แฉหลักฐานเด็ด เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เคยถูกร้องเรียนเสพ สีกากอล์ฟ-โกงเงินวัดตั้งแต่ปี 59 แต่ก็ยังรอดมาจนปัจจุบันได้

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโทรศัพท์มือถือของ สีกากอล์ฟ มาตรวจสอบข้อมูลรูปภาพและคลิปวิดีโอต่างๆในโทรศัพท์มือถือ จนพบหลักฐานการกระทำผิดวินัยสงฆ์จนถึงขั้นปาราชิกของพระขั้นผู้ใหญ่จำนวนหลายรูป ซึ่งมีทั้งที่ยอมลาสิกขา หรือ สึกขาดจากความเป็นพระไปแล้ว และ ที่ยังไม่ยอมสึก ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้ตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญที่เชื่อว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่ทำให้ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง หนึ่งในพระที่มีข่าวว่าพัวพันกับสีกากอล์ฟ ยอมสึกอีกรายได้

โดยหลักฐานดังกล่าวเป็นภาพข้อมูลแชตสนทนาผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ที่ ทั้งสองส่งข้อความถึงกันในลักษณะบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของทั้งคู่ อีกทั้งภายในแชตสนทนาดังกล่าวยังมีการส่งข้อความบอกคิดถึง และ ข้อความกำชับกันภาพหลุด รวมไปถึงรูปภาพที่เผยให้เห็นพระเทพวัชรสิทธิเมธี แต่งกายสวมใส่เสื้อยืด คล้ายคนทั่วไป ไม่ใช่จีวรพระ ตามที่ควรจะเป็น รวมถึงคลิปภาพที่ถูกบันทึกไว้ขณะวิดีโอคอลคุยกัน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ยังพบว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2559 พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวงนั้น เคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หลายประการ เช่น ใช้เงินซื้อขายตำแหน่ง ไม่ทำวัตรสวดมนต์ ไม่บิณฑบาต ใช้ของหรูหราฟุ่มเพื่อย เสพเมถุนกับสีกา และฉ้อโกงทรัพย์สินของวัด เป็นต้น

โดยแนบรายละเอียดว่า ขอให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของ นายวิรัตน์ ที่คนทั่วไปเรียกว่า จจ. หรือ มหารัตน์คนนี้ ไม่ใช่พระครับ เพราะขาดจากความเป็นพระปาราชิก ทั้งเสพสีกา และฉ้อโกงทรัพย์สินของวัด ของกลางสงฆ์หลายสิบล้านบาท โดยมีพฤติกรรมหลากหลาย เวลาจะเอาเงิน จะไปใช้ให้ผู้หญิง ก็มักอ้างว่าจะทำโครงการนั้นโครงการนี้

เท่าที่รู้มาเงินเหล่านี้ นำไปให้ผู้หญิงคนหนึ่ง มีบ้านอยู่แถวบ้านท่าพิกุล เพราะผู้หญิงคนมีมักจะอ้างว่าเป็นเมียเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร จากที่ไม่มีอะไรเลย แต่ปัจจุบันนี้ มีรถหรูคันละหลายล้านขับ ใช้ของราคาแพง มีบ้านหรูหลายหลัง ทั้งที่ไม่ทำงานอะไรเลย มักจะพูดว่าผัวให้มา อยากได้เมื่อไรก็ขอได้เมื่อนั้น

สร้างโบสถ์ก็ไม่เสร็จ ทั้งที่หลอกเอาเงินชาวบ้านไปหลายสิบล้าน เคยจะทำอุทยานที่อำเภอวชิรบารมีก็หลอกเอาเงินพระและชาวบ้านไปหลายล้านบาท เงินเหล่านี้หายไปไหน เงินกองทุน 53 หลายสิบล้านบาท เงินเหล่านี้หายไปไหน หลอกคนไม่มียางอาย เป็นอลัชชี ชอบเข้าหาพระผู้ใหญ่ประจบสอพลอ มักจะพูดเสมอว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ทั้งตำแหน่งและยศ มีเงินก็ไม่มีความผิด ผู้ใหญ่มองไม่เห็นแล้ว

มักจะมีผู้หญิงเข้าออกกุฏิดึกๆ พระเถรเห็นกันทั่ว ไม่กลัวบาปกรรม การกระทำของคนที่ สร้างความเดือดร้อนให้แก่พระเณรและญาติโยม ทุกคนเอือมระอาเต็มที่แล้ว หากท่าน สงสัยก็มาสอบถามพระเณรในจังหวัดพิจิตรดูได้ ทั้งเจ้าคณะอำเภอ ตำบล เจ้าอาวาส หลาย วัดโดนคนคนนี้บังคับเอาเงินไป

ขอให้ท่านช่วยกำจัดอลัชชีคนนี้ให้พ้นไปจากศาสนาของเรา ถือว่าทำบุญ ศาสนาของเราจะ ได้เจริญต่อไป คนคนนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งสิ้น แต่เวลาพูดกับคนทั่วไปเหมือนจะ ส่วนรวม แต่ที่แท้แล้วแฝงด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น โดยเฉพาะเงิน ทุกอย่างเพื่อเงิน ตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งสิ้น