โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

OR ไลฟ์สไตล์แกร่ง กาแฟพุ่ง 3 ล้านแก้ว

หุ้นวิชั่น

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้น

หุ้นวิชั่น - บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กลุ่มธุรกิจ Lifestyleเติบโตขึ้น 7.3%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายได้ธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะร้าน Cafe Amazonยอดขายเพิ่มขึ้น 3 ล้านแก้ว หนุนไตรมาส 2/2568 มีปริมาณจำหน่ายรวม 107 ล้านแก้ว

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2568 กลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีรายได้ขายและบริการ ที่ 6,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431 ล้านบาท (+7.3%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท (+8.9%) จากปริมาณจำหน่ายสินค้าทั้งกลุ่ม Beverage และ Non-Beverage ที่ปรับเพิ่มขึ้น ตามการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับรายได้ธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 79 ล้านบาท (+4.1%) โดยหลักมาจากการขยายเครือข่ายสาขาของร้านสะดวกซื้อ

EBITDA เพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท (+12.5%) โดยหลักมาจากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 391 ล้านบาท (+35.1%) จากกำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการยุติธุรกิจที่ผลประกอบการไม่เป็นไปตามแผน รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายดำเนินงานปรับลดลงเช่นกันโดยหลักจากค่าจ้างบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม EBITDA ของธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ ลดลง 190 ล้านบาท (-38.0%) จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับร้านสะดวกซื้อที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยรวมแล้วทำให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 ที่ 27.3% เป็น 28.7% ในไตรมาส 2/2568

ในไตรมาส 2/2568 มีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม 4,667 สาขา แบ่งเป็นร้าน Cafe Amazon ในประเทศไทย 4,511 สาขา จำแนกเป็นสาขาในสถานีบริการ 2,353 สาขา และนอกสถานีบริการ 2,158 สาขา คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 52.2% และ47.8% ตามลำดับ รวมทั้งมี Cafe Amazon ในต่างประเทศ จำนวน 36 สาขา สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นมีเครือข่าย 120 สาขา ได้แก่ เพิร์ลลี่ทีและ Pacamara Coffee Roasters สำหรับธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Elevenและภายใต้แบรนด์ จิฟฟี่ ในประเทศไทย 2,339 สาขา และร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ found & found10 สาขา

ร้าน Cafe Amazon ภายใต้ธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มในไตรมาส 2/2568 มีปริมาณจำหน่ายรวม 107 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 3 ล้านแก้ว (+2.9%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 จากปัจจัยฤดูกาล และเพิ่มขึ้น 5 ล้านแก้ว (+4.9%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น

มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568

ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดขยายตัวที่ 2.3% ในปี 2568 ซึ่งปรับสูงขึ้นจากเดิมที่ 2.0% เนื่องจากเศรษฐกิจ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีตามการเร่งส่งออกสินค้า 2) การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกข้างต้นส่งผลบวกไปยังภาคการผลิตและภาคบริการที่เกี่ยวข้อง 3) การลงทุนภาครัฐขยายตัวสูง ตามการเบิกจ่ายภาครัฐที่กลับมาเป็นปกติ และ 4) รายรับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัว โดยมาจาก นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทายจาก 1) นโยบายภาษีของสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะจีน 2) ทิศทางของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ 3) การไหลเข้าของสินค้าจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย ด้านภาษีที่ย้ายตลาดเข้าสู่ไทยมากขึ้น 4) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่าง ๆ 5) การย้ายฐานการลงทุนและการผลิตในอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายด้านภาษี 6) ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ และ 7) ปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้ง ภูมิรัฐศาสตร์โลก โดย IMF คาดการณ์การเติบโตในปี 2568 อยู่ที่ 3.0% จากประมาณการล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยมีปัจจัยจากการเร่งนำเข้าสินค้าเกินกว่าที่คาดการณ์เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษีนำเข้าที่อาจสูงขึ้นจากการนโยบายมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ รวมถึง อัตราภาษีจากนโยบาย ฯ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเมษายน 2568 รวมถึงสภาวะทางการเงินปรับตัวดีขึ้น อันเป็นผลจากการอ่อนค่าของ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวในบางประเทศเศรษฐกิจหลัก เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา คาดการณ์การเติบโตอยู่ที่ 1.9% โดยสาเหตุหลักมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่มาตรการภาษีนำเข้าของ ปธน.ทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.6 เพิ่มจาก 2.4 ในไตรมาสก่อน โดยรวมเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในช่วงต่อไป เศรษฐกิจจีน คาดการณ์จะขยายตัวอยู่ที่ 4.8% โดยยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางจีน และนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ทางรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีน ยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายประการ อาทิ ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเปราะบาง และสงคราม การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ ฯในอัตราที่สูงส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศชะงัก และก่อให้เกิดแรงกดดันเชิงลบต่อภาคเศรษฐกิจของจีน

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (The International Energy Agency : IEA) เดือนกรกฎาคม 2568 คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 2568 อยู่ที่ 103.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ระดับ 0.70 ล้านบาร์เรล ต่อวัน ด้านปริมาณอุปทานน้ำมันดิบคาดว่ามีการเติบโตมากขึ้นถึง 2.61 MMBD จากปีก่อนหน้า โดยหลักมาจากกลุ่ม non-OPEC ที่คาดว่า จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น 1.42 MMBD จากสหรัฐฯ และบราซิล ขณะที่การทยอยผ่อนปรนการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC คาดว่าจะส่งผลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 1.19 MMBD

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วง 3Q/68 มีแนวโน้มเพิ่มมากกว่า 2Q/68 เล็กน้อย เนื่องจากการผ่อนคลายความกังวลจากสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยสหรัฐฯ ได้มีการชะลอระยะเวลาในการเพิ่มภาษีเป็นระยะเวลา 90 วัน จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 รวมทั้งการเข้าสู่ฤดูร้อนในประเทศตะวันตกทำให้มีการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากช่วงฤดูเฮอริเคน ซึ่งคาดการณ์การว่า จะมีความรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันอาจได้รับปัจจัยกดดัน จากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ที่ 0.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับเพิ่มจากการประกาศในช่วงไตรมาสก่อนหน้า 0.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ความไม่แน่นอนในการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 2568 อยู่ที่ 66-80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ของน้ำมันสำเร็จรูปในช่วงปี 3Q/68 ปัจจัยพื้นฐาน น้ำมันเบนซิน คาดว่าความต้องการน้ำมันเบนซินในเอเชียคาดว่า จะเติบโต โดยหลักได้รับปัจจัยสนับสนุนของการเติบโตจากอินเดีย ซึ่งยอดขายรถยนต์ที่เติบโตต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งการเติบโตดังกล่าวคิดเป็น 70% ของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงความต้องการเบนซินในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามอุปสงค์จีนคาดว่าจะปรับตัวลดลงจากยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการค้า และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ น้ำมันดีเซล การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดีเซลในเอเชียจะเติบโตในไตรมาส 3โดยคาดว่าโดยหลักมาจาก อินเดีย จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางรวมทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาลด้านโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ความต้องการ ในเวียดนามและไทย จากภาคการผลิตที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและการฟื้นตัวของการเดินทางและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดีเซล สำรองที่ยุโรปลดต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ทำให้อาจมีการนำเข้าจากเอเชียเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันดีเซลยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากจีนที่มี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้านพลังงาน การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมยังคงอ่อนตัวลง

น้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าด ความต้องการในเอเชียคาดว่าจะเติบโต จากอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม มาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศตะวันตกสนับสนุนการเดินทาง ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามอุปทานอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการส่งออกจากจีน รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการค้าและความขัดแย้ง ในตะวันออกกลางยังคงกดดันต่อการเดินทางระหว่างประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก หุ้นวิชั่น

TRUE มาแล้ว! เงินปันผลที่เฝ้ารอ

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

[Vision Exclusive] AMA ธุรกิจติดเทอร์โบ ขนส่งทางบกเริ่มมาแรง

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

TRUE มาแล้ว! เงินปันผลที่เฝ้ารอ

หุ้นวิชั่น

[Vision Exclusive] AMA ธุรกิจติดเทอร์โบ ขนส่งทางบกเริ่มมาแรง

หุ้นวิชั่น

CPAXT กำไร Q2 โตแตะ 2.28 พันลบ. แจกปันผล 0.18 บ.

หุ้นวิชั่น
ดูเพิ่ม
Loading...