ดีเอสไอเจอพิรุธ นิติกรรมอำพรางโฉนดที่ดินเขากระโดง โยงนักการเมือง โอนที่ดินกลับไปกลับมา
ดีเอสไอเจอพิรุธ นิติกรรมอำพรางโฉนดที่ดินเขากระโดง ชี้มีนักการเมืองเป็นเจ้าของที่ดิน โอนกลับไปกลับมาช่วงปี 65 และก่อนเลือกตั้งปี 66
วันที่ 23 ส.ค.68 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย และจังหวัดบุรีรัมย์ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่ที่ผ่านมาของดีเอสไอ ระหว่างวันที่ 19-21 ส.ค. โดยในวันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้พบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนเดินทางต่อไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และได้รับข้อมูลว่า ภายหลังจากมีคำพิพากษาศาลปกครองว่าที่ดินเป็นของการรถไฟฯ ก็ได้มีชาวบ้านประมาณ 300 ราย มายื่นร้องขอความเป็นธรรม ทางจังหวัดบุรีรัมย์จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและส่งเรื่องให้สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการต่อไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีเรื่องแผนที่ที่การรถไฟฯ ทำร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ตามคำสั่งศาลปกครอง แสดงพื้นที่เดิม จำนวน 5,083 ไร่ แต่การวัดในระบบใหม่เมื่อเดือน ก.ค.67 พบพื้นที่จริง จำนวน 4,414 ไร่ นั้น รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า การวัดแผนที่เป็นการวัดโดยคำสั่งศาลปกครองกลางที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร้องขอให้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินในพื้นที่การรถไฟฯ เพื่อตำแหน่งที่ชัดเจนด้วยการวัดที่ โดยมีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ร่วมรังวัดด้วย อีกทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้ทำการรังวัดตามอำนาจหน้าที่ ผลการรังวัดจึงได้เป็นเนื้อที่ 4,414 ไร่ ดังกล่าว
สำหรับประเด็นระวางของแผนที่ที่พบมีสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะ และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการขออนุมัติหรือไม่นั้น รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า ข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่ได้มีการแจ้งว่า สิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะ ประกอบด้วย สนามฟุตบอลในพื้นที่ของการรถไฟฯ เนื่องจากตามระวางโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง จะมีทางสาธารณะพาดผ่านสนามฟุตบอล และบางส่วนของสนามฟุตบอลก็ไม่มีเอกสารสิทธิ อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน
ส่วนกรณีสารบบที่ดินพบการทำนิติกรรมอำพรางในโฉนดหลายแปลงนั้น รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุถึงนิติกรรมอำพรางดังกล่าวว่า แหล่งข่าวในพื้นที่ได้แจ้งว่า มีนักการเมืองที่เป็นเจ้าของที่ดินในที่ดินเขากระโดง และมีพฤติกรรมการโอนที่ดินแบบให้กันกลับไปกลับมา ในช่วง พ.ศ.2565 และก่อนเลือกตั้งในปี พ.ศ.2566
รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า ข้อมูลจากสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าเมื่อปี พ.ศ. 2513-2539 การรถไฟฯ ได้มีทั้งการรับรองและไม่รับรองการออกโฉนดของชาวบ้านในพื้นที่ โดยพบว่าในห้วงปีดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้ไปรับรองการออกโฉนดของชาวบ้านในพื้นที่ โดยเป็นการไปรับรองแนวเขตว่าไม่ได้เป็นของการรถไฟฯ จำนวน 513 ไร่ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าอยู่ในที่ดินของการรถไฟฯ
ทั้งนี้ รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า หากมีการครอบครองที่ดินเกินกว่า 50 ไร่ และพิสูจน์ได้ว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ กรณีมีการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินของการรถไฟฯ โดยการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่การรถไฟฯ 4,414 ไร่ จะเข้าข่ายรับเป็นคดีพิเศษตามลักษณะคดีบัญชีแนบท้ายประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 8) เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในเรื่องความผิดมูลฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดีเอสไอเจอพิรุธ นิติกรรมอำพรางโฉนดที่ดินเขากระโดง โยงนักการเมือง โอนที่ดินกลับไปกลับมา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th