โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชาวอเมริกันโอนกว่า 2 ล้าน เข้าบัญชีม้าในไทย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

ตร.ไซเบอร์ ทลายแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชาวอเมริกันโอนกว่า 2 ล้าน เข้าบัญชีม้าในไทย พบเส้นทางการเงินโยงชาวอินเดีย-ร้านทองในกรุงเทพฯ ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาท

วันที่ 14 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 พ.ต.ท.จิรวัฒน์ บุรีงาม รองผกก.4 บก.สอท.2 ร่วมแถลงปฏิบัติการ “ทลายแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชาวอเมริกันโอนเงินกว่า 2 ล้านบาท เข้าบัญชีม้านิติบุคคลของไทย พบเส้นทางการเงินโยงชาวอินเดีย-ร้านทองในกรุงเทพฯ” มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายเป็นชายสูงวัย ชาวอเมริกัน พักอาศัยอยู่ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับอีเมลแอบอ้างเป็นบริษัท PayPal แจ้งเรียกเก็บเงินจำนวน 451.99 เหรียญสหรัฐ หรือราว 15,000 บาท สำหรับการซื้อขายบิตคอยน์ กระทั่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายให้ไว้ และหลงเชื่อคำหลอกลวง จึงโอนเงินจากบัญชีธนาคาร BMO BankBroadway, Englewood, USA ไปยังบัญชีธนาคารนิติบุคคลในประเทศไทย จำนวน 54,350 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2 ล้านบาทเศษ

จากนั้นวันที่ 12 มิถุนายน 2567 คนร้ายยังโทรมาหลอกให้โอนเพิ่มอีก 5,000 เหรียญสหรัฐ โดยอ้างว่าหากไม่โอนจะมีปัญหาตามมา ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพิ่มเติมเข้าบัญชีเดิม รวมเป็นเงินทั้งหมด 59,350 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2,172,126.74 บาท โดยผู้เสียหายเริ่มสงสัยและตรวจสอบพบว่าหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อเป็นเบอร์จากรัฐเท็กซัส และผู้พูดมีสำเนียงคล้ายชาวเอเชียตะวันออก ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ในสหรัฐอเมริกา

ต่อมากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations) สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ประสานมายังทางการไทย โดยขอความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน เพื่อสนับสนุนการสืบสวนคดีหลอกลวงให้ลงทุน หลังจากสำนักงาน HSI Denver และตำรวจท้องถิ่น Englewood Police Department ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวน หลังทราบว่ามีผู้เสียหายชาวอเมริกันถูกกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารในประเทศไทย

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า โดยทางตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าเงินของผู้เสียหายถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย เป็นบัญชีของนิติบุคคล ย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ที่มี น.ส.วันดี อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นกรรมการฯ ก่อนถูกโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลต่างด้าว สัญชาติอินเดีย จากนั้นได้มีการถอนเงินสดนำไปซื้อทองคำที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านวังบูรพา กรุงเทพฯ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้มีการดำเนินการตามรูปแบบของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ หลอกลวงชาวต่างชาติแล้วนำเงินมาฟอกเงินในประเทศไทย โดยทำการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบบริษัท รองรับโอนเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงเหยื่อ แต่ไม่ได้มีการดำเนินกิจการจริงแต่อย่างใด

โดยทางชุดสืบสวนทำการตรวจสอบพบว่า ได้มีการเปิดบริษัทเมื่อช่วงต้นปี 2567 ซึ่งในช่วงระยะแรกไม่พบความเคลื่อนไหวทางการเงิน โดยเริ่มมีเหยื่อผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงินเข้าบัญชีม้าของบริษัทตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 26 ราย เฉลี่ยรายละ 60,000 - 150,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 60 ล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.วันดี อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าในนามหุ้นส่วนผู้จัดการนิติบุคคล และนายกูร์ดีป ซิงห์ อายุ 29 ปี สัญชาติอินเดีย ทำหน้าที่บริหารการเงิน โดยถือบัญชีธนาคารของบริษัทและคอยถอนเงินออกจากบัญชี เพื่อนำไปซื้อทองคำ 99.99% ในประเทศไทย ก่อนให้ผู้ร่วมขบวนการหิ้วทองออกจากประเทศไทยส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย เพื่อนำไปขาย

ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 14 ตุลาคม 2568 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 พ.ต.อ.เกรียงไกร พุทไธสง ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท. พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.จิรวัฒน์ บุรีงาม รองผกก.4 บก.สอท.2 พร้อมกำลังตำรวจไซเบอร์ และตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.สตม. สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 2 จุด

โดยจุดแรกตำรวจนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เข้าจับกุมนายกูร์ดีป ซิงห์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา พร้อมตรวจยึดเงินสด 2 แสนบาท สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม ส่วนจุดที่สองตำรวจเข้าจับกุม น.ส.วันดี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด

เบื้องต้นสอบสวนนายกูร์ดีป ซิงห์ ให้การว่าอ้างว่าตนเปิดทำธุรกิจค้าทองคำ โดยมีลูกค้าจากต่างประเทศโอนเงินเข้ามาซื้อทองคำ ก่อนจะถอนเงินไปซื้อทองคำส่งกลับไปให้ลูกค้าตามออร์เดอร์สั่งซื้อ ส่วน น.ส.วันดี ให้การยอมรับว่าเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2567 ได้มีผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชีม้ารูปแบบนิติบุคคล และใช้ชื่อในนามหุ้นส่วนผู้จัดการนิติบุคคล โดยได้รับค่าตอบแทน 1 หมื่นบาท

โดยตำรวจดำเนินคดีทั้งสองในความผิดฐาน "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, สมคบเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน" ซึ่งจะได้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการกลุ่มนี้ต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชาวอเมริกันโอนกว่า 2 ล้าน เข้าบัญชีม้าในไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...