สานสัมพันธ์ไทย–จีน ถ่ายทอดเสน่ห์ "กู่ฉิน" เชื่อมความเข้าใจด้านภาษา
หลักสูตรภาษาจีนธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล จัดกิจกรรม “DPU Chinese For Fun 1-Day Camp 2025” เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 โดยได้เชิญ รองศาสตราจารย์ ดร.เว่ย เหวย รองคณบดีวิทยาลัยดนตรีหนานจิง แห่งวิทยาลัยศิลปะหนานจิงสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกู่ฉิน มาถ่ายทอดองค์ความรู้และสาธิตการบรรเลงบทเพลงกู่ฉินให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสดนตรีจีนโบราณ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันวร จะนู ผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาวุโส General Support & Services อาจารย์เอกรัตน์ จันทร์รัฐิติกาล ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล (ฝ่ายไทย) รองศาสตราจารย์เฉิน เวย ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล (ฝ่ายจีน) และ ดร.ณพล ม่วงงาม ผู้สอนรายวิชาวัฒนธรรมจีนกับการใช้ภาษา หัวหน้าหลักสูตรภาษาจีนธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องเรียนชั้น 2 สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
กิจกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจากบันทึกความร่วมมือทางวิชาการที่สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาลงนามกับมหาวิทยาลัยศิลปะหนานจิง ประเทศจีน เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ภายใต้การผลักดันของรองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และศาสตราจารย์เผิง ลี่หยวน ภริยาประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากร วิจัยร่วม และฝึกอบรมด้านดนตรีอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ DPU ได้สานต่อความร่วมมือกับสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ผ่านทางสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล DPU ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับการแสดงจากนักดนตรีระดับประเทศของจีน
อาจารย์เอกรัตน์ จันทร์รัฐิติกาล ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล DPU กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดบรรยายและแสดงดนตรีแบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบแรกเปิดให้นักเรียนระดับมัธยมจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา กรุงเทพมหานคร และรอบสองสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรภาษาจีนธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ ของ DPU โดยมีการบรรยายเป็นภาษาจีนพร้อมแปลประกอบ เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาเข้าใจเนื้อหาได้อย่างครบถ้วน ซึ่งผู้เข้าร่วมทุกคนไม่เพียงได้สัมผัสการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำ ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และพัฒนาทักษะทางภาษาจีนไปพร้อมกัน ถือเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่หาฟังได้ยากควบคู่กับการพัฒนา ศักยภาพเยาวชนไทย
ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล DPU อธิบายว่า “กู่ฉิน” หรือพิณโบราณ 7 สาย เป็นดนตรีดั้งเดิมของชนชาวฮั่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 3,000 ปี และถือเป็นมรดกทางดนตรีที่สะท้อนอัตลักษณ์จีน ต่างจากเครื่องดนตรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มักมีรากฐานร่วมกัน เช่น ซอหรือระนาด ในอดีตกู่ฉินถูกจำกัดอยู่ในหมู่นักปราชญ์และชนชั้นสูง อีกทั้งผู้หญิงยังไม่สามารถเล่นได้ เพราะเป็นดนตรีที่ต้องอาศัยสมาธิ ความสงบ และการเข้าถึงความหมายเชิงลึก ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงทั่วไป การแสดงครั้งนี้โดยอาจารย์ศิลปินหญิงจึงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและบทบาททางสังคมของจีนในยุคปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม อาจารย์เอกรัตน์ ทิ้งท้ายด้วยว่า การมีศิลปินผู้เชี่ยวชาญจากจีนมาเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมโดยตรง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ของ DPU ก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้วัฒนธรรมจีน” อย่างแท้จริง และในอนาคตสถาบันขงจื่อฯ พร้อมเปิดรับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่เพียงเฉพาะด้านดนตรี แต่จะรวมถึงศิลปะแขนงอื่นๆ ของจีนด้วย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และศักยภาพ ควบคู่กับการต่อยอดความรู้ให้กับเยาวชนไทยต่อไป
ด้าน ดร.ณพล ม่วงงาม ผู้สอนรายวิชาวัฒนธรรมจีนกับการใช้ภาษา หัวหน้าหลักสูตรภาษาจีนธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของดนตรีจีนโบราณ “กู่ฉิน” ทั้งการบรรเลง ประวัติความเป็นมา ประเภทของเครื่องดนตรี และแนวคิดทางปรัชญาขงจื่อเรื่อง “ธรรมชาติและมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน” ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนภาษาจีนที่ DPU ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงตำรา แต่ยังเชื่อมโยงภาษาเข้ากับวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง เพื่อผลิตบัณฑิตที่ “รู้จีน รู้ลึก รู้จริง” ได้อย่างแท้จริง
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.เว่ย เหวย รองคณบดีวิทยาลัยดนตรี วิทยาลัยดนตรีหนานจิงแห่งวิทยาลัยศิลปะหนานจิง และผู้เชี่ยวชาญด้านกู่ฉินเครื่องดนตรีจีนโบราณ เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำองค์ความรู้เกี่ยวกับกู่ฉินมาถ่ายทอดให้แก่นักเรียนไทย เพราะเชื่อว่าการเรียนรู้ดนตรีและประวัติศาสตร์ดนตรีจีน จะช่วยสร้างความประทับใจและกระตุ้นให้นักเรียนสนใจในวัฒนธรรมจีนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนมัธยมที่กำลังเรียนภาษาจีน จะได้รับแรงบันดาลใจในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการบรรยายครอบคลุมทั้งประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของกู่ฉิน อธิบายโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของเครื่องดนตรี พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เว่ย เหวย ได้สาธิตการบรรเลงบทเพลงกู่ฉินอันเป็นที่นิยม เช่น “สายน้ำไหล” กับ “กวนซานเยว่” ที่มีความหมายลึกซึ้งและบรรเลงควบคู่กับการขับร้อง ถ่ายทอดอารมณ์ให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังได้แนะนำประเภทและรูปแบบของกู่ฉินเพื่อให้เข้าใจถึงเอกลักษณ์ของดนตรีจีนโบราณ พร้อมย้ำบทบาทของดนตรีในฐานะ “สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ไทย–จีน” โดยมองว่าดนตรีไร้พรมแดนด้านภาษาและเชื้อชาติ สามารถถ่ายทอดให้ผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเข้าใจ เกิดความซาบซึ้ง และประทับใจร่วมกันได้อย่างแท้จริง