หลวงพ่ออลงกต แจง ยังไม่ได้ปรักปรำใครว่ายักยอก หรือฉ้อโกง
พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นเรื่องของการนำชื่อของหลวงพ่อไปแอบอ้างเรียกรับเงินบริจาค ซึ่งได้มีความชัดเจนจากคณะกรรมการที่ได้ประกาศไปแล้วให้มีการปิดบัญชี โดยกำหนดให้ใช้บัญชีรับบริจาคตามที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งบัญชีของวัดมีทั้งหมด 3 บัญชีหลักใช้รับบริจาคจากญาติโยม โดยทางสำนักพุทธให้ใช้เป็นระบบที่มีผู้ทำบุญแล้วสามารถส่งข้อมูลไปยังสรรพากรลดหย่อนภาษีได้เลย ซึ่งทางวัดได้มีการทำกับทุกธนาคารแล้ว มีชื่อบัญชีวันเวลาการโอนทุกอย่างชัดเจน สามารถทำการตรวจสอบได้
สำหรับที่ผ่านมาทางสรรพากรเวลาจะตรวจสอบใบอนุโมทนาบัตรก็จะมีการส่งใบใบอนุโมทนาบัตรมาให้กับทางหลวงพ่อ เพื่อดูว่ามีการทำบุญจริงหรือไม่ ซึ่งสรรพากรก็สามารถเข้ามาตรวจสอบในฐานข้อมูลของวัดได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่องที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับบัญชีส่วนตัว หลวงพ่อยอมรับว่ามีบัญชีส่วนตัวจริง เพื่อให้ผู้ที่ต้องการถวายเป็นปัจจัยส่วนตัวให้กับหลวงพ่อก็จะมีบัญชีส่วนตัวรองรับ ซึ่งก่อนถูกใช้เป็นบัญชีสาธารณกุศลด้วยเช่นเดียวกัน โดยใครก็ตามที่มีความประสงค์จะรับการสงเคราะห์จะมีคณะกรรมการของวัด 5 คนดูแล แต่ขั้นตอนการอนุมัติเงินสงเคราะห์ไปให้ที่ใดก็ตามจะมีคณะกรรมการ 13 คนพิจารณา เช่น คณะสงฆ์มีการขอทุนการศึกษา, สร้างบ้านให้ผู้อนาถา เป็นต้น ซึ่งส่วนตัวหลวงพ่อก็จะใช้บัญชีนี้ในการช่วยเหลือเรื่องทั่วไปตามเห็นสมควร
สำหรับการดูแลของวัดเป็นไปตามขั้นตอน และระเบียบของทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงขอยืนยันว่าทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ และขอฝากไปยังประชาชนให้บริจาคกับวัดโดยตรงไม่ควรบริจาคผ่านบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวัด ซึ่งปัจจุบันบางบัญชีได้มีคำสั่งให้ยุติการรับบริจาคแล้วหมายถึงปิดบัญชี และไม่มีการอนุญาตให้เปิดบัญชีรับบริจาคใหม่
ส่วนประเด็นเรื่องบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเกี่ยวข้องกับวัด โดยเฉพาะ หมอบี ขอประชุมไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวแทนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยได้มอบหมายให้ทนายเกิดผล ดูแลข้อกฎหมาย และได้เล่ารายละเอียดให้ฟังเบื้องต้น ซึ่งยังไม่ได้มีการปรักปรำใครว่ายักยอกหรือฉ้อโกง แต่รายละเอียดที่ทนายเกิดผลให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้อาจจะยังไม่ครบถ้วนหรือยังไม่เข้าใจรายละเอียดทั้งหมด จึงขอประชุมร่วมกันก่อน.