GPT-5 เปิดตัวแล้วสำหรับผู้ใช้งาน ChatGPT ทุกคน ชูจุดขายเป็นโมเดลที่เขียนโค้ดและคอนเทนต์ดีที่สุด

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

โอเพนเอไอเปิดตัว GPT-5 โมเดลระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดให้กับผู้ใช้งาน ChatGPT พร้อมกับบอกว่านี่คือโมเดลที่ดีที่สุดในโลกทั้งในแง่ของการเขียนโค้ดและการเขียนคอนเทนต์

หลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน ในที่สุด GPT-5 โมเดลที่ดีที่สุดตามคำนิยามของโอเพนเอไอก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แซม อัลท์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอ กล่าวว่า GPT-5 นับเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากโมเดลก่อนๆ

อัลท์แมนกล่าวโดยเปรียบเทียบประสบการณ์ใช้งาน GPT-5 กับ iPhone รุ่นแรกที่มีจอภาพแบบ Retina

"เมื่อได้ลองแล้วก็ไม่อยากกลับไปใช้อย่างเก่าอีกเลย"

โอเพนเอไอบอกว่า GPT-5 นั้นฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และมีโอกาสให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนน้อยลง

"GPT-3 ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับนักเรียนมัธยมปลาย คุณอาจจะถามคำถามไป แล้วอาจจะได้คำตอบที่ถูก หรืออาจจะได้อะไรที่หลุดโลกไปเลย ส่วน GPT-4 ให้ความรู้สึกเหมือนกับคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่ GPT-5 เป็นครั้งแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอกอย่างแท้จริง"

ปัจจุบัน ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบ 700 ล้านคนต่อสัปดาห์ แต่ในช่วงที่ผ่านมา โอเพนเอไอยังไม่มีโมเดลระดับแนวหน้าที่เป็นผู้นำตลาดอย่างชัดเจน แต่การมาของ GPT-5 ทำให้โอเพนเอไอเชื่อว่าพวกเขาจะกลับขึ้นมาอยู่ตำแหน่งสูงสุดในอุตสาหกรรมเอไอได้อีกครั้ง

อัลท์แมนกล่าวว่า GPT-5 เป็นโมเดลที่ดีที่สุดในด้านการเขียนโค้ด เป็นโมเดลที่ดีที่สุดในด้านการดูแลสุขภาพ การเขียนคอนเทนต์ และอีกหลายๆ ด้านที่ไม่ได้กล่าวไว้

ความน่าสนใจของ GPT-5 คือ จะแสดงผลเป็นโมเดลเดียวไม่ได้แยกเป็นโมเดลปกติและโมเดลสำหรับการใช้เหตุผล (reasoning model) เหมือนที่ผ่านมา เบื้องหลังระบบโอเพนเอไอได้ใช้ router ในการสลับเวอร์ชันการใช้งานว่าเมื่อเจอคำสั่งนี้ต้องใช้แบบไหนโดยอัตโนมัติ

สำหรับ GPT-5 เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ทุกคน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ฟรีไม่ได้เสียเงิน โอเพนเอไอได้จำกัดโควตาการใช้งานแต่ไม่ได้ระบุจำนวนไว้ชัดเจน เมื่อใช้จนครบโควตาแล้ว ระบบจะสลับไปใช้โมเดล mini ที่มีความสามารถน้อยกว่าโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ โอเพนเอไอยังเพิ่มธีมบุคลิกภาพ 4 แบบเข้าไปใน ChatGPT เพื่อปรับแต่งลักษณะการตอบสนอง ได้แก่ "Cynic" (ชอบเสียดสี), "Robot" (หุ่นยนต์), "Listener" (ผู้ฟังที่ดี) และ "Nerd" (เด็กเนิร์ด) ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนสีของแต่ละหน้าต่างแชทได้อีกด้วย

ในด้านความปลอดภัยของโมเดล โอเพนเอไอได้ทดสอบ GPT-5 เป็นเวลากว่า 5,000 ชั่วโมง เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และทำให้แน่ใจได้ว่าโมเดลจะไม่โกหกผู้ใช้งาน หรือที่เรียกว่าอาการหลอน (Hallucinations) หรือการให้ข้อมูลผิดพลาดน้อยกว่าโมเดล o3 reasoning ของโอเพนเอไอ แต่การโกหกอย่างมั่นใจยังคงเป็นปัญหาโดยธรรมชาติของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ในเวลานี้

พร้อมกันนี้ GPT-5 มีความพยายามที่จะให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใต้ข้อจำกัดของการรักษาความปลอดภัย โดยโมเดลจะให้ข้อมูลบางส่วน และเป็นข้อมูลในระดับภาพรวมที่ไม่สามารถนำไปใช้ก่อความเสียหายได้จริง

โอเพนเอไอระบุว่า GPT-5 ยังสามารถยอมรับได้ดีขึ้นเมื่อไม่สามารถทำงานหรือตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโอเพนเอไอหวังว่าจะช่วยให้ผู้คนเชื่อถือมันมากขึ้น ทั้งนี้ โอเพนเอไอไม่ได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน GPT-5

ขั้นต่อไปของโอเพนเอไอในการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Artificial General Intelligence หรือ AGI โดยอัลท์แมนกล่าวว่าโอเพนเอไอเข้าใกล้เป้าหมายนั้นมากขึ้นแล้ว แม้ว่าในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์กำลังเริ่มให้ความสนใจในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า superintelligence ซึ่งมีเมตา (Meta) ของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นตัวชูโรงก็ตาม

ที่มา: OpenAI

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : GPT-5 เปิดตัวแล้วสำหรับผู้ใช้งาน ChatGPT ทุกคน ชูจุดขายเป็นโมเดลที่เขียนโค้ดและคอนเทนต์ดีที่สุด