ด่วน เพื่อไทยเตรียมแถลง 'ยุบสภา' ตัดหน้า ภท.จับมือ ปชน. ตั้งรัฐบาล
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (3 กันยายน 2568) พรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงข่าว 'ยุบสภา' เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ทันที ซึ่งขณะนี้กำลังรอการแจ้งเวลาที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ภายหลังผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจที่จะเลือกทางเลือกนี้
สำหรับเหตุผลของการตัดสินใจครั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้พรรคประชาชน ได้พยายามเดินเกมบีบให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้า 'ยุบสภา' เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง แม้ว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปหารือและพิจารณาข้อเสนอของทางพรรคประชาชน เพื่อขอเสียงโหวตตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ แต่มีข้อกำหนดว่าจะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน
ทั้งนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับเงื่อนไข พรรคประชาชนก็พร้อมสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย เพื่อโหวตนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกฯ คนใหม่แทน ทำให้สุดท้ายพรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจยุบสภา เพื่อตัดหน้าการจับมือของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนในการตั้งนายกฯ คนใหม่
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมประชุมสส. พรรคประจำสัปดาห์ โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคจะเสนอชื่อนาย ชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องมีการลงมติ เนื่องจากเป็นแคนดิเดตคนสุดท้ายของพรรคแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่มีการสนับสนุนบุคคลจากพรรคอื่นอย่างเด็ดขาด
โดยในช่วงท้ายของการประชุม อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามาขอบคุณและให้กำลังใจ สส.ทุกคนที่ยังอยู่กับพรรค และย้ำว่าการต่อสู้เพื่อจัดตั้งรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป โดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ได้ยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปไหนและอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
ภูมิธรรม แถลงรัฐบาล ทูลเกล้าฯ ‘ยุบสภา’ แล้วเมื่อวานนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย เกิดการบิดเบี้ยว ไม่เป็นไปตามทำนองที่ควรจะทำ โดยการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ที่ตกลงจัดตั้งรัฐบาล โดยได้ยินประกาศว่า พรรคประชาชน โหวตให้แต่ไม่รวมเป็นรัฐบาล
ด้วยเหตุนี้ก็เท่ากับว่า การเมืองก็แบ่งเป็น 3 กลุ่มเหมือนเดิม แล้วพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ภูมิใจไทยทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคประชาชนก็มีสองอย่างอยู่ในตัวเอง คือเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีสิ่งนี้มาก่อน
“บรรยากาศทางการเมืองที่เป็นอยู่ แล้วก็มีการดึงซื้อ ส.ส. หรือดึง ส.ส. ต่าง ๆ ก็สับสนอลหม่าน โดยในสถานการณ์ที่เราดูอยู่ขณะนี้ กับความเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่มีปัญหา จึงเห็นว่าสิ่งที่สำคัญวันนี้ ถ้าไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นกลับเข้ามาสู่ประเทศได้ มันก็ยิ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจมันยิ่งถูกกระทบ และถูกรุมเร้าปัญหาทั้งหมดแบบนี้”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้หารือกับทางฝ่ายกฎหมาย คิดว่าควรจะคืนอำนาจให้ประชาชนไปตัดสินใจ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ไปตัดสินใจได้ ขึ้นอยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย ส่วนตัวในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จะได้พิจารณาและก็ได้รวบรวมความคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อกราบบังคมทูลถวายสถานการณ์ต่างๆ ให้พระองค์ทราบการแก้ไขปัญหานี้
“ได้ตัดสินใจยื่นทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็ต้องรอเป็นกระบวนการตามประชาธิปไตย ตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ก็ต้องรอ และถ้าเป็นอย่างนี้เนี่ยพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยก็ต้องไปพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาได้ยื่นไปตามกระบวนการทางรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย"
'อนุทิน' ลั่นเดินหน้าโหวตนายกฯคนที่ 32 ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย 146 เสียง
วลา 11.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน รวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคกล้าธรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และนายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่มสุชาติ ออกมาแถลงข่าวขอบคุณพรรคประชาชนที่ให้การสนับสนุนให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ พร้อมยืนยันจะปฏิบัติตามข้อตกลง 5 ข้อที่ให้ไว้กับพรรคประชาชน และเดินหน้าดำเนินกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ
นายอนุทิน กล่าวขอบคุณคณะกรรมการบริหารของพรรคประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่พนักงาน และผู้สนับสนุนพรรคประชาชนทุกท่านที่ได้มีมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาชนในการให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้
พรรคภูมิใจไทยและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 146 ท่านที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ได้มอบรายชื่อให้คำมั่นกับพรรคประชาชนแล้วว่าจะให้การสนับสนุนให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะได้จัดตั้งรัฐบาลตามข้อเสนอของพรรคประชาชน ซึ่งทุกท่านได้ลงลายมือชื่อในเอกสารแสดงคำมั่นแล้ว
นายอนุทิน ยืนยันว่าพวกเราทุกคนในที่นี้จะไม่ทำให้เจตนารมณ์และความเสียสละของทุกท่านสูญเปล่า และจะรักษาข้อตกลงทั้ง 5 ข้อนี้ที่ให้ไว้กับพรรคประชาชนตลอดระยะเวลา 4 เดือนนับตั้งแต่เราจะเข้าไปทำงานในฐานะรัฐบาล และจะดำรงสภาพความเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่จะมีพี่น้องประชาชนเป็นผู้ร่วมตรวจสอบการทำงาน
นายอนุทิน ระบุว่า ในระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาล จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลังให้ประสบความสำเร็จสมกับความไว้วางใจที่ทุกท่านได้ให้โอกาส โดยจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์และความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา เรื่องของการกิจกรรมประชามติ เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ข้อจำกัดในการขยายอำนาจ
"ตามเงื่อนไขในข้อ 4 เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใดใดเพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากกว่าเสียงข้างน้อย"
นายอนุทิน กล่าวว่า จากนี้ไปจะเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
"พวกเราทุกคนจะร่วมกันทำหนังสือที่แสดงถึงความพร้อมให้ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วที่สุด ด้วยความสนับสนุนและความเข้าใจของพรรคประชาชน เรามีความมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลถัดไปนี้จะดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น และการทำงานของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นตามข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย"
นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่พวกเราทุกคนมีอยู่ในหัวจิตหัวใจก็คือความรักชาติรักแผ่นดิน และความจงรักภักดีต่อสถาบันอันที่เคารพสักการะสูงสุดของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ความรักพี่น้องประชาชน ความห่วงใยต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงทำให้พวกเราทุกคนได้ตัดสินใจที่จะมาทำงานร่วมกัน
"ขอให้ความมั่นใจว่าเราจะใช้เวลาทุกวันทุกนาทีทุกชั่วโมงในการปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลให้คุ้มค่าที่สุดและความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านได้มอบหมายให้เรามาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรของท่าน"