โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มรภ.สุรินทร์แจงดราม่า หลังนักศึกษาโผล่ไปเป็นทหารกัมพูชา

สยามนิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • ทีมข่าวสยามนิวส์
มรภ.สุรินทร์แจงดราม่า หลังนักศึกษาโผล่ไปเป็นทหารกัมพูชา

จากกรณีที่นักศึกษาชาวกัมพูชาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ตกเป็นข่าวว่าเข้าร่วมการปะทะกับทหารไทยในพื้นที่ชายแดนพร้อมกับโพสต์ข้อความยั่วยุ ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยได้ออกมาชี้แจงว่า นักศึกษาคนดังกล่าวได้ลาออกและกลับประเทศไปตั้งนานแล้ว

วันนี้ (3 ก.ย. 68) รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ได้ร่วมแถลงข่าวเพื่อทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและสาธารณชน โดยเปิดเผยว่า นักศึกษาชายคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่มีผลการเรียนดีและเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัย ได้แจ้งลาออกไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 แต่ในความเป็นจริงได้หยุดเรียนและเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้ว

อธิการบดีระบุว่า สาเหตุที่นักศึกษาคนนี้ลาออกเนื่องจากพ่อซึ่งเป็นทหารในกัมพูชา ต้องการให้เขาไปสมัครเป็นทหารเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ทำให้เขาตัดสินใจสมัครเข้าเป็นทหารและกลับประเทศไปในที่สุด

ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการส่งตัวนักศึกษาชาวกัมพูชาที่เหลืออีก 32 คน รวมถึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานและวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุรินทร์อีก 5 คน รวมทั้งหมด 36 คน เดินทางกลับประเทศกัมพูชาไปตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในประเทศ และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูล โดยยืนยันว่ามหาวิทยาลัยดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใสและเป็นไปตามหลักกฎหมายมาโดยตลอด

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Surindra Rajabhat University

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...