ไทยต้องแลกอะไร? ทำให้สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีแค่ 19% นักวิเคราะห์เตือนระวัง Sell on fact

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไว้ที่ 19% หลังจากที่ประกาศว่าได้ข้อตกลงทางการค้ากับไทยวานนี้ ซึ่งถือว่า เป็นระดับเดียวกันกับบ้านหลายแห่ง แต่ถือว่าดีกว่าเวียดนามที่ได้ในระดับ 20% แต่ก็เกิดคำถามว่า ไทยต้องแลกกับอะไรเพื่อให้ได้ภาษี 19%

แม้ล่าสุดนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นภาษี แต่ยังไม่ได้บอกถึงสิ่งที่ต้องแลกกับสหรัฐฯ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การประกาศ Tariff rate ที่ 19% สะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย–สหรัฐฯ ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า Tariff rate ดังกล่าวเป็น อัตราภาษีเดียวกันกับประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา พร้อมกับการประกาศของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ว่า สหรัฐฯ จะคงอัตราภาษีขั้นต่ำระดับโลกไว้ที่ 10% ตามเดิม

ทั้งนี้ประเมินกรณีภาษี Tariff ของ ไทยที่ออกมา 19% นี้ ถือว่าใกล้เคียงกับที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นผลกระทบในแง่ของดัชนี SET อาจมีไม่มากนักหรืออาจเห็นปรากฏการณ์ Sell on fact บ้างในระยะสั้น

แต่ในส่วนของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกลุ่มส่งออกเช่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมนั้น

โดยประเมินว่าความชัดเจนที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นตัวปลดล็อคความ Overhang ที่เคยกดดันตัวหุ้นมาก่อนหน้านี้ได้บ้าง โดยเฉพาะกับอัตราภาษีที่ออกมาไม่ได้เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านมากนัก

ทั้งนี้ สิ่งที่คงต้องติดตามต่อไปก็คือรายละเอียดของดีลที่เกิดขึ้นนี้ ว่าไทยเราจะต้องมีการเปิดตลาดสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯรายการใดบ้าง และต้องมีการลดอากรขาเข้าต่อสินค้าเหล่านี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่มาก อาจเป็นปัจจัยกดดันภาพ GDP ของไทยในช่วงถัดไป ผ่านตัวแปร Net export ที่ปรับลดลงได้