โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

อบอุ่นหัวใจ! ไวรัลหนุ่มจีนส่งหน้ากากอนามัยระหว่างโควิด-19 ระบาด ตอบแทนชาวญี่ปุ่นที่เคยช่วยเหลือ

เดลินิวส์

อัพเดต 20 ธันวาคม 2568 เวลา 1.36 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ขณะที่บรรยากาศทางการเมืองระหว่างจีนและญี่ปุ่นอยู่ในภาวะตึงเครียด แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ข้ามชาติของหนุ่มจีนและครอบครัวชาวญี่ปุ่นได้สร้างความอบอุ่นหัวใจแต่ชาวเน็ตทั้งสองประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ รายการวาไรตี้ของญี่ปุ่นชื่อ The World’s Astonishing News! ได้นำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวหนุ่มจีนและชาวญี่ปุ่นที่มีจุดเริ่มต้นในปี 2559 ซึ่งจุดประกายการพูดคุยในหมู่ชาวเน็ตของทั้งสองประเทศ

เส้าจิน หนุ่มชาวจีนผู้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของอะนิเมะญี่ปุ่นจากเมืองอิ๋นชวนของจีน เคยเดินทางไปเที่ยวที่เมืองทาคายามะของญี่ปุ่นตามลำพังในวันส่งท้ายปี 2559

โชคไม่ดีที่ เส้าจิน ลืมจองที่พักในช่วงเทศกาลซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นักท่องเที่ยวหนุ่มที่หาห้องพักจึงไม่ได้ จึงได้แต่เดินเร่ร่อนไปตามถนนตอนกลางคืนโดยลากกระเป๋าเดินทางฝ่าความหนาวเย็นของช่วงส่งท้ายปีไปด้วย

โยชิซาวะ ฮิราซาวะ ชาวท้องถิ่นสังเกตเห็นหนุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังตกที่นั่งลำบาก จึงเข้าไปหาและพูดคุยโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร เขาเสนอตัวช่วย เส้าจิน และชวนชายหนุ่มให้ไปพักค้างคืนที่บ้านของเขา

ชายทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วหลังจากสนทนากันได้ไม่นาน และพบว่าต่างก็มีอุปนิสัยที่เข้ากันได้ ทั้งคู่เป็นคนใจดีและขี้เกรงใจผู้อื่นเหมือนกัน

ในวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ได้แยกย้ายกันไป แต่ก็ได้บังเอิญพบกันอีกครั้งและได้ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่จะขาดการติดต่อกันไปหลังจากนั้น

เมื่อเวลาเดินทางมาถึงช่วงต้นปี 2563 การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยขาดแคลนอย่างหนักในญี่ปุ่น โดยมีพ่อค้าคนกลางกักตุนสินค้าและนำมาขายในราคาที่สูงเกินจริง

ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นเอง ฮิราซาวะก็ได้รับโทรศัพท์จากศาลเจ้าในละแวกบ้านให้ไปรับพัสดุจากเมืองอิ๋นชวน ประเทศจีน ซึ่งภายในบรรจุหน้ากากอนามัย 300 ชิ้น จดหมายหนึ่งฉบับ และรูปถ่ายของตัวเขาเอง

ฮิราซาวะจำได้ว่ารูปนั้นเป็นรูปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เขาเคยช่วยเหลือถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน ส่วนในจดหมายซึ่งเขียนโดยเส้าจิน ก็มีเนื้อหากล่าวขอบคุณต่อความมีน้ำใจของฮิราซาวะ และอธิบายว่า เขาส่งหน้ากากเหล่านี้มาเพื่อเป็นของขวัญขอบคุณที่ ฮิราซาวะ เคยช่วยเหลือเขาไว้ในยามลำบาก

เนื่องจากไม่สามารถหาที่อยู่ของฮิราซาวะได้ เส้าจิน จึงส่งพัสดุมาพร้อมกับรูปถ่ายของฮิราซาวะไปยังศาลเจ้าที่ฮิราซาวะเคยพูดถึง จนกระทั่งเขาได้รับพัสดุในที่สุด

ฮิราซาวะกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการว่า "ผมตกใจกับเรื่องนี้จริงๆ ผมรู้สึกขอบคุณเส้าจินมาก"

ฮิราซาวะได้บริจาคหน้ากากอนามัยครึ่งหนึ่งให้ศาลเจ้า และแบ่งปันส่วนที่เหลือแก่ครอบครัวและเพื่อนๆ

จนถึงปัจจุบันนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ยังติดต่อกันอยู่โดยผ่านช่องทางออนไลน์

เมื่อเดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทากาอิจิ ได้แสดงความเห็นในประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับไต้หวันและจุดชนวนความตึงเครียดทางการทูตระหว่างจีนและญี่ปุ่น

ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าอึดอัดระหว่างสองประเทศนี้ เรื่องราวที่แสนอบอุ่นหัวใจของเส้าจินและฮิราซาวะจึงกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดียในทั้งสองประเทศ

ผู้ชมรายการชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า "ขอบคุณฮิราซาวะและเส้าจิน มิตรภาพของพวกคุณอาจจะเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ฤดูหนาวที่เหน็บหนาวนี้อบอุ่นขึ้น"

ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้เน็ตชาวจีนคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า "ความเมตตาระหว่างคนธรรมดาด้วยกันนั้นก้าวข้ามภาษาและพรมแดน การเมืองอาจทำให้เราแยกจากกัน แต่มันไม่ควรทำลายศรัทธาที่เรามีต่อความดีงามของมนุษย์"

ส่วนชาวเน็ตจีนอีกรายกล่าวว่า "นี่คือเรื่องราวแบบที่เราควรจะได้เห็นและแบ่งปันกันในทุกวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องของการสร้างความแตกแยกหรือการเผยแพร่พลังลบ แต่มันคือเครื่องเตือนใจว่า ยังคงมีความรักอยู่บนโลกใบนี้"

ที่มา : scmp.com

เครดิตภาพ : 6park.com, X / @Rin01812

ดูข่าวต้นฉบับ

อ่านคอนเทนต์เพิ่มเติม คลิก!

Daily Focus

“โบว์ เบญจวรรณ” ตอบกลับ หลังเจอชาวเน็ตแซะ กินตะเกียบเดียวกับ “แบงค์ พชร” แต่ทำไมกับอดีตแฟนเก่าตอนนั้นทำไม่ได้

มาดามเม้าท์

เกิดอะไรขึ้น ก้อย รัชวิน ออกงานล่าสุด ถูกชาวเน็ตโฟกัสผิดจุด โดนติงแรงเรื่องหน้า

News In Thailand

รู้แล้ว แม่สื่อสาวสวย ที่แนะนำ มายด์-พาย รู้จักกัน ที่แท้เป็นนักแสดงชื่อดัง ทำแฟนๆฮือฮาทั้งโซเชียล

News In Thailand
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...