Prince Group กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ กับความเชื่อมโยงถึงรัฐมนตรีกัมพูชา
สำนักข่าวอิศรา ได้เผยแพร่รายงานพิเศษ "ส่องคดีทุจริตโลก" ที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชนที่ ซาร์ ซกคา (Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ถือหุ้นอยู่ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับการลงทุนในคาสิโนและโปรเจกต์ขนาดใหญ่บนเกาะปาเลา มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท
เฉิน จือ: ประธานกลุ่ม Prince Group ผู้ทรงอิทธิพลกับข้อกล่าวหาที่น่าตกใจ
เฉิน จือ (Chen Zhi) ชาวจีนผู้ได้รับสัญชาติกัมพูชา และดำรงตำแหน่งประธาน Prince Group ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในการขยายเครือข่ายธุรกิจที่น่าสงสัย ซึ่งรวมถึง การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย, อาชญากรรมทางไซเบอร์, และการฟอกเงิน โดยอาศัยอิทธิพลและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้นำทางการเมืองในกัมพูชา
จากกัมพูชา สู่ปาเลา: การลงทุนที่คุกคามอธิปไตย
การสืบสวนเชิงลึกโดย Radio Free Asia (RFA) และสถาบันวิจัย Pacific Economics เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวที่น่ากังวลของบุคคลที่ร่วมลงทุนในโครงการของ Prince Group ใน ประเทศปาเลา ประเทศเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉิน จือ ถือหุ้น 37.5% ในบริษัท Grand Legend International Asset Management Group ซึ่งจดทะเบียนในปาเลา และมีโครงการลงทุนด้านโรงแรมและรีสอร์ทมูลค่ามหาศาลถึง 32,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้สูงกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของปาเลาถึงสามเท่า!
ที่น่าจับตาคือ การที่ Prince Group ได้เข้าครอบครองเกาะ Ngerbelas ด้วยสัญญาเช่า 99 ปี โดยไม่มีพันธะในการบำรุงรักษาหรือพัฒนา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการผูกขาดทรัพยากรของชาติ และอาจเป็นช่องทางให้อิทธิพลจากปักกิ่งแทรกซึมเข้ามาอย่างแยบยลในประเทศที่ยังคงให้การรับรองไต้หวัน
เครือข่ายลึกลับ: โรส หวัง และความเชื่อมโยงกับจีนโพ้นทะเล
บุคคลที่ร่วมลงทุนในโครงการของ Prince Group ที่ปาเลาคือ นางโรส หวัง (Rose Wang) หรือ หวัง กัวตัน (Wang Guodan) ชาวจีนผู้เคยถูกประกาศเป็นบุคคลต่างด้าวไม่พึงประสงค์ในปาเลาเมื่อปี 2565 เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการพบปะระหว่างผู้นำกลุ่มอาชญากรรม Triad 14K กับอดีตประธานาธิบดีปาเลา แม้เธอจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับ Prince Group แต่หลักฐานการจดทะเบียนบริษัท Grand Legend กลับระบุชื่อเธอเป็นตัวแทนจดทะเบียนและใช้โรงแรมของเธอเป็นที่ตั้งบริษัท
นอกจากนี้ นางโรสยังมีบทบาทเป็นผู้นำในสมาพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลปาเลา ซึ่งมีข่าวว่าเชื่อมโยงกับกระทรวงการต่างประเทศของจีน และอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการแทรกแซงทางการทูตโดยอ้อมในประเทศที่ยังคงรักษาสัมพันธ์กับไต้หวัน
รุกคืบสู่ไต้หวัน: ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมาย?
ตั้งแต่ปี 2561 Prince Group ได้ขยายกิจการเข้ามาในไต้หวัน โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี การดำเนินงานในนาม “บริษัทต่างชาติ” นี้เองที่ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการลงทุนของจีนในไต้หวันได้ กิจกรรมของ Prince Group ในไต้หวันครอบคลุมถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การให้คำปรึกษาทางการเงิน และโปรแกรมย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุน ซึ่งรวมถึงการจัดทริปเยือนกัมพูชาและนำเสนอผลตอบแทนสูงถึง 6% ต่อปี แม้รัฐบาลไต้หวันจะไม่แสดงความเห็นโดยตรง แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงยอมรับว่า จีนพยายามใช้เครือข่ายธุรกิจและกลุ่มอาชญากรจีนเป็นเครื่องมือแทรกแซงทางอ้อมในประเทศพันธมิตรของไต้หวัน
ข้อกล่าวหาร้ายแรง: ฟอกเงิน, ค้ามนุษย์, ลักพาตัว และภาพลักษณ์ที่ย้อนแย้ง
รายงานสืบสวนของ RFA เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ชี้ชัดว่า Prince Group มีความเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน, การค้ามนุษย์, และกิจกรรมอาชญากรรมไซเบอร์ระดับนานาชาติ โดยมีฐานปฏิบัติการสำคัญในเมืองสีหนุวิลล์และกรุงพนมเปญ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือคำกล่าวอ้างของอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจลับจีนที่ระบุว่า Prince Group มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนลักพาตัวนักเคลื่อนไหวชาวจีนจากไต้หวัน แม้ทางบริษัทจะปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ท่ามกลางการจับตาอย่างเข้มข้นจากนานาชาติ แต่ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เฉิน จือ กลับได้รับรางวัล "ผู้ประกอบการแห่งปีของกัมพูชา" และรางวัล "ความรับผิดชอบต่อสังคมยอดเยี่ยม (CSR)" จากองค์กรสื่อในสิงคโปร์ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความย้อนแย้งอย่างรุนแรงระหว่างภาพลักษณ์ที่ได้รับการเชิดชูในกัมพูชา กับข้อกล่าวหาในระดับนานาชาติว่าเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมระดับโลก
บทสรุป: ความท้าทายต่อความมั่นคงระดับชาติและภูมิภาค
กรณีของ Prince Group จึงไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ แต่เป็นภาพสะท้อนที่ซับซ้อนของความเชื่อมโยงระหว่างทุนอิทธิพล ธุรกิจผิดกฎหมาย และการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ที่มีมิติข้ามชาติอย่างลึกซึ้ง การดำเนินคดีและการสอบสวนในหลายประเทศชี้ชัดว่าบริษัทแห่งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เปราะบางต่อการแทรกแซงจากมหาอำนาจ การดำเนินการใดๆ ต่อ Prince Group จึงเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวพันกับ ความมั่นคงระดับชาติและเสถียรภาพของภูมิภาค อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้