ทองลงเยอะ! ผันผวนมาก
เขย่าขวัญนักลงทุนอยู่ไม่น้อย สำหรับราคาทองที่ร่วงลงแรง เพราะนับตั้งแต่วันอังคารที่ 24 มิถุนายน ถึงวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 ราคาทองปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากวันอังคารที่ 24 มิถุนายน ร่วงหนักสุด 1,150 บาทต่อบาททองคำและยังคงร่วงลงอีกบาทละ 100 บาท, 500 บาท และ 200 บาท ในวันพฤหัส วันศุกร์และวันเสาร์
ล่าสุด เปิดตลาดเช้าวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน ราคาทองปรับตัวลงแรงพรวดเดียว 200 บาทต่อบาททองคำ แตะระดับต่ำสุดใหม่เดือนมิถุนายนบริเวณ 50,600 บาท หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน ราคาทองปรับขึ้นลง 15 ครั้ง ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ
ทั้งนี้ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 50,500 บาท ขายออกบาทละ 50,600 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 49,497 บาท 40 สตางค์ ขายออกบาทละ 51,400 บาท
ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์สหรัฐปิดตลาดร่วงลงหนัก 60.40 ดอลลาร์ สู่บริเวณ 3,287.60 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถาม นายกสมาคมค้าทองคำ "นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" ถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำ ปรับตัวลงแรง โดย "นายจิตติ" กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาทองลงมาเยอะ เป็นเพราะสถานการณ์ความตึงเครียด ในตะวันออกกลางคลี่คลายลง หลังจากอิสราเอลและอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ส่งสัญญานในเชิงบวก
"นายจิตติ" กล่าวอีกว่า แม้อิสราเอลและอิหร่านได้ตกลงที่จะหยุดยิง แต่เชื่อว่า สงครามมีโอกาส ที่จะปะทุขึ้นมาอีก ดังนั้นการลงทุนทองคำในระยะสั้น จะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ การที่เงินบาทแข็งค่า ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาทองถูกลงด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ "นายกสมาคมค้าทองคำ" ยังได้กล่าวถึงนักลงทุนด้วยว่า ช่วงนี้การลงทุนทองคำ จะต้องใช้ความระมัดระวัง โดยมองว่าราคามีโอกาสที่จะปรับลงอีก แต่ในระยะกลาง และระยะยาวเชื่อว่าจะปรับขึ้นมาได้อีก โดยยังคงเป้าหมายราคาทองคำโลกในปีนี้ที่ 3,800 ดอลลาร์/ออนซ์
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ ที่สำคัญของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของ "นายเจอโรม พาวเวล" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด
ความคืบหน้าสงครามการค้า และการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เพราะทุกการขยับ ย่อมส่งผลต่อราคาทองที่เชื่อมโยงกับความมั่งคั่งของนักลงทุนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews