สภาเกษตรกรแม่กลอง เปิดเวทีถกปัญหาเครือข่ายเกษตรกร 3 อำเภอ ผลักดันนโยบายแก้ปัญหาศัตรูพืช-ราคาสินค้าตกต่ำ-วิกฤตน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสมุทรสามัคคี นายสมฤทธิ์ วงษ์สวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เครือข่ายสภาเกษตรกรระดับอำเภอ โดยว่าที่ ร.ต.หญิง เบญจมาศ อนันตพันธุ์ หัวหน้าส่วนยุทธศาสตร์การเกษตร สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดสัมมนาครั้งนี้สรุปว่า สภาเกษตรกรจังหวัดฯ มีอำนาจหน้าที่เสนอนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรมรวมทั้งราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่เป็นธรรมต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประสานนโยบาย การดำเนินงานระหว่างองค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ประกอบกับสภาเกษตรกรแห่งชาติเห็นถึงความสำคัญถึงกลไกของสภาเกษตรกรในทุกระดับโดยเฉพาะระดับพื้นที่ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้สภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามได้เห็นถึงความสำคัญในการยกระดับศักยภาพของเครือข่ายสภาเกษตรกรระดับอำเภอให้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นแกนหลักในการประสานงานร่วมกับสภาเกษตรกรจังหวัดและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนสํานักงานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามจึงร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบทบาทภารกิจของเครือข่าย โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ ชี้แจง และตอบข้อซักถาม

จากนั้นเครือข่ายคณะผู้ปฏิบัติงานระดับอำเภอได้นำเสนอปัญหาแต่ละด้าน เช่น ด้านน้ำ ด้านศัตรูพืชมะพร้าว และส้มโอ ด้านราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ด้านประมง และหนี้สิน สรุปประเด็นปัญหาได้แก่ด้านแหล่งน้ำ เช่น แหล่งน้ำตื้นเขิน น้ำเค็ม วัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำ น้ำเสีย และมลภาวะจากล้งมะพร้าว โรงหลอมน้ำตาล และการบริหารจัดการน้ำ ส่วนแนวทางแก้ไข คือ ขุดลอกลำประโดงสาธารณะ คลอง แม่น้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำจืด ส่วนข้อเสนอเชิงนโยบาย คือ ขอให้จัดการตะกอนเลน รวมทั้งระบบป้องกันน้ำเค็มที่เหมาะกับพื้นที่ และการแก้ปัญหาอื่นๆผ่านโครงการต่างๆ เช่น การผลิตปุ๋ยจากผักตบชวา การสนับสนุนงบประมาณเพื่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียให้กับร้านอาหารและล้งมะพร้าว การถ่ายเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยที่แปรรูปมะพร้าวในพื้นที่เป็นต้น

ส่วนปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เช่น เกลือ มะพร้าวอ่อนหรือมะพร้าวน้ำหอม ปลาสลิด กุ้งขาว (ประเภทเพาะเลี้ยงหรือธรรมชาติ) มะนาว อีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตสูง เช่น ค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลงราคาแพง ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงปูทะเล/ปลา - ค่าอาหาร/ค่าลูกพันธุ์ ค่าไฟสูง รวมทั้งปัญหาแมลงศัตรูมะพร้าว เช่น แมลงดำหนามและหนอนหัวดำ นอกจากนี้ยังมีกระรอก ที่สร้างความเสียหายด้วยการกัดแทะเปลือกมะพร้าวเพื่อกินเนื้อด้านในทำให้ลูกมะพร้าวเน่าเสียไม่สามารถนำไปขายหรือใช้ได้ จึงขอให้สำนักงานเกษตรจังหวัดนำโครงการรับซื้อหางกระรอกมาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ส่วนราคาสินค้าเกษตรตกต่ำขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดช่วยดูแล กับขอให้มีการจัดงานเทศกาลมะพร้าวน้ำหอมเพื่อช่วยชาวสวนระบายผลผลิต ส่วนเกลือขอให้มีการประกันราคาไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 1,300 บาท

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนสภาเกษตรกรฯ กล่าว ถึงการแก้ปัญหาหนอนหัวดำว่า จากการลงพื้นที่วิจัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าการใช้โดรนพ่นสารกำจัดนั้น พื้นที่ทดลองใน จ.สมุทรสงครามได้ผลดี ดังนั้นโดรนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้กำจัดหนอนหัวดำได้อย่างตรงจุดและการพ่นน้ำยาไม่ฟุ้งกระจาย นอกจากนี้เกษตรกรยังไม่ต้องสัมผัสกับสารเคมีแบบเดิม จึงลดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสัมผัส อีกทั้งยังทำให้ลดปริมาณการใช้สารเคมีที่เกินความจำเป็น ลดต้นทุน ลดค่าแรง ลดเวลา จึงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ซึ่งต่อไปจะเปิดให้บริการโดรนแก่เกษตรกรทั้งในเรื่องการพ่นสารกำจัดแมลงและปุ๋ยในราคาต้นทุน โดยเกษตรกรที่สนใจติดต่อได้ที่สำนักงานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงคราม ซอยชุมสายโทรศัพท์ เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 034-711293 ในวันและเวลาราชการ