5 ข้อดีของการสอนลูกทำอาหาร ที่ได้มากกว่าทักษะงานครัว
ในยุคที่หน้าจอมือถือและแท็บเล็ตดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ได้ตลอดทั้งวัน การหากิจกรรมที่ทั้งสนุก เพลิดเพลิน และช่วยพัฒนาทักษะรอบด้านให้ลูกจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญมากขึ้น โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสนุกที่ได้ลงมือทำ และเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ก็คือการให้ลูกเรียนรู้วิธีทำอาหาร ซึ่งบางครอบครัวอาจมองว่าเป็นเรื่องสำหรับผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้ว หากเปิดโอกาสให้ลูกได้เข้าครัวและลงมือทำอาหารเองตั้งแต่เด็ก การ สอนลูกทำอาหาร ไม่เพียงแต่เป็นการฝึกทักษะในห้องครัว แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ที่กระตุ้นทั้งสมอง ความคิดสร้างสรรค์ และความรับผิดชอบในเวลาเดียวกัน เด็กๆ จะได้เรียนรู้ผ่านการชั่ง ตวง วัด การทำตามขั้นตอน และการสังเกตผลลัพธ์จากสิ่งที่ตัวเองลงมือทำ ที่สำคัญคือ ยังช่วยลดเวลาอยู่หน้าจอ และเปลี่ยนเป็นเวลาคุณภาพร่วมกันในครอบครัวนอกจากนี้ การ สอนลูกทำอาหาร ยังมีผลดีต่อความสัมพันธ์และพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่พ่อแม่อาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสมาธิ การทำงานเป็นทีม การเรียนรู้โภชนาการ ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในตัวเองถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าปล่อยให้ลูกเข้าครัวดีไหม ลองมาดู 5 ข้อดีของการสอนลูกทำอาหาร แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้งนะคะ1. พัฒนาสมองซีกซ้าย
การทำอาหารเสมือนการทดลองวิทยาศาสตร์ขนาดย่อม ที่ทั้งสนุกและได้ความรู้ ลูกจะได้เรียนรู้การชั่ง ตวง และรู้จักการเปรียบเทียบอัตราส่วนผ่านการตวงวัตถุดิบ เช่น เข้าใจว่าอัตราส่วนของข้าวกับน้ำเป็น 1:2 หมายถึงอะไร ได้ฝึกทักษะด้านภาษาผ่านการอ่านและทำความเข้าใจสูตรอาหาร และยังกระตุ้นให้ลูกรู้จักสังเกต ตั้งคำถามจากสิ่งรอบตัวมากขึ้น เช่น ทำไมจากผงแป้ง เมื่อผสมน้ำแล้วถึงจับตัวเป็นก้อนเหนียวและนุ่มได้2. พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและสายตา
การทำอาหารต้องใช้มือในการหยิบจับ คนส่วนผสม นวดแป้ง ตอกไข่ หรือจับมีดหั่นวัตถุดิบต่างๆ กิจกรรมทุกอย่างในครัวล้วนเป็นการฝึกฝนกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของลูกอย่างมาก นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนาการประสานงานระหว่างมือกับตาให้แม่นยำมากขึ้นด้วย3. เสริมความรับผิดชอบ เพิ่มความมั่นใจ
เมื่อลูกได้รับมอบหมายหน้าที่เล็กๆ น้อยๆ ในครัว ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นคนสำคัญที่มีหน้าที่ มีความสามารถ และเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารนั้นๆ ทำให้เกิดความภูมิใจในตัวเอง ซึ่งความรู้สึกที่เป็นพลังบวกเช่นนี้ จะช่วยสร้างความนับถือในตัวเองให้กับลูกได้ในระยะยาว4. สร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
การสอนลูกทำอาหารถือเป็นช่วงเวลาคุณภาพ ที่คุณพ่อคุณแม่จะได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกอย่างใกล้ชิด และลูกได้เรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ การได้พูดคุยในบรรยากาศสบายๆ ยังช่วยให้ลูกกล้าเปิดใจและสร้างสายใยความผูกพันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย5. ปลูกฝังนิสัยการกินที่ดี
การที่ลูกได้มีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร จะช่วยให้เขาคุ้นเคยกับวัตถุดิบต่างๆ มากขึ้น ทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และธัญพืชต่างๆ จึงมีแนวโน้วที่จะลองเปิดใจชิมอาหารใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม ทำให้การสอนเรื่องโภชนาการและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นเรื่องง่ายและน่าสนุกมากขึ้นอ้างอิงSrnutritionNestelUSUextension