"หมอเจด" เตือนแล้วนะ ไม่อยากเป็นนิ่ว เช็กด่วนกินอะไรเสี่ยงสุด
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 "หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เผยไม่อยากเป็นนิ่ว เช็กด่วน กินอะไรเสี่ยงสุด! หลายคนเห็นข่าวที่พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เป็นนิ่ว แล้วแอบกลัวนะ พวกนี้ทั้งปวด ทั้งทรมาน บางคนผ่าตัดพักฟื้นนานอีก หลายคนอาจจะเข้าใจว่านิ่วมีแบบเดียว แต่จริง ๆ แล้ว นิ่วที่พบบ่อย ๆ อย่าง “นิ่วในถุงน้ำดี” กับ“นิ่วในไต” เป็นคนละเรื่องกันเลย
สาเหตุต่าง อาหารที่เกี่ยวข้องก็ต่าง วันนี้เลยอยากเล่าให้ฟัง ว่าอาหารแบบไหนที่ทำให้เสี่ยงนิ่วแต่ละแบบ แล้วถ้าอยากเลี่ยงจะต้องทำยังไงบ้าง
1. นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากอะไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าถุงน้ำดีทำงานยังไง ร่างกายเราจะมี “น้ำดี” ที่สร้างจากตับ ทำหน้าที่ย่อยไขมัน น้ำดีพอสร้างเสร็จจะถูกเก็บไว้ในถุงน้ำดีเล็ก ๆ พอเรากินของมัน ๆ ถุงน้ำดีก็จะบีบน้ำดีออกมาช่วยย่อยอาหาร
ปัญหาคือ ถ้าน้ำดีมีคอเลสเตอรอลสูงเกินไป หรือถุงน้ำดีบีบตัวไม่ค่อยดี น้ำดีที่ค้างอยู่นาน ๆ จะเริ่มตกตะกอน กลายเป็นก้อนแข็ง ๆ หรือที่เราเรียกว่า “นิ่วในถุงน้ำดี” อาหารที่ทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูงขึ้นก็คือพวกของทอดมันจัด ๆ น้ำมันปาล์ม หนังไก่ หนังหมู เนื้อติดมัน พอเรากินบ่อย ๆน้ำดีก็ต้องทำงานหนักขึ้น แล้วถ้าเป็นคนไม่ค่อยขยับตัว น้ำดีค้างนาน ๆ ยิ่งเสี่ยงก้อนนิ่วมา
2. สัญญาณที่บอกว่า…ระวังนิ่วในถุงน้ำดีนะ!
อาการของนิ่วในถุงน้ำดีบางครั้งหลอกเรามาก ๆ เพราะหลายคนปวดท้องจนคิดว่าเป็นโรคกระเพาะหรือลำไส้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นนิ่วก็มีเยอะ
- ปวดจุกแน่น ๆ ใต้ชายโครงขวาหลังมื้ออาหารมัน ๆ
- บางทีปวดร้าวขึ้นไปถึงไหล่ขวา
- คลื่นไส้อาเจียนหลังมื้อใหญ่ ๆ
- ท้องอืดแน่นจนรู้สึกผิดปกติ
พอเจออาการพวกนี้บ่อย ๆ ควรไปอัลตราซาวด์เช็กดีกว่า อย่ารอให้ถึงขั้นต้องผ่าตัด
3. นิ่วในไต เกิดจากอะไร?
ตัดภาพมาที่นิ่วในไต อันนี้คนละเรื่องกับถุงน้ำดีเลยครับ นิ่วในไตเกิดจากเกลือแร่ในปัสสาวะ เช่น แคลเซียม ออกซาเลต หรือกรดยูริก จับตัวกันจนเป็นก้อน ซึ่งมักเจอในคนที่ดื่มน้ำน้อย กินอาหารเค็ม หรือกินโปรตีนสัตว์เยอะเกินไป เวลาเรากินเนื้อแดง เครื่องใน หรือโปรตีนสัตว์มาก ๆ จะทำให้กรดยูริกในปัสสาวะสูงขึ้น
ส่วนอาหารเค็มจัดจะทำให้แคลเซียมถูกขับออกมาทางปัสสาวะเยอะขึ้น ถ้าดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะเข้มข้น แร่ธาตุต่าง ๆ ก็จับตัวกันง่าย นิ่วในไตก็เกิดขึ้นเงียบ ๆ เลยครับ
4. อาหารที่เกี่ยวข้องกับนิ่วในไต
- เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ กินเยอะเกินทำให้กรดยูริกสูง
- อาหารเค็มจัด เช่น อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของหมักดอง
- ผักออกซาเลตสูงอย่างผักโขม กะหล่ำปลี ใบชะพลู ถ้ากินบ่อยโดยไม่บาลานซ์กับน้ำก็เสี่ยง
- ชาเข้มจัดที่ดื่มทุกวัน เพราะออกซาเลตสูงเหมือนกัน
- ดื่มน้ำน้อย ทำให้ปัสสาวะข้น แร่ธาตุตกผลึกง่ายขึ้น
5. วิธีลดความเสี่ยงแบบเข้าใจง่าย
เรื่องดีคือ ทั้งนิ่วในถุงน้ำดีและนิ่วในไต ป้องกันได้จากอาหารและพฤติกรรมประจำวันนี่แหละ
กันนิ่วในถุงน้ำดี
- ลดของทอดมันจัด เปลี่ยนน้ำมันเป็นไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันปลา
- กินโปรตีนไขมันน้อย เช่น ปลา ไก่ไม่ติดหนัง เต้าหู้
- เพิ่มผักและไฟเบอร์สูง ๆ ช่วยดักคอเลสเตอรอล
- อย่านั่งนิ่ง ๆ หลังมื้ออาหาร ลองเดินย่อยเบา ๆ ให้ถุงน้ำดีบีบตัว น้ำดีไม่ค้าง
- ยิ่งถ้าเพิ่มการออกกำลังกาย จะช่วยควบคุมเรื่องน้ำหนัก ก็จะลดคววามเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดีด้วย
กันนิ่วในไต
- ดื่มน้ำให้พอ วันละ 2–2.5 ลิตร ให้ปัสสาวะใส ๆ
- ลดอาหารเค็ม อาหารแปรรูป และไม่กินโปรตีนสัตว์เยอะเกินทุกมื้อ
- ถ้าชอบชา ลองสลับดื่มน้ำเปล่า หรือลดความเข้มข้นลง
- กินผักผลไม้ให้หลากหลาย ไม่เน้นผักออกซาเลตสูงชนิดเดียว
นิ่วไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยครับ ของที่เรากินทุกวันนี่แหละคือปัจจัยหลัก ถ้าเป็นของทอดมัน ๆ รวมไปถึง “4F” คือ Female (ผู้หญิง), Forty (อายุ 40+), Fat (ไขมันเยอะ), Fertile (ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง) เสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี
แต่ถ้าเป็นเนื้อสัตว์เยอะ เค็ม ดื่มน้ำน้อย เสี่ยงนิ่วในไต พอเข้าใจแบบนี้แล้ว เราก็เลือกกินได้ฉลาดขึ้น ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วยลดโอกาสเกิดนิ่วได้เยอะเลย
ขอบคุณ FB : หมอเจด