กฟก.เชียงราย จับมือธนาคารออมสิน ลดหนี้เกษตรกรเชียงแสน เหลือเงินต้นเพียง 50%
กฟก.เชียงราย ร่วมกับ ธนาคารออมสิน ลดหนี้ให้เกษตรกรเชียงแสน เหลือเงินต้นเพียง 50% ตามมติคณะรัฐมนตรีฯ
วันที่ 21 ส.ค.68 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) และนายสิทธิเดช ปัญญานวล หัวหน้าหน่วยบริหารหนี้ และคดี ธนาคารออมสิน เขตเชียงราย ร่วมดำเนินการในการจัดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกร สมาชิก กฟก.ที่ได้รับสิทธิการเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง (กรณีธนาคารออมสิน) ให้กับเกษตรกร ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 ราย โดยผู้แทนทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมลงนามเป็นพยาน ในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ฯ (ตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) ณ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1
นางแสงจันทร์ จันทาพูน เกษตรกร กล่าวว่า ขอขอบคุณหน่วยงานสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย ที่ช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ในครั้งนี้ โดยได้เข้ามาติดต่อสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย และได้ยื่นขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร และได้ผ่านการอุทธรณ์การขึ้นทะเบียนหนี้ เมื่อปี 2566 และขอเพิ่มเติมรายชื่อเพื่อเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ฯ เมื่อปี 2567 และได้รับการช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้ฯ จากเงินต้น จำนวน 2,456,080 บาท ดอกเบี้ย จำนวน 301,223.64 บาท รวมมูลหนี้ทั้งหมด จำนวน 2,757,303.64 บาท คงเหลือเพียงชำระ เงินต้น 1,228,040 บาท หรือ 50% ตามมติคณะรัฐมนตรีฯ เท่านั้น
"ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 วันที่ 14 มีนาคม 2566 วันที่ 11 ธันวาคม 2567 และวันที่ 8 เมษายน 2568 เห็นชอบในหลักการการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กับธนาคารฯ ของรัฐ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยให้เกษตรกรทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เดิม และให้เกษตรกรทำสัญญาผ่อนชำระเงินต้นคงค้างครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี โดยไม่ เสียดอกเบี้ย สำหรับการชดเชยเงินต้นร้อยละ 50 และดอกเบี้ยในส่วนที่เกษตรกรไม่ต้องรับภาระ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รัฐบาลจะรับภาระจัดสรรชดเชยให้กับธนาคารฯ เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว”