รัฐบาล ยัน ให้ความสำคัญสูงสุด ปกป้องอธิปไตย
รัฐบาล ยัน ให้ความสำคัญสูงสุด ปกป้องอธิปไตย ดูแลความมั่นคง เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวสรุปการดำเนินงานของรัฐบาลและคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ครอบคลุมทุกมิติ รอบคอบ และเป็นไปตามกฎกติกาสากล โดยมีประเด็นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 ประเด็น ดังนี้
ประการแรก เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเคลื่อนไหวเชิงรุกในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงชี้แจงต่อองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยวางกำลังรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน พร้อมควบคุมจุดผ่านแดนให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ประการที่สอง การดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน กระทรวงมหาดไทย ได้เสริมกำลังดูแลพื้นที่ส่วนหลัง จัดตั้งศูนย์พักพิงดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ขณะที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบเส้นทาง ยุทธวิธี และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอน และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับนักเรียนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบส่วนกระทรวง ขณะเดียวกันกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดหาอุปกรณ์จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และ ผู้ป่วยติดเตียง
ประการที่สาม การเยียวยาเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ได้รับผลกระทบ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เร่งจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ขณะที่ กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติเงินทดรองราชการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติรวมกว่า 145 ล้านบาท
ประการที่สี่ มาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดช่องทางการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่
สำหรับประเด็นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ รัฐบาลกำลังดำเนินคดีตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อผู้ที่กระทำผิด พร้อมกับเร่งเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมถึงตรวจสอบการใช้โดรนที่ผิดปกติ และกำหนดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกัน ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ มีรายงานสถานการณ์ล่าสุดจากกระทรวงมหาดไทยว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 7 จังหวัด 45 อำเภอ 336 ตำบล 4,081 หมู่บ้าน รวม 262,551 ครัวเรือน ประมาณ 779,000 คน โดยบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 705 หลัง ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 331 หลัง หรือคิดเป็น 46.95%
ด้านงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือฉุกเฉิน รัฐบาลได้อนุมัติใช้จ่ายเงินทดรองราชการ ไว้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมกว่า 201 ล้านบาท ครอบคลุมค่าอาหาร ค่าที่พักพิง ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ค่ารักษาพยาบาล และการจัดการศพ โดยจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบมากที่สุด ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์
ส่วนการเยียวยาผู้ประสบภัย มีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาแล้ว รวม 17,675,559 บาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนสิ่งของบรรเทาทุกข์ กว่า 2 ล้านหน่วย ทั้งอาหารกล่อง น้ำดื่ม ถุงยังชีพ และเครื่องนุ่งห่ม พร้อมส่ง เครื่องจักรกลสาธารณภัย เช่น รถกู้ภัย รถผลิตน้ำดื่ม และรถประกอบอาหาร ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
โดยนางสาวศศิกานต์ ได้ย้ำว่า การทำงานของ ศบ.ทก. เป็นการบริหารงานสถานการณ์ที่เร่งด่วน แต่ภารกิจเพื่อดูแลประชาชน ในทุกๆสถานการณ์ รวมถึงสถานการณ์ครั้งนี้ เป็นความรับผิดชอบหลัก ของแต่ละกระทรวง ซึ่งรัฐบาลได้จัดให้มีการดำเนินการในทันที โดยประเด็นต่างๆ ของแต่ละกระทรวง ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไทยกัมพูชา จะถูกนำมาหารือในที่ประชุมศบ.ทก. เพื่อบูรณาการการทำงานในภาพรวมต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews