฝั่งเมียนมาเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก จ่ายให้นายหน้าคนละ 10,000 บาท เพื่อเข้ามาทำงานในไทย
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยเหลือคนต่างด้าวให้พ้นการจับกุม" กับคนขับ และข้อหา "หลบหนีเข้าเมือง" กับแรงงาน 11 ราย ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> "ภูมิธรรม" สั่ง อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงภายใน 7 วัน ปมที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ หากไม่ชัดเจน ตั้ง คกก.สอบสวนใหม่ทันที
12.08 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีปัญหาทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ตนได้ส่งจดหมายไปตั้งแต่วันพุธ หรือ วันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่แล้วให้นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงภายในเวลา 7 วันว่า เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลปกครอง และ ศาลฎีกา หากภายใน 7 วันไม่มีความชัดเจน ตนก็จะเซ็นตั้งคณะกรรมการได้ทันที ซึ่งตนให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาดูว่า คณะกรรมการที่จะต้องประกอบด้วยใครบ้าง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคลางแคลงใจ และมีความไม่สบายใจ รวมถึงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้เตรียมการ ที่ต้องการทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจน ถ้าชัดเจนสังคมก็จะเกิดความสบายใจ ซึ่งต้องไปถามว่า เหตุผลใดจึงไม่ดำเนินการตามคำสั่งของศาลฯ โดยเฉพาะคำตัดสินของศาลปกครอง และศาลฎีกา
ส่วนจะกระทบต่อตำแหน่งของอธิบดีกรมที่ดินด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ปัญหา หากทำสิ่งที่ดีก็ได้ไม่มีผลกระทบ แต่หากไปทำอะไรนอกกรอบ หรือนอกความจำเป็น หรือไปเอื้อประโยชน์ต่อใครก็จะมีผลกระทบแน่นอน
>> คุณลุงขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกแล้วโดนทับซ้ำ เสียชีวิตกลางถนน
12.22 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสยามบุรีรัมย์ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงชนบท บริเวณใกล้เคียงโรงเรียนทุ่งใหญ่ ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สปาร์ค สีน้ำเงิน ไม่พบป้ายทะเบียน ลักษณะชนกับรถ 6 ล้อ สีขาว ป้ายทะเบียน บุรีรัมย์ แล้วถูกทับร่างซ้ำ ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 62 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง
>> "สุชาติ" เตรียมออกกฎกระทรวง ห้ามวัดถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท ที่เหลือนำเข้าธนาคาร บังคับใช้ 1 ต.ค.นี้
14.25 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ วิกฤตศรัทธาของประชาชนในวงการสงฆ์ที่เป็นข่าวในปัจจุบัน โดยนายสุชาติเผยว่า เรื่องนี้ตนได้ให้นโยบายสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะต้องทำงานเชิงรุก โดยการควบคุมพระสงฆ์เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม แต่สำนักพุทธฯ เป็นเลขาฯ ในการรับนโยบายและข้อกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ประกาศเป็นกฎกระทรวง หรือข้อปฏิบัติ ในการบังคับใช้ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องประสานกับมหาเถรสมาคมอย่างใกล้ชิด
ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติตัวไม่ชอบตามพระธรรมวินัย หรือที่เรียกว่า “สมี” นั้น ยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใด กำหนดให้เอาผิดพระที่เสพเมถุนหรือมั่วสุมยาได้ หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระ ก็ยังไม่มีกฎหมายเอาผิดได้ จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ดังนั้น การแก้ไขจึงต้องรีบร่างกฎหมายคณะสงฆ์โดยด่วน เพื่อเพิ่มโทษให้พระสงฆ์ที่ไปเสพเมถุน หรือผิดพระธรรมวินัย โดยต้องได้รับโทษจำคุกหรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้แต่สีกาที่เข้ามามั่วกับพระสงฆ์ หรือประพฤติตัวในทางล่อลวง ข่มขู่ก็จะเข้าข่ายความผิดอาญาอื่นๆ ย้ำว่ารัฐบาลจะรีบออกกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการร่างกฎหมายแล้ว คาดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะมีการแก้กฎหมาย ที่อาจจะรวมถึงการเรี่ยไร การบริจาค โดยเฉพาะการบริจาคหรือเรื่องการเงินของวัด ขณะนี้มหาเถรสมาคมได้ออกเป็นระเบียบ กฎกระทรวงแล้ว ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้ โดยกำหนดว่าหลังจากนี้ต่อไป ทุกวัดที่มีเงินบริจาค จะต้องนำเงินบริจาคเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ โดยเฉพาะวัดห้ามถือเงินสดเกิน 100,000 บาท เงินที่เหลือต้องนำเข้าบัญชีทั้งหมด
ดังนั้น ในทุกเดือนทุกวัดต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้กับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และจะควบคุมการใช้เงินรายรับรายจ่ายของวัดอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะแก้ไขได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากต้นเหตุวิกฤตศรัทธาหรือการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ชอบของพระสงฆ์เกิดจากทรัพย์สิน ทั้งนั้น ย้ำว่าจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
>> แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย
15.06 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 5.2 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 132 กม. มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย
>> ตร.ทางหลวง สกัดจับแก๊งขนแรงงานเถื่อนต่างด้าว หลังซิ่งหนีด่านฯ ยึดรถพร้อมแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเพียบ
16.33 น. พ.ต.ท.โจ เสาร์ประโคน สาวรวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล ออกปฏิบัติหน้าที่ พบรถยนต์ต้องสงสัยใน อ.ไทรโยค ก่อนไล่ติดตามไปจนมุมใน อ.เมืองกาญจนบุรี ตรวจค้นไม่พบคนขับ แต่พบแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหลายแผ่น
ภายในรถพบแรงงานต่างด้าว 11 คน พร้อมผู้ติดตาม 1 คน ทั้งหมดไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนและสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ โดยยอมรับว่าเดินทางมาจากเมียนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 68 ผ่านช่องทางธรรมชาติ ด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อไปหางานทำในไทย และเสียค่านายหน้าคนละ 30,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
>> CIB เปิด "ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา" พร้อมช่องทางรับแจ้งเบาะแสพระนอกแถว จากประชาชน
16.36 น. จากกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ตรวจค้น สืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ กับอดีตพระผู้ใหญ่หลายรูป ทั้งพื้นที่ต่างจังหวัดและในกรุงเทพมหานคร หลังได้รับแจ้งถึงการกระทำและการประพฤติตนไม่เหมาะสมภายใต้ผ้าเหลือง ประกอบกับการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟยังพบว่ามีภาพและคลิปวีดิโอจำนวนมาก ที่เป็นหลักฐานสำคัญระบุถึงความไม่เหมาะสมต่างๆ กระทั่งนำมาสู่การลาสิกขาของพระผู้ใหญ่ชั้นเทพหลายรูปนั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการตั้ง “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย” โดยมี พล.ต.ท.จิรภพฯ ผบช.ก. เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ และมอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นรองหัวหน้าศูนย์ฯ รวมทั้งมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการหากพบการกระทำความผิดทั้งทางสงฆ์และทางกฎหมาย
>> น้ำท่วมขังบริเวณแยกตลาดแม่ทองสุข (ปากทางโรงโม่) รถสัญจรไปมาลำบาก เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกการสัญจร
17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่บ้านหนองหม้อ หมู่ที่9 ตำบลป่าอ้อดอนชัย จนเกิดน้ำท่วมขังบริเวณแยกตลาดแม่ทองสุข (ปากทางโรงโม่) ทำให้รถสัญจรไปมาลำบาก โดยขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้วคาดว่าน้ำจะค่อยๆ ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกการสัญจร และเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมขังดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
>> ตำรวจ สน.บางซื่อ จับคนก่อความเดือดร้อนรำคาญและวินเถื่อนหมอชิต รวม 5 ราย
