จับตา 8 หุ้นตีปีก! รับมาตรการ “เครดิตภาษี” ใหม่ คิดขั้นต่ำ 15%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้กำหนดกลไกจัดเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% (Global Minimum Tax) จากบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ของทั้งเครือตั้งแต่ 750 ล้านยูโรต่อปีขึ้นไป (ประมาณ 28,000 ล้านบาท) ซึ่งเดิมอาจได้รับสิทธิพิเศษจากประเทศต่าง ๆ ทำให้อัตราภาษีที่แท้จริง (Effective Tax Rate) ต่ำกว่า 15%

ทั้งนี้ OECD กำหนดให้ประเทศที่รองรับการลงทุนหรือประเทศที่บริษัทแม่ตั้งอยู่ สามารถจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่ม เพื่อให้ครบตามเกณฑ์ภาษีขั้นต่ำได้ 15% ทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องทยอยออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีส่วนเพิ่มกับบริษัทข้ามชาติที่มีสาขาอยู่ในประเทศของตน รวมถึงประเทศไทย โดยกระทรวงการคลังได้ออก พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 โดยปัจจุบันมีบริษัทข้ามชาติที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและเข้าข่ายตามกฎหมายดังกล่าวประมาณ 1,500 ราย รวมทั้งบริษัทใหญ่ของไทยประมาณ 100 ราย ขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ เริ่มทยอยออกมาตรการบรรเทาผลกระทบของ Global Minimum Tax ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

ล่าสุด นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้แจ้งเกี่ยวกับ BOI อนุมัติแก้ไขกฎหมาย เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ในรูปแบบ "เครดิตภาษี” (Qualified Refundable Tax Credit: QRTC) เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในการดึงดูดนักลงทุนภายใต้เงื่อนไขภาษีขั้นต่ำขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา OECD (Global Minimum Tax)

โดยเครดิตภาษี (QRTC) เป็นการให้เครดิตจากเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายที่มีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพของประเทศ เช่น วิจัยและพัฒนา (R&D), การสร้างนวัตกรรม, การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง และการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และความยั่งยืน โดยสามารถขอคืนเป็นเงินสดได้ภายใน 4 ปี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งเครดิตภาษีจะช่วยลดผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่ม และเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ

ทางบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ประเด็นความเคลื่อนไหวล่าสุดดังกล่าว มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นไทยที่เคยได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจาก Global Minimum Tax อาทิบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือDELTA, บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือGULF, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBGRIM

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือCK, บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือAMATA, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือWHA, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือTU และบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือITC