3 ไรเดอร์รวมตัวร้อง เจอ ‘เสี่ยเบนซ์ เกียร์R’ จงใจถอยชน - คดีไม่คืบ
(14 ส.ค. 68) ที่ศูนย์รับเรื่องสายไหมต้องรอด ผู้เสียหาย 3 คนเข้าร้องเรียนกรณีถูกรถหรูจงใจขับถอยเพื่อชน เรื่องผ่านมานานนับเดือนแล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า
โดย นายวีระเดช 1 ในผู้เสียหายได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน วันนั้นตนติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกลาดพร้าว พอไฟเขียวก็ขี่ออกมาปกติ แต่มีรถตู้ทึบจอดขวางอยู่จึงจำเป็นต้องแซงออกมาเลนขวา จากนั้นก็ได้ยินเสียงเบรคแรงๆถึงสองครั้ง ตนก็เลยรีบตีเข้าซ้าย จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ตีคู่และเปิดกระจกแล้วพูดอะไรบางอย่าง ตนฟังไม่ชัดแต่คาดว่าสบถคำหยาบ ตนก็เลยถามกลับว่าอะไรของพี่
จากนั้นคู่กรณีก็เลยปาดหน้าตน แล้วเบรกเพื่อแกล้งให้ชน ซึ่งตนก็เบรคไม่อยู่ จากนั้นคู่กรณีได้ลงจากรถแล้วปรี่มาทำร้ายตนทันที แล้วก็มีการด่าทอกัน ก่อนที่ตนจะเดินไปถ่ายป้ายทะเบียนรถ จึงพบว่าท้ายรถคู่กรณีไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตนจึงอ้อมไปถ่ายด้านหน้า ซึ่งเหตุการณ์ก็เหมือนจะจบเพราะว่าเพื่อนคู่กรณีเข้ามาห้ามปราม แต่พอคู่กรณีขึ้นรถไป ตนก็ได้ยินเสียงเบิร์นยางรถ และจากนั้นเขาได้ถอยหลังพุ่งชน ตนสามารถหลบได้ทันจึงไม่เป็นอะไรมาก แต่ไรเดอร์อีก 2 คนที่เข้ามาดูเหตุการณ์เพื่อจะช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บ และรถมอเตอร์ไซค์เสียหาย
อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่าคู่กรณีเมาแน่นอน เพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์และดูจากท่าทางการเดินที่ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ อีกทั้งหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ไปโรงพัก จนกระทั่งวันที่ 31 ก.ค. มีผู้หญิงอ้างว่าเป็นแฟนของคนขับรถเบนซ์ได้เดินทางมาโรงพัก และบอกกับตำรวจว่าเป็นคนขับ พร้อมเผยว่าจะรับผิดชอบในส่วนของรถที่เสียหาย แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเยียวยาใดๆแถมไม่สามารถติดต่อได้
นายวีระเดช เล่าต่อว่ารถที่เสียหายก็ไม่มีประกัน เนื่องจากเป็นรถเช่า เช่นเดียวกันกับรถเบนซ์ที่แจ้งว่าไม่มีประกัน ซึ่งนอกจากค่าเสียหายของรถแล้ว จริงๆ ตนอยากเรียกค่าเสียเวลาด้วย เนื่องจากตนต้องหยุดงานรวมแล้ว 4-5 วัน ซึ่งวันหนึ่งตนมีรายได้ประมาณ 1,300-1,800 บาท
ในส่วนของค่าเสียหายจักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของผู้เสียหายรายแรก 8,000 บาท ส่วนไรเดอร์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมียี่ห้อ FIN 5,000 บาท และยี่ห้อ PCX 23,000 บาท
ด้าน นายปกรณ์ ไรเดอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์และได้บันทึกภาพไว้ทั้งหมด เผยว่า วันนั้นตนจอดติดไฟแดงอยู่ย่านลาดพร้าว พอไฟเขียวก็ออกตัวกัน จากนั้นตนวิ่งหาลูกค้าไปเรื่อยๆอยู่เลนซ้าย ส่วนรถคู่กรณีวิ่งเร็วมาก แทบไม่ได้ยินเสียงรถ ถ้าไม่มองกระจกหลังถึงแก่ชีวิตได้เลย พอถึงจุดเกิดเหตุตนเลยตั้งใจจะเข้าไปช่วย เนื่องจากตนเพิ่งซื้อกล้องติดหมวกกันน็อคมาใหม่ สุดท้ายก็โดนลูกหลงทั้งบาดเจ็บและรถเสียหายไปด้วย ตนอยากให้ผู้ขับขี่รถใช้ความเร็วให้เหมาะสม เพราะอันตรายต่อผู้อื่น ถ้าวันนั้นเป็นตนก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ในส่วนของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่าจะตามเรื่องให้เร็วที่สุดคาดว่าไม่เกิน 1-2 วันจะได้ความคืบหน้า พร้อมวอนให้คู่กรณีเข้ามารับผิดชอบสิ่งที่ทำ วันนั้นคุณไม่โดนไรเดอร์รุมกระทืบก็ดีเท่าไหร่แล้ว การที่คุณเบิร์นยางรอเพื่อจะถอยหลังชนเขาแบบนี้เป็นการจงใจทำให้เสียหาย คุณต้องเยียวยาผู้เสียหายจนไม่ติดใจ ไม่อย่างนั้นคุณติดคุกแน่นอน ซึ่งหากดูตามคลิปแล้ว สามารถดำเนินคดีได้ในหลายข้อหา ไม่ว่าจะเป็นชนแล้วหนี เจตนาทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงขับรถประมาณหวาดเสียว ส่วนเรื่องเมาแล้วขับไม่น่าจะตรวจสอบย้อนหลังได้ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 1 เดือนแล้ว
อย่างไรก็ตามอาจจะเพิ่มข้อหาให้การเท็จกับเจ้าพนักงานได้อีก 1 คดี จากการที่แฟนสาวของคนขับมาสมอ้างว่าเป็นผู้ขับขี่เอง เนื่องจากหลักฐานชัดเจนว่าคนขับในวันนั้นเป็นผู้ชาย และตนขอฝากกรมขนส่งทางบก ให้พิจารณาในการเพิกถอนหรือยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วย เพื่อให้หยุดพฤติกรรม
เจตนาทำร้ายร่างกายและเสียทรัพย์