17.48 น. ฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.บางซื่อ นำกำลังตำรวจลงพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (หมอชิต) กรุงเทพมหานคร หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า พบกลุ่มบุคคลก่อความเดือดร้อนรำคาญ เรียกและเดินตามประชาชนที่เดินผ่านไปมาในลักษณะหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบและพบชายไทย 3 ราย กำลังยืนโบกมือเรียกผู้โดยสารและมีพฤติการณ์เดินตามประชาชนที่ใช้บริการสถานีขนส่งหมอชิต
จากการสอบสวนชายทั้งสาม ให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริง โดยมีเจตนาเรียกผู้โดยสารให้ตนเป็นผู้นำพาไปยังปลายทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ” และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ สน.บางซื่อ พร้อมกำลังสายตรวจชุดที่ 3 ได้ออกตรวจและทำการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายจราจรเพิ่มเติม บริเวณสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (หมอชิต) จำนวน 5 ราย เป็นผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย หรือวินผี อีกด้วย
>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุก แล้วกระบะชนซ้ำซ้อน เสียชีวิตกลางถนน
20.03 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยฮุก 31 ยโสธร มีอุบัติเหตุ รถบรรทุกเฉี่ยวชนกับรถจักยานยนต์ และรถกระบะมาชนซ้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต บนถนนวารีราชเดช ใกล้เคียงปากทางเข้าบ้านวังแคน ในพื้นที่ ต.น้ำคำใหญ่ อ.เมือง จ.ยโสธร
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน เฉี่ยวชนกับรถบรรทุก อีซูซุ สีขาว แล้วถูกรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ขับมาชนซ้ำซ้อน ทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย อายุ 62ปี สัญชาติ สปป.ลาว พื้นที่ สภ.เมืองยโสธร
>> แผ่นดินไหว ในพื้นที่ประเทศเมียนมา
22.19 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.3 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 126 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> โจรขโมย จยย. บิดหนีแต่ไม่รอด รถแหกโค้งคว่ำเจ็บ เพื่อนๆ ผู้เสียหายตามมายืนเรียงถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทำยังกับงานแถลงข่าว
23.46 น. ตำรวจ สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ แล้วประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำระหว่างหลบหนี โดยชาวบ้านสามารถควบคุมตัวไว้ได้ เหตุเกิดในซอย 9 เขาตาโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่และพนักงานร้าน “79 โชว์” กำลังช่วยกันจับกุมตัว นายนอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี คนร้ายที่นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด หลังขี่รถหลบหนีแล้วเสียหลักแหกโค้งคว่ำลงกลางถนน มีบาดแผลถลอกหลายแห่งตามร่างกาย ตำรวจจึงประสานหน่วยกู้ภัยเข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง-ขาว พลิกคว่ำไถลอยู่กลางถนน ได้รับความเสียหาย ซึ่งภายหลังยืนยันว่าเป็นคันที่ถูกขโมยไป
นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เจ้าของรถ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมนำคลิปวงจรปิดให้ตำรวจดูเป็นหลักฐาน ยืนยันว่ารถคันนี้ถูกขโมยไปจากลานจอดหน้าที่ทำงาน ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะพากันไล่ล่าคนร้ายจนกระทั่งรวบตัวได้ โดยมีการยืนเรียงแถวถ่ายรูปกับคนร้าย เหมือนฉากแถลงข่าวตำรวจ เก็บไว้เป็นที่ระลึก
ด้าน นายออ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พนักงานร้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เข้ามาขโมยรถของเพื่อนร่วมงานจากลานจอดที่ทำงานย่านเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ หลังรู้ตัว พนักงานทั้งหมดจึงช่วยกันขี่รถออกตามหา จนไปเจอคนร้ายกำลังขี่รถอยู่ในซอยกอไผ่
ระหว่างไล่ตาม คนร้ายพยายามหักรถเข้าหาเหมือนจะพุ่งชน และทำท่าคล้ายจะชักอาวุธจากกระเป๋า ทำให้ทุกคนระวังตัวและถอยห่าง กระทั่งขี่ตามมาในซอยเขาตาโล รถของคนร้ายเสียหลักพลิกคว่ำ จึงสามารถจับตัวไว้ได้และแจ้งตำรวจทันที
เบื้องต้น นายนอ รับสารภาพว่า ใช้กุญแจผีไขรถจักรยานยนต์ในลานจอด พอระบบไฟติดจึงรีบขี่หลบหนีออกมาทันที ตำรวจ สภ.หนองปรือ จึงประสานส่งตัวให้ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ รับไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป