กัมพูชา 3 หมื่นชีวิต แห่กลับบ้าน ทะลักด่านบ้านแหลม
ท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่มีส่วนรู้เห็น กระทั่งเวลาต่อมา ทางการทั้ง 2 ประเทศ ประกาศให้ประชาชนที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าว เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยเร็ว
วันนี้ (6 ส.ค. 68) เวลา 07:30 น. ประชาชนชาวกัมพูชานับหมื่นชีวิต ยังคงหลั่งไหลมารอ บริเวณหน้าจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อกลับบ้านในเวลา 09:00 น. โดยส่วนใหญ่ ชาวกัมพูชาที่เดินทางมารอส่วนใหญ่ มาจากพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งคาดว่าวันนี้ยอดของชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับบ้านน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นราย
ขณะเดียวกัน ได้มีการสอบถามชาวกัมพูชา ทั้งชายและหญิง ถึงกรณีที่ต้องเดินทางกลับบ้านนั้นเป็นเพราะสาเหตุใด เกี่ยวกับที่รัฐบาลประกาศจะยึดที่ดินทำกินและจะไม่ให้สัญชาตินั้นจริงหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้คำตอบที่คล้ายกัน คือกลับบ้านเพราะพ่อแม่เป็นห่วง ทางบ้านโทรตามให้กลับเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ และมีข่าวลือถึงบางรายว่า ถ้าหากกลับไปจะถูกเกณฑ์ทหารมีความกังวลหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เนื่องจากมีความเกรงกลัว
ตัวแทนหญิงชาวกัมพูชา เปิดเผยว่า ในส่วนของการกลับบ้านครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับที่รัฐบาลจะประกาศยึดที่ดินทำกิน กลับบ้านเนื่องจากทางพ่อแม่โทรตามให้กลับ แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ก็จะกลับมาทำงานในเมืองไทยเช่นเดิม
ต่อมาในเวลา 09:00 น. เจ้าหน้าที่ด่าน ได้ทำการเปิดประตู เพื่อให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับข้ามแดนอย่างเป็นระเบียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอำนวยความสะดวก และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อาทิ ผู้ป่วย ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เป็นต้น