เหยียบระเบิดเอง? ทัพภาคที่2 แจง หลังชาวบ้านสุรินทร์แตกตื่นเสียงบึ้มดังสนั่น
เมื่อช่วง 20.50 น.วันที่ 20 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลได้มีการโพสต์และแชร์ต่อๆกันว่า ทหารกัมพูชายิงกระสุนปืนใหญ่มาฝั่งไทยบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 1 ลูก ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่ได้นอนหลับ ต่างตื่นตระหนก พยายามเช็กข่าวจากผู้นำชุมชน ซึ่งยังไม่ได้รับคำสั่งให้มีการอพยพ ทำให้ต่างเฝ้ารอสถานการณ์อย่างนอนไม่หลับ ขณะที่บางครอบครัว ปลุกพ่อแม่ผู้สูงอายุ และเด็กๆให้เดินทางออกนอกพื้นที่ล่วงหน้าไปก่อน แต่ก็เป็นส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่ยังคงรอผู้นำชุมชนและส่วนราชการในพื้นที่แจ้งให้ทราบอีกครั้ง
จากนั้นไม่นานเพจเฟซบุ๊กของ "กองทัพภาคที่ 2" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ”ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์ว่า กองกำลังฝ่ายกัมพูชาได้ทำการยิงปืนใหญ่ใส่ฐานบริเวณปราสาทตาควายนั้น กองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยในพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าข่าวดังกล่าว ไม่เป็นความจริง โดยเสียงระเบิดที่ประชาชนได้ยินนั้น สันนิษฐานว่าเกิดจากกรณีทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิด ซึ่งเป็นกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาได้ลักลอบวางไว้เอง บริเวณด้านหลังปราสาทตาควาย
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อกระแสข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อป้องกันการสับสนและความเข้าใจผิด”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความผิดปกติดังกล่าว ชาวบ้านก็ยังไม่ค่อยมั่นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางรายก็คาดการณ์ว่าทหารกัมพูชาอาจทำให้เกิดระเบิด เพื่อยั่วยุให้ทหารไทยเข้าใจผิดและเปิดฉากยิงตอบโต้กัมพูชาก่อน ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐาน ว่าไทยยิงเข้าไปหรือเปิดฉากยิงก่อน ก็เป็นไปได้ ประจวบเหมาะกับตามที่ชาวบ้านต่างคาดการณ์และไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ไว้ล่วงหน้ากันแล้วว่า หลังจากทูตต่างๆหรือผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ที่ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ด้าน อ.พนมงดรัก
โดยเฉพาะในวันนี้ กลับไปก็มีโอกาสสูง ที่กัมพูชาจะเปิดฉากยิงไทยก่อน เพราะมีการทำผิดข้อตกลงการหยุดยิงด้วยการเสริมกำลังและยุทโธปกรณ์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้อชิดในคืนนี